แห่แจ้งจับ3แกนนำเสื้อแดงช่วยผู้ต้องหา

คมชัดลึก :ประชาชน-พันธมิตรฯแห่แจ้งจับ 3 แกนนำกลุ่มเสื้อแดงช่วยผู้ต้องหา-หมิ่นศาล นายกฯอภิสิทธิ์ ย้ำฎีกาไม่เข้าหลักเกณฑ์กม.ก็จบ


(15ส.ค.) พล.อ.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ อดีตนายทหารราชองครักษ์เวร พ.ต.ท.พชรเกรียงชัย ศรีหนาท อดีตรองผกก.อก.ภ.จังหวัดตราด และประชาชนกว่า 30 คน เข้าพบ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล พนักงานสอบสวนกองบังคับการกองปราบปราม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ประกอบด้วย นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ในข้อหาช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดเพื่อไม่ให้ต้องโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 189 และความผิดตามมาตรา 198 ข้อหาดูหมิ่นศาล หรือผู้พิพากษาในการพิจารณาพิพากษาคดี หรือกระทำการขัดขวางการพิจารณาหรือพิพากษาของศาล หลังจากกลุ่มแกนนำเสื้อแดงดังกล่าวดำเนินการล่ารายชื่อประชาชนลงนามถวายฎีกาให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้ต้องหา ซึ่งหลบหนีคดี
 
 พล.อ.กิตติศักดิ์ กล่าวว่า ทั้งสามคนรู้อยู่แก่ใจว่า ฎีกาดังกล่าวไม่สามารถกระทำได้โดยชอบด้วยกฎหมาย เพราะเนื้อหาที่จัดพิมพ์ขึ้นมีลักษณะเป็นการกล่าวร้ายต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่า ตัดสินคดีสองมาตรฐาน ถือว่าเข้าข่ายดูหมิ่นศาล และกลุ่มคนเสื้อแดงไม่มีสิทธิ และไม่มีอำนาจขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้
 
 ทั้งนี้ มาตรา 23 วรรคสองบัญญัติไว้ว่า คดีที่ศาลฎีกาได้พิจารณาหรือมีคำสั่งแล้ว คู่ความไม่มีสิทธิที่จะทูลเกล้าถวายฎีกาคดีนั้นต่อไป และประกอบพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2549 มาตรา 4 บัญญัติว่า ผู้ซึ่งจะได้รับการอภัยโทษตามพระราชกฤษฎีกานี้ต้องมีตัวอยู่ในความควบคุมของทางราชการ หรือถูกกักขังไว้ในสถานที่ หรือที่อาศัยที่ศาลหรือทางราชการกำหนด ในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับติดต่อกันไปจนถึงวันที่ศาลออกหมายสั่งปล่อย หรือลดโทษ หรือนายกฯมีคำสั่งปล่อยหรือลดโทษ เว้นแต่ผู้ที่ทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับ
 
 พล.อ.กิตติศักดิ์ ระบุว่า การปลุกระดมให้ประชาชนร่วมลงชื่อทูลเกล้าถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ให้แก่พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งที่ยังไม่ได้รับโทษ เพราะหลบหนีไปก่อนที่ศาลจะอ่านคำพิพากษา อีกทั้งยังหลบหนีหมายจับของศาลในคดีฉ้อราษฎร์บังหลวง ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอีกหลายคดี นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมิได้สำนึกในการกระทำความผิดของตัวเอง นับว่าเป็นเรื่องมิบังควรอย่างยิ่ง
 
 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 12.00 น. วันเดียวกัน นายชุบ ชัยฤทธิไชย อดีตประธานสภาทนาย จ.นครราชสีมา ทนายพันธมิตรฯ โคราช พร้อมสมาชิกกว่า 30 คน เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.จำนงค์ สายป้อง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ให้ดำเนินคดีกับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง และพวกในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 198 ซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดต่ออาญาแผ่นดิน และหมิ่นศาล พร้อมรายละเอียดของฎีกา โดยมีรายชื่อผู้เข้าร่วมแจ้งความ จำนวน 230 รายชื่อ
 
 ส่วนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.ชัยภูมิ และ จ.กำแพงเพชร ก็เดินทางเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีกับ 3 แกนนำเสื้อแดงในการยื่นขอฎีกาพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เช่นกัน

 ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับมือการถวายฎีกาคนเสื้อแดง ว่า ได้คุยกับพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เพื่อประสานให้ดูเรื่องเวลา และสถานที่ไม่ให้เกิดการปะทะกัน อย่างไรก็ตาม ต้องยืนยันกับทุกกลุ่มว่า อย่าทำอะไรให้เกิดความรุนแรง ให้เกิดปัญหากับบ้านเมือง เพราะสุดท้ายประชาชน และประเทศชาติจะเดือดร้อน การมาใช้สิทธิอะไรต่างๆ ในขอบเขตของกฎหมายก็ทำได้อยู่แล้ว แต่อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มอื่นๆ
 
 ผู้สื่อข่าวถามว่ากลุ่มบ้านเลขที่ 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย จะมาเป็นผู้นำการยื่นถวายฎีกาให้คนเสื้อแดงจะมีผลอะไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีผลอะไร เพราะอย่างที่บอกแล้วว่าถ้าเป็นการขออภัยโทษก็ต้องเป็นเจ้าตัวหรือครอบครัวที่มีความเดือดร้อนโดยตรง หากไม่เข้าเกณฑ์ตามนี้ก็จบ ไม่ได้เกี่ยวว่าจะมีจำนวนคนมากน้อยแค่ไหนที่มาลงชื่อถวายฎีกา หรือคนที่มายื่นมีชื่อเสียงหรือไม่
 
 เมื่อถามว่า หากการถวายฎีกามาถึงขั้นตอนของรัฐบาลแล้ว จะใช้เวลาดำเนินการมากน้อยแค่ไหน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลคงต้องขอดูเนื้อหาสาระ วิธีการยื่นถวายฎีกาและรายละเอียดทั้งหมดก่อน อย่างไรก็ตาม เท่าที่ตนพิจารณาแล้วเห็นว่าการถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามกฎหมาย เพราะต้องเป็นเจ้าตัวหรือครอบครัวเป็นผู้ยื่นถวายฎีกา แต่ถ้าเป็นเรื่องถวายฎีกาความเดือดร้อนทั่วไป เหมือนกับที่เวลาชาวบ้านมีปัญหาเราก็จะมาดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ถ้าเป็นเรื่องการเมืองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
 
 ทั้งนี้ หากการถวายฎีกาไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามกฎหมาย รัฐบาลก็ไม่จำเป็นต้องพิจารณาและดำเนินการใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราก็จะชี้แจงกลับไปว่าเรื่องนี้ไม่เข้าหลักเกณฑ์ ซึ่งปกติแล้วเมื่อสำนักราชเลขาธิการรับฎีกามาแล้วจะทำเรื่องของความคิดเห็นจากรัฐบาล

 พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รักษาราชการแทน ผบ.ตร. กล่าวถึงการเตรียมรับสถานการณ์ ว่า ได้ประสานตัวแทนกลุ่มเสื้อแดงจะไปยื่นเรื่องผ่านผู้แทนของสำนักราชเลขาธิการ ในเวลาประมาณ 13.00 น. จากนั้นจะกลับมารวมตัวที่สนามหลวงแล้วจึงสลายการชุมนุม ส่วนกลุ่มเสื้อน้ำเงินที่นัดหมายมาให้กำลังใจ นายเนวิน ชิดชอบ ที่มาฟังคำพิพากษาคดีกล้ายางวันเดียวกัน ศาลนัดเวลา 14.00 น. แต่เข้าใจว่า กลุ่มเสื้อน้ำเงินคงเดินทางมาล่วงหน้า แต่ตำรวจจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้คนทั้งสองกลุ่มเผชิญหน้าหรือปะทะกัน ซึ่งเมื่อฟังการเตรียมการของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)แล้วก็เชื่อว่าไม่น่าเหตุการณ์อะไรขึ้น


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์