ข้าวถุงเตรียมโขกราคาเดือนส.ค.นี้ โวยพิษรับจำนำ

นายสมเกียรติ มรรคยาธร นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย กล่าวว่า

ขณะนี้โรงสีได้ประกาศหยุดซื้อขายข้าวชั่วคราวแล้ว เพื่อรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายรับจำนำว่าจะมีรายละเอียดและเริ่มดำเนินโครงการเมื่อใด รวมทั้งยังคาดการณ์ว่าราคาข้าวจะสูงขึ้นอีกจึงชะลอการขาย ทำให้หาซื้อข้าวมาบรรจุถุงเพื่อจำหน่ายยากขึ้น ขณะที่ภาวะการขายข้าวสารบรรจุถุงในตลาดยังเป็นไปตามปกติ โดยขณะนี้ผู้ประกอบการข้าวถุงมีสต๊อกข้าวสารเหลือไว้จำหน่ายได้ประมาณ 2 เดือนเท่านั้น

ทั้งนี้ ราคาข้าวเปลือกในตลาดปรับสูงขึ้นมากในขณะนี้

โดยเฉพาะข้าวสารหอมมะลิราคาปรับขึ้นจากกิโลกรัม(ก.ก.) ละ 28-30 บาท เป็นก.ก.ละ 30-32 บาท ส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนข้าวสารบรรจุถุง โดยมีการคาดการณ์ว่าจากนี้ไปจนถึงสิ้นปีราคาข้าวเปลือกจะปรับสูงขึ้นอีก 60% นอกจากนี้ การเตรียมปรับขึ้นค่าแรงเป็นวันละ 300 บาท ทั่วประเทศจะซ้ำเติมภาระต้นทุนข้าวสารบรรจุถุงให้สูงขึ้นอีก เนื่องจากค่าแรงงานในกระบวนการผลิตและขนส่งข้าวสารบรรจุถุงมีสัดส่วนมากถึง 8% ต้นทุนวัตถุดิบ 80% ที่เหลืออีก 12% เป็นต้นทุนด้านอื่นๆ โดยหากมีการปรับขึ้นค่าแรงเป็นวันละ 300 บาท ต้นทุนค่าจ้างแรงงานจะเพิ่มขึ้นวันละ 80 บาท คือจะปรับจากวันละ 220 บาท เป็นวันละ 300 บาท จะทำให้ต้นทุนค่าจ้างแรงงานข้าวสารบรรจุถุงเพิ่มขึ้นอีก 3% และกลายเป็นสัดส่วนต้นทุน 11% ทันที

"ขณะนี้เรามีสต๊อกข้าวเหลืออีก 1-2 เดือน ซึ่งเป็นต้นทุนเก่า จะยังไม่ปรับขึ้นราคาข้าวสารถุง แต่ในอีก 2 เดือน เมื่อ สต๊อกข้าวเก่าหมด คาดว่าช่วงเดือนส.ค.นี้ อาจจะต้องปรับขึ้นราคาข้าวสารบรรจุถุง เพราะต้องซื้อข้าวใหม่ซึ่งมีราคาแพงมาบรรจุถุงเพื่อจำหน่าย ขณะที่ปีหน้าอาจจะต้องมีการพิจารณาราคาข้าวสารอีกครั้งหากรัฐบาลประกาศใช้อัตราค่าจ้างแรงงานใหม่ที่วันละ 300 บาท ในช่วงต้นปีหน้า เพราะผู้ประกอบการมีต้นทุนค่าแรงเพิ่มสูงขึ้นอีก 3% เช่นกัน" นายสมเกียรติกล่าว

นายสมเกียรติ กล่าวว่า ต้องการให้กระทรวงพาณิชย์ให้ความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายการกำหนดราคาข้าวสารว่า
 
ควรจะต้องสอดคล้องกับต้นทุนราคาข้าวเปลือกในโครงการรับจำนำ เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการต้องขาดทุนซื้อแพงขายถูก ควรปล่อยราคาให้เป็นไปตามกลไกราคาข้าวเปลือกในตลาดด้วย ซึ่งสมาคมอาจจะขอเข้าพบรมว.พาณิชย์คนใหม่ เพื่อขอรับทราบนโยบายดังกล่าวด้วย ซึ่งมาตรการดูแล ราคาข้าวสารบรรจุถุงที่ผ่านมา กรมการค้าภายในกำหนด ให้ผู้ประกอบการต้องแสดงต้นทุนหากมีการแจ้งขอปรับราคาจำหน่าย

ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายมองว่าหากผู้ประกอบการข้าวถุงมีการปรับราคาจำหน่ายจนทำให้ราคาแพง

อาจทำให้รัฐบาลผลิตข้าวสารบรรจุถุงออกมาจำหน่ายแข่งในราคาถูกกว่านั้น ตนมองว่าขึ้นอยู่กับผู้บริโภคว่าจะยอมรับเรื่องคุณภาพข้าวสารของรัฐบาลได้หรือไม่ เนื่องจากข้าวในสต๊อกรัฐบาลส่วนใหญ่เป็นข้าวที่ไม่ได้มีการควบคุมคุณภาพเหมือนกับของผู้ประกอบการเอกชน ซึ่งตนมองว่าผู้บริโภคสมัยใหม่อาจให้ความสำคัญกับด้านคุณภาพมากกว่าราคา โดยยอมจ่ายแพงกว่าเพื่อบริโภคข้าวคุณภาพดี เนื่องจากเป็นสินค้าหลักที่ต้องบริโภคทุกวัน

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์