กทค.เคาะใบอนุญาต 3 จี 9 ใบ

กทค.เคาะใบอนุญาต 3 จี 9 ใบ

พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.)
 
เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการออกใบอนุญาตประกอบกิจการโทรศัพท์มือถือ 3 จี บนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ จำนวน 45 เมกะเฮิรตซ์ ได้สรุปรูปแบบประมูลคลื่นความถี่ โดยกำหนดแบ่งช่วงคลื่นความถี่เป็นช่วง ช่วงละ 5 เมกะเฮิรตซ์ รวม 9 ช่วง หรือใบอนุญาต 9 ใบ โดยเปิดประมูลแบบพร้อมกัน พร้อมกำหนดอัตราสูงสุดว่าเอกชนที่จะเข้าร่วมประมูลสามารถประมูลได้ไม่เกิน 4 ช่วง หรือ 20 เมกะเฮิตรซ์ เพื่อให้เกิดการแข่งขันมากยิ่งขึ้น ส่วนวิธีการประมูลจะไม่ใช่วิธีประมูลแบบ N-1 เพราะไม่สามารถป้องกันการฮั้วราคาได้ ส่วนราคาเริ่มต้นการประมูลยังไม่มีข้อสรุปแต่อย่างใด โดยจะพิจารณาในการประชุมคราวหน้า

“กสทช.พยายามที่จะทำขั้นตอนการประมูลให้โปร่งใส ทุกฝ่ายสามารถตรวจสอบได้ ส่วนการกำหนดช่องคลื่นประมูลช่องละ 5 เมกะเฮิรตซ์ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายเล็กสามารถเข้าร่วมการประมูล และเข้าร่วมเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือของประเทศได้ กสทช.คาดหวังว่าภายในเดือน พ.ค.นี้ จะมีความชัดเจนในเรื่องเงื่อนไขการประมูล วิธีการประมูล หลักเกณฑ์การประมูล และภายในไตรมาส 3 หรือไม่เกินเดือน ต.ค.55 ประเทศไทยน่าจะเปิดประมูลใบอนุญาต 3 จี ได้” พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานงานเพิ่มเติมว่า การแบ่งช่วงคลื่นความถี่ 5 เมกะเฮิตรซ์ และสามารถประมูลสูงสุดได้ไม่เกิน 20 เมกะเฮิตรซ์

ได้มีข้อถกเถียงกันมาก เพราะหลายฝ่ายไม่เห็นด้วยเนื่องจากเกรงว่าจะมีผู้ชนะประมูลเพียง 2 ราย รายละ 20 เมกะเฮิตรซ์ ส่วนที่เหลือ 5 เมกะเฮิรตซ์ จะไม่มีผู้ประมูล ส่วนฝ่ายที่เห็นด้วยก็แสดงความเห็นว่าจะทำให้เกิดการแข่งขันมากยิ่งขึ้น เพราะเอกชนที่เข้าร่วมประมูลก็ต้องแข่งขันให้ได้คลื่น 15-20 เมกะเฮิตรซ์ อีกทั้งยังจะทำให้ กสทช.ได้เงินจากการประมูลในอัตราที่สูงด้วย และเป็นกลยุทธ์ในการสร้างไม่แน่นอนให้กับผู้เข้าร่วมประมูล เพื่อให้เกิดการประมูลอย่างแท้จริง และในอนาคตอันใกล้จะมีคลื่นความถี่ที่ต้องนำมาเปิดประมูลอีกทั้ง 1800 เมกะเฮิตรซ์  900 เมกะเฮิตรซ์ และ 850 เมกะเฮิตรซ์ ตามลำดับ เพราะสัญญาสัมปทานจะสิ้นสุดตั้งแต่ปี 2556-2558 ฉะนั้นจะมีคลื่นความถี่อีกหลายส่วนที่จะนำมาเปิดประมูลเพื่อให้บริการ 3 จี ได้.- สำนักข่าวไทย

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์