อย.ชี้ยาทำแท้งทางเว็บไซต์เป็นยาอันตราย เผยปี51-53 สั่งปิดไปแล้ว 327 เว็บไซต์


อย.ชี้ยาทำแท้งทางเว็บไซต์เป็นยาอันตราย เผยปี51-53 สั่งปิดไปแล้ว 327 เว็บไซต์

เมื่อวันที่ 14  ตุลาคม   นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี  เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)  กล่าวถึงกรณีเด็กนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งทำแท้งจากการซื้อยาผ่านเว็บไซต์ ว่า   ยากลุ่มนี้เป็นยาควบคุมพิเศษที่ห้ามจำหน่ายในร้านขายยาทั่วไป ใช้ได้เฉพาะในสถานพยาบาลเท่านั้น เนื่องจากเป็นยาที่มีผลข้างเคียงสูง  โดยยาดังกล่าวได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นยารักษาโรคกระเพาะที่ต้องควบคุม เนื่องจากหากใช้ไม่เหมาะสมจะส่งผลข้างเคียง เกิดการบีบตัวของมดลูก การที่คนไปซื้อมาใช้โดยไม่ผ่านการแนะนำหรือดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดเป็นเรื่องที่เสี่ยงอันตรายมาก

นพ.พิพัฒน์ กล่าวอีกว่า  กรณีกลุ่มยาทำแท้งที่มีการขายทางเว็บไซต์นั้น ทาง อย.ได้ประสานกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)   ทำการตรวจสอบมาโดยตลอด โดยข้อมูลตั้งแต่ปี 2551-2553  ได้ตรวจพบและสั่งปิดเว็บไซต์ไปแล้วทั้งสิ้น  327 เว็บไซต์
  โดยที่ผ่านมาจับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมาย ได้เพียง 1 รายซึ่งเป็นแพทย์  อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการสั่งปิดเว็บไซต์และจับกุมไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีการจำหน่ายอยู่ เนื่องจากความต้องการของเด็ก ที่ขาดการยับยั้งชั่งใจและไม่มีหนทางแก้ปัญหายังต้องเลือกใช้วิธีนี้ เพราะขาดที่ปรึกษาที่ดี สิ่งสำคัญควรแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยการดูแลและให้ความรู้แก่เด็กให้เรียนรู้วิธีป้องกันที่ถูกวิธี ซึ่งดีกว่าการแก้ที่ปลายเหตุด้วยการมุ่งเน้นการจับกุมเท่านั้น  ดังนั้น หากมีการแก้ไขและป้องกันควบคู่กันไปก็จะยิ่งเป็นทางออกที่ดี

ด้าน พญ.วารุณี จินารัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี
 กล่าวถึงความคืบหน้าอาการของวัยรุ่นหญิงที่ใช้ยาทำแท้งดังกล่าว ว่า  แพทย์ได้นำรกออกมาจากช่องท้องและทำความสะอาดให้ผู้ป่วยพร้อมทั้งเติมเลือดเพื่อทดแทนการเสียเลือดในร่างกายแล้ว  โดยขณะนี้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นสามารถลุกนั่งได้ แต่ยังไม่สามารถเดินได้ ทั้งนี้จะต้องมีการเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด เพื่อเฝ้าระวังการติดเชื้อในช่องคลอดและมดลูก   คาดว่าต้องให้ผู้ป่วยนอนพักรักษาอาการอีกประมาณ 2-3 วัน


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์