ญี่ปุ่นเฮ!อุดรอยรั่วเตานุกสำเร็จ

คนญี่ปุ่นเริ่มยิ้มออก หลังเจ้าหน้าที่ใช้ "โซเดียม ซิลิเกต" อุดรอยรั่วกู้วิกฤติโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ

ความคืบหน้าสถานการณ์วิกฤติโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 6 เม.ย.สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ว่า บริษัทโตเกียว อีเลคตริค เพาเวอร์ (เทปโก) เจ้าของผู้ดูแลโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิจิ 250 กม.ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงโตเกียว ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งรอยรั่วขนาดยาว 20 ซม.บนบ่อระบบหล่อเย็นของเตาปฏิกรณ์หมายเลข 2 จนเกิดน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี ไอโอดีน-131 สูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 4,000 เท่าได้ไหลลงสู่ทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิก จนเกรงว่าจะเกิดอันตรายในระยะยาว รัฐบาลญี่ปุ่นจึงต้องประกาศเกณฑ์มาตรฐานวัดความปลอดภัยสำหรับอาหารทะเล ซึ่งอาจมีการปนเปื้อน
   
โดย เทปโก แถลงว่า คนงานของบริษัทสามารถอุดรอยรั่วได้สำเร็จแล้วเมื่อเวลาประมาณ 05.38 น.วันพุธตามเวลาท้องถิ่น
 
ซึ่งตรงกับ 03.38 น.วันเดียวกันตามเวลาในประเทศไทย ด้วยการอัดสารเคมีที่มีชื่อว่า "โซเดียม ซิลิเกต" หรือที่รู้จักกันในชื่อ "น้ำแก้ว หรือ น้ำกาว" โดยข้อมูลในอินเตอร์เน็ตระบุว่า สารเคมีตัวนี้เป็นน้ำยาบ่มคอนกรีตชนิดโซเดียม ซิลิเกต สามารถแทรกซึมบนพื้นผิวของคอนกรีตและปูนฉาบได้เป็นอย่างดี หน้าที่ถูกกำหนดให้มาทำปฏิกิริยากับหินปูน ส่วนที่เหลือจากปฏิกิริยาไฮโดรชั่นอีกครั้งหนึ่ง จึงทำให้ผิวหน้าของคอนกรีตแข็งขึ้น ลดรูพรุนที่เกิดจากน้ำในคอนกรีตที่ระเหยออกมาได้
   
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เทปโก เคยพยายามมาแล้วหลายครั้งในอันที่จะอุดรอยรั่วนี้ให้ได้ ถึงขนาดใช้วิธีการอัดซีเมนต์ลงไปแต่ก็ยังไม่เป็นผล
 
อย่างไรก็ตามเมื่ออุดรอยรั่วได้แล้ว ดูเหมือนว่าระดับของสารกัมมันตรังสีในน้ำทะเลนอกฝั่งของโรงไฟฟ้าจะลดลงไปด้วย แม้จะเป็นข่าวดีชิ้นแรกในช่วงหลายวันที่ผ่านมาของการกู้วิกฤติโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่วางใจเสียทีเดียว ต้องทำการตรวจสอบซ้ำอีกครั้งว่า มีรอยรั่วปรากฏตรงจุดอื่นๆอีกด้วยหรือไม่ ซึ่งทำให้น้ำทะเลมีระดับของสารกัมมันตรังสีสูงเกินปกติ
   
เจ้าหน้าที่ของเทปโก กล่าวด้วยว่า เทปโกมีความกังวลเกี่ยวกับการสะสมของก๊าซไฮโดรเจนในอาคารคลุมเตาปฏิกรณ์หมายเลข 1
 
ซึ่งอาจมีปฏิกิริยาอย่างรุนแรงเมื่อผสมกับก๊าซออกซิเจน จนเกิดการระเบิดขึ้นมาก็ได้ ดังนั้นเทปโก จึงมีแผนที่จะอัดฉีดแก๊สไนโตรเจน ซึ่งเป็นแก๊สเฉื่อยที่มีอยู่มากมายในชั้นบรรยากาศเข้าไปแทนที่ของก๊าซออกซิเจน เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดการระเบิดขึ้นมา กระบวนการนี้จะต้องเร่งดำเนินการอย่างเร็วที่สุด
   


ทั้งนี้นับตั้งแต่เกิดภัยธรรมชาติถล่มพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา
 
ทางการได้ประกาศพื้นที่อันตรายห้ามเข้าในรัศมี 20 กม.รอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ต้องประกาศอพยพผู้คนจำนวนมากออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากโรงไฟฟ้าปล่อยสารกัมมันตรังสีลอยฟุ้งไปในอากาศ เกิดการปนเปื้อนทั้งในน้ำดื่ม และผลผลิตทางการเกษตร นอกจากนั้นทางเกาหลีเหนือยังอ้างว่า ได้ตรวจพบสารกัมมันตรังสีในอากาศแม้จะน้อยอยู่ แต่ก็ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
   
ด้านอินเดียซึ่งเป็นประเทศแรกที่สั่งห้ามนำเข้าอาหารทุกชนิดจากประเทศญี่ปุ่นในขณะนี้
 
ขณะที่ประเทศอื่นๆเช่น จีน สิงคโปร์ และ สหรัฐเลือกที่จะห้ามนำเข้าจากจังหวัดที่เกี่ยวข้องกับการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะเท่านั้น ขณะที่สหภาพยุโรป (อียู) แถลงว่าจะเริ่มการเข้มงวดเรื่องการตรวจวัดสารกัมมันตรังสีในอาหารที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น ส่วนการประมงในรัศมี 20 กม.รอบโรงไฟฟ้าก็ยังคงมีผลบังคับใช้อยู่ ซึ่งก็เท่ากับเขตอันตรายห้ามเข้าในรัศมี 20 กม.รอบโรงไฟฟ้า
   
เจ้าหน้าที่เทปโกระบุต่อไปว่า เทปโกยังคงดำเนินการเททิ้งน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี 11,500 ตัน

เพราะต้องใช้พื้นที่ในการกักเก็บน้ำที่มีการปนเปื้อนสูง ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญยิ่งสำหรับงานกู้วิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และ ขณะนี้ได้ทำการเททิ้งลงในทะเลไปแล้ว 10,400 ตัน แต่ปฏิบัติการนี้ทำให้เกิดกระแสต่อต้านอย่างรุนแรงทั้งในประเทศญี่ปุ่นเองและในต่างประเทศ เช่นรัฐบาลของเกาหลีใต้เพื่อนบ้านของญี่ปุ่น ระบุว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่กดดันมากสำหรับเกาหลีใต้
   
ส่วนหุ้นของบริษัทเทปโกยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในวันพุธ โดยลดลงไปร้อยละ 6.9 ปิดที่ราคา 337 เยน

ถือว่าตกมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และผลกระทบด้านเศรษฐกิจนับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหว สึนามิและวิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ อาจทำให้ประเทศญี่ปุ่นต้องอยู่ในภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจในช่วงอีกหลายเดือนที่กำลังจะมาถึงนี้ ตัวแรกของชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าไปที่สนามบินนาริตะ กับสนามบินคันไซ ยังลดลงไปประมาณ 2 ใน 3 

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนที่จะอนุมัติเงินงบประมาณฉุกเฉินก้อนแรกกว่า 3 ล้านล้านเยน (35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.05 ล้านล้านบาท) ในการฟื้นฟูประเทศ แต่ยอดเงินทั้งหมดอาจสูงถึง 10 ล้านล้านเยน
   
สำหรับบรรยากาศโดยทั่วไปของเมืองฟูกูชิมะ จังหวัดฟูกูชิมะ เริ่มกลับสู่สภาวะปกติในบางส่วนแล้ว โดยในวันพุธ มีการเปิดโรงเรียนสำหรับเด็กเล็กจำนวน 70 โรงด้วยกัน หลังจากที่ต้องปิดทำการเรียนการสอนเพราะเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิ วันเดียวกันนี้ เจ้าชายนารูฮิโต มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น พร้อมด้วยพระชายา เจ้าหญิงมาซาโกะ ได้เสด็จไปเยี่ยมปลอบขวัญประชาชนผู้ประสบภัย ซึ่งอพยพมาจากจังหวัดฟูกูชิมะและเข้ามาอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ภายในสนามกีฬาอายิโนะโมโตะ เมืองโชฟุ จังหวัดยามากูจิ ทางตะวันตกของกรุงโตเกียว ซึ่งทั้งสองพระองค์ทรงตรัสถามประชาชนด้วยความห่วงใย

ทั้งนี้มีรายงานจากกรุงจากการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย แจ้งว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.8 ริคเตอร์ ในทะเลนอกชายฝั่งประเทศอินโดนีเซียเมื่อคืนวันพุธ

โดยสำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า ตรวจจับแรงไหวได้เมื่อเวลา 21.01 น. (เวลาเดียวกันกับไทย) มีจุดศูนย์กลางอยู่ลึก 18 กม. ในทะเลห่างชายฝั่งเมืองซิโบลกา บนเกาะสุมาตราประมาณ 190 กม. ขณะที่ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิก ที่เกาะฮาวายของสหรัฐ ไม่ได้ออกประกาศเตือนภัยสึนามิแต่อย่างใด.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์