ไทยเฝ้าระวังผู้ป่วยไข้หวัดเอ 2 ราย WHO จ่อเตือนภัยระดับ 6 เม็กซิโกโต้คนตายแค่ 101

"หวัดใหญ่เอ" จ่อขึ้นระดับเตือนภัยเป็น 6 ระบาด15ประเทศ เม็กซิโกลดจำนวนคนตายจาก 176 เหลือ 101 คน จีนส่งเครื่องบินรับคนกลับระงับเที่ยวบิน พบแพร่ถึงฮ่องกง ไทยเฝ้าระวังผู้ป่วยหญิง2ราย

"ไข้หวัดใหญ่เอ"ระบาด15ประเทศ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือไข้หวัดเม็กซิโก หรือไข้หวัดหมู ซึ่งองค์การอนามัยโลก (ฮู) ให้เรียกชื่อใหม่ว่า"ไข้หวัดใหญ่เอ (เอช1 เอ็น1)" เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม โดยฮูระบุว่า ยืนยันพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่เอ (เอช1 เอ็น1) ทั่วโลก 365 ราย ใน 13 ประเทศ คือ เม็กซิโก 156 ราย และเสียชีวิต 9 ราย, สหรัฐอเมริกา 141 ราย และเสียชีวิต 1 ราย, แคนาดา 34 ราย, สเปน 13 ราย และอังกฤษ 8 ราย ส่วนที่นิวซีแลนด์และเยอรมนี ยืนยันพบผู้ติดเชื้อประเทศละ 3 ราย, อิสราเอล 2 ราย ขณะที่ออสเตรีย เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ เดนมาร์ก และฮ่องกง ซึ่งเป็นที่แรกในเอเชีย มีผู้ติดเชื้อประเทศละ 1 ราย

ขณะที่มีรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่เอ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยสาธารณสุขประเทศฝรั่งเศสแจ้งในวันเดียวกันว่า ยืนยันพบผู้ติดเชื้อ 2 ราย และกำลังตรวจสอบผู้ที่คาดว่าอาจจะติดเชื้ออีก 34 ราย ส่วนที่ประเทศแคนาดาได้เพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อเป็น 51 ราย และที่อังกฤษได้เพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 13 ราย นอกจากนี้ เกาหลีใต้ยังเป็นประเทศล่าสุดที่มีรายงานยืนยันพบผู้ติดเชื้อ 1 ราย และต้องสงสัยอีก 20 คน โดยผู้ติดเชื้อเป็นหญิงสาววัย 51 ปี ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศเม็กซิโก ทำให้จำนวนประเทศที่ยืนยันพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่เอ มีทั้งสิ้น 15 ประเทศแล้ว

ด้านประเทศเม็กซิโกได้ปรับจำนวนตัวเลขผู้ต้องสงสัยว่าเสียชีวิตจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่เอ จากที่เคยประกาศไว้ว่ามีจำนวน 176 คน ลดเหลือเพียง 101 คน และยืนยันพบผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 397 คน ผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้ออีก 2,500 คน ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการตรวจผู้เสียชีวิตที่ต้องสงสัยว่าติดเชื้ออย่างละเอียดอีกครั้ง จึงพบว่าไม่ได้เสียชีวิตเพราะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่เอ จึงปรับตัวเลขลดลง ขณะที่ตัวเลขยืนยันผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 16 ราย

"ฮู" อาจเพิ่มระดับเตือนภัยเป็น6

เอเอฟพีรายงานว่า นายโรเบิร์ต กิบส์ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่า ฮูอาจจะเพิ่มระดับการเตือนภัยการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่เอ ในเร็วๆ นี้ไปอยู่ที่ระดับ 6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของการเตือนภัยโรคระบาด ที่หมายถึงเกิดการระบาดไปแล้วทั่วโลก จากที่ปัจจุบันฮูเตือนภัยอยู่ในระดับ 5 โดยนายกิบส์กล่าวว่า คิดว่าฮูอาจจะเพิ่มระดับเตือนภัยโรคในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ด้านการเตรียมพร้อมของสหรัฐที่มีการวางแผนไว้พร้อมอยู่เสมอสำหรับการป้องกันชาวอเมริกาทุกกรณี

เอพีรายงานว่า บริษัท แกล็กโซสมิธไคลน์ ผู้ผลิตยารายใหญ่อันดับ 1 ของโลก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แถลงเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม จะเพิ่มกำลังการผลิตยาต่อต้านไวรัส "รีเลนซา" ให้ได้ 5 ล้านแผงต่อเดือน หลังจากที่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่เอในสหรัฐเพิ่มมากขึ้น แต่อาจจะต้องใช้เวลาราว 12-14 สัปดาห์ กว่าจะเพิ่มการผลิตได้ในระดับดังกล่าว เพื่อให้พอกับความต้องการในการตุนยาเอาไว้ของรัฐบาลสหรัฐ โดยรีเลนซาเป็น 1 ในยาที่ใช้สำหรับรักษาโรคไข้หวัดใหญ่เอ โดยยาอีกตัวหนึ่งคือ ทามิฟลู ของบริษัท โรช ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

จีนส่งเครื่องบินรับคนกลับ

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า จีนได้ส่งเครื่องบินไปยังประเทศเม็กซิโก เพื่อรับชาวจีนกลับมายังประเทศแล้ว หลังจากมีรายงานยืนยันพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่เอ ที่เกาะฮ่องกง นอกจากนี้ทางการจีนยังได้ระงับเที่ยวบินบินไปประเทศเม็กซิโกเป็นการชั่วคราว โดยกระทรวงสาธารณสุขจีนได้สั่งให้ทางการท้องถิ่นกักตัวผู้โดยสารทั้งหมดที่นั่งเครื่องบินของสายการบินเม็กซิกัน แอร์ไลน์ส ที่บินมาจากเม็กซิโกไปลงที่เซี่ยงไฮ้ รวมทั้งผู้ที่นั่งเที่ยวบินเดียวกับชายผู้ติดเชื้อที่นั่งเครื่องจากเซี่ยงไฮ้ไปลงที่ฮ่องกงด้วยสายการบินไชน่า อีสเทิร์น

ด้านเอพีรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านไข้หวัดใหญ่ได้ออกมาระบุว่า เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่เอ ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ ดูเหมือนจะไม่ได้รุนแรงอย่างที่คาดการณ์กันไว้ โดยนางแนนซี่ ค็อกซ์ หัวหน้าฝ่ายโรคไข้หวัดใหญ่ จากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค ของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า จากการวิจัยไวรัสเอช1 เอ็น1 สายพันธุ์ที่กำลังระบาดอยู่อย่างใกล้ชิด พบว่ายีนของไวรัสตัวนี้ไม่ได้มีคุณลักษณะพิเศษใดๆ เหมือนกับที่เคยเจอในไวรัสที่ระบาดเมื่อ ค.ศ.1918 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 40-50 ล้านคนทั่วโลก หรือเหมือนกับไวรัสหวัดนกที่ระบาดไปทั่วเมื่อหลายปีก่อนและทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 250 คน อย่างไรก็ตาม ค็อกซ์กล่าวว่า เป็นไปได้ว่าเราอาจจะไม่รู้จักเชื้อไวรัสตัวนี้ดีพอ จึงต้องมีการศึกษาต่อไป

"มาร์ค"สั่งระวังป้องกันเต็มที่

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการระบาดของไข้หวัดใหญ่เอ ที่เริ่มระบาดเข้ามาในเอเชีย โดยพบผู้ป่วยที่ฮ่องกงว่า ขณะนี้ได้มีคณะกรรมการติดตามดูแล และมีมาตรการเรื่องเฝ้าระวังเต็มที่ ซึ่งในสัปดาห์หน้าที่จะมีการประชุมรัฐมนตรีว่าการสาธารณสุขอาเซียน ก็น่าจะมีความหนักแน่นมากขึ้นในภูมิภาคเอาเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าการที่มีคนเดินทางมากก็มีโอกาสที่จะตรวจพบประเทศที่มีการระบาดเพิ่มขึ้น ซึ่งไทยต้องทำเต็มที่เพื่อไม่ให้เข้ามาในภูมิภาคนี้ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีมาตรการตรวจสอบพิเศษผู้ที่เดินทางมาจากฮ่องกงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้ก็เห็นมาตรการที่เข้มงวดขึ้นทุกประเทศ อย่างในโรงแรมก็เข้มงวดมากขึ้น หากทุกประเทศเข้มงวดตั้งแต่ขาออกก็จะง่ายมากขึ้น เมื่อถามว่า ประเทศไทยต้องผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิดนี้เพิ่มเติมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ได้เดินหน้าเต็มที่ในการจัดหามา
 
ปชป.รณรงค์เลิกใช้มือถูหน้า

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงการจัดประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน ระหว่างวันที่ 7-8 พฤษภาคมนี้ ซึ่งอยู่ในช่วงที่มีการนัดชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นว่า ทางเจ้าหน้าที่คงต้องดูแลให้การชุมนุมประสบผลสำเร็จ เพราะเป็นผลประโยชน์ของอาเซียน โดยเฉพาะเรื่องไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่ทุกประเทศในอาเซียนต้องร่วมมือกันในการแก้ปัญหา

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่เชื้อของไข้หวัดใหญ่เอว่า ขณะนี้มีรายงานว่าพบผู้ป่วยในแถบเอเชีย โดยเป็นชาวเม็กซิกันที่มาอยู่ฮ่องกงและอีกรายหนึ่งเป็นชาวเกาหลีใต้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าเชื้อแพร่เข้ามายังพื้นที่เอเชียตะวันเฉียงใต้ จากบทเรียนการต่อสู้การระบาดของโรคไข้หวัดนกและโรคซาร์สจะเห็นว่าการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคนด้วยการเลิกเอามือถูกับใบหน้าจะเป็นการช่วยหยุดยั้งการแพร่ระบาดได้ เนื่องจากบริเวณดวงตาและปากจะเป็นส่วนที่ง่ายต่อการติดเชื้อ ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์จึงขอร่วมรณรงค์เลิกเอามือถูกับใบหน้าเพื่อเป็นลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค

"สนั่น" เล็งส่งยาช่วย "เม็กซิโก"

ด้าน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการระดับชาติเพื่อดำเนินการวางมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่เอ ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุมแก้ไขสถานการณ์การระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยมีนายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วย สธ. พร้อมคณะให้การต้อนรับว่า กรณีคนไทยกลุ่มแรกที่เดินทางกลับจากเม็กซิโกในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ ได้สั่งการณ์ให้ทีมแพทย์ สธ. เข้มงวดในการตรวจเช็คร่างกายอย่างละเอียด หากไม่มีไข้จะอนุญาตให้กลับบ้าน แต่อยู่ภายใต้การดูแลของ สธ. โดยจะมีสาธารณสุขจังหวัดหรือประจำเขตนั้นๆ คอยดูแลตรวจเยี่ยมทุกวันตลอด 7 วัน ซึ่งเป็นระยะเฝ้าดูอาการ แต่คงไม่มีการกักไว้ที่โรงพยาบาล เพราะต้องเข้าใจสภาพจิตใจเด็กซึ่งยังไม่ได้รับเชื้อ แค่เป็นมาตรการเฝ้าระวังเท่านั้น
 
"คงไม่จำเป็นต้องกักตัวกลุ่มเด็กไทยทั้ง 14 คน เพราะเขายังไม่ได้รับเชื้อ และเชื่อว่าคงไม่ได้รับเชื้อทั้งหมด แต่หากพบว่าคนใดคนหนึ่งมีไข้ก็จำเป็นต้องเฝ้าดูอาการที่โรงพยาบาล ส่วนที่เหลือก็ต้องมีการเฝ้าระวังอย่างกระชั้นชิด พล.ต.สนั่นกล่าว และว่า ประเทศไทยจะประสานกับทางสถานทูตเม็กซิโก เพื่อให้ความช่วยเหลือในเรื่องของยาโอเซลทามีเวียร์ เบื้องต้นที่ประชุมเสนอช่วยเหลือบริจาคยาจำนวน 2-3 หมื่นเม็ด ตามจำนวนผู้ป่วยในประเทศเม็กซิโก ทั้งนี้ จะสอบถามไปยังสถานทูตอีกครั้งว่าต้องการให้ไทยช่วยเหลือจำนวนเท่าไหร่

ไทยเฝ้าระวังผู้ป่วยหญิง2ราย


นพ.ภาสกร อัครเสวี ผู้อำนวยการสำนักระบาด กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ล่าสุดฮูรายงานตัวเลขผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่เอ รวมทั้งหมด 13 ประเทศ รวมทั้งจะมีการประกาศเพิ่มอีก 1 ประเทศ คือ เขตปกครองพิเศษฮ่องกง รวมแล้วปัจจุบันมีผู้ป่วยทั้งสิ้น 381 ราย และเสียชีวิตแล้ว 10 ราย สำหรับผู้ป่วยที่พบในประเทศแถบเอเชีย ประกอบด้วย ชายชาวอิตาเลียน 1 ราย เดินทางเข้ามาที่ฮ่องกง และอีกรายกำลังอยู่ระหว่างยืนยัน คือ ที่เกาหลีใต้ อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศไทยยังไม่พบผู้ติดเชื้อดังกล่าว สถานการณ์ล่าสุดมีเพียงผู้ป่วยเฝ้าระวัง 2 ราย ที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวัง ผลการตรวจเบื้องต้นไม่พบเชื้อ แต่จะมีการตรวจเช็คอีกครั้ง

"รายแรกเป็นผู้ป่วยหญิงอายุ 46 ปี พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเลิดสิน มีอาชีพเป็นมัคคุเทศก์ นำคณะทัวร์เดินทางไปที่ประเทศอิตาลีและฝรั่งเศส ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา และได้เดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 19 เมษายน ซึ่งระหว่างอยู่ที่ฝรั่งเศส ประมาณวันที่ 17 เมษายน ผู้ป่วยมีไข้และเจ็บคอ และเมื่อกลับประเทศไทยได้รับประทานยาเอง จนกระทั่งวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมาจึงได้เข้าพบแพทย์ เบื้องต้นมีไข้ 37.9 องศาเซลเซียส อาการโดยรวมปกติ ส่วนอีกรายเป็นหญิงอายุ 42 ปี เดินทางกลับมาจากเยอรมนี พักรักษาตัวที่สถาบันบำราศนราดูร ทั้งคู่อาการไม่น่าเป็นห่วง เพราะไม่พบเชื้อ" นพ.ภาสกรกล่าว
 
จัดทีมตรวจน.ร.ไทยกลับจากจังโก้

นพ.ไพจิตร วราชิต รองปลัด สธ. กล่าวว่า หลังจากพบผู้ป่วยที่ฮ่องกง ประเทศไทยจำเป็นต้องวางมาตรการที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งขณะนี้ สธ.ได้สำรองยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ไว้ 4.2 ล้านเม็ด และเตรียมให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) สั่งวัตถุดิบสำหรับผลิตยาเพิ่มอีก 2 ล้านเม็ด นอกจากนี้ ยังวางมาตรการเตรียมความพร้อมการเฝ้าระวังและป้องกันโรคเข้าสู่ประเทศไทย โดยในคืนวันที่ 3 พฤษภาคม เวลา 23.30 น. สธ.ได้จัดทีมแพทย์ไว้รอรับที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อตรวจร่างกายนักเรียนและอาสาสมัครชาวไทย ที่จะเดินทางกลับมาจากเม็กซิโกกลุ่มแรก 14 คน อย่างละเอียด หากพบว่ามีไข้จะนำส่งโรงพยาบาลบำราศนราดูร เพื่อตรวจสอบอาการต่อไป

นายมานิต นพอมรบดี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้ไปดูจุดตรวจวัดไข้ที่สนามบินพิษณุโลก โดยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงห่วงใยปัญหาโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ระบาดเข้าไทย และทรงสนพระทัยติดตามสถานการณ์และมาตรการที่ สธ.ดำเนินการมาโดยตลอด ได้ประทานคำแนะนำโดยให้ดำเนินการให้สูงกว่ามาตรฐานไว้ก่อน

คัดกรองแล้วแสนคนไม่พบเชื้อ

นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัด สธ. กล่าวว่า สธ. ได้ประกาศยุทธศาสตร์ป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ให้ทุกจังหวัดปฏิบัติแนวเดียวกันทั่วประเทศ คือล้อมรั้ว เชิงรุก และรักษายุทธศาสตร์ล้อมรั้ว เน้นการป้องกันผู้ที่เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะมาตรการที่สนามบิน ได้ตั้งจุดคัดกรองผู้โดยสารเดินทางกลับเข้าประเทศผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ภูเก็ต เชียงใหม่ ด้วยเครื่องตรวจวัดไข้ จัดทีมแพทย์ พยาบาล จัดระบบรับ-ส่งผู้ป่วยจากสนามบินและสถานพยาบาล ขณะนี้มีผู้เดินทางผ่านเครื่องนี้แล้วกว่า 1 แสนคน ยังไม่พบรายใดเข้าข่ายติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่

"สำหรับมาตรการเฝ้าระวังทางห้องปฏิบัติการเกณฑ์เดียวกับสากล รายงานผลภายใน 4 ชั่วโมง มีทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว หรือเอสอาร์อาร์ที (SRRT) ค้นหาผู้ป่วยในชุมชน 1,030 ทีม ร่วมกับ อสม. อีกกว่า 970,000 คนทั่วประเทศ เพื่อค้นหาผู้ป่วยโดยเร็วที่สุด ส่วนยุทธศาสตร์การรักษา ได้ปรับแนวทางการรักษาพยาบาล การให้ยาต้านไวรัส และการวางเครือข่ายระบบส่งต่อผู้ป่วยในสถานพยาบาลภาครัฐและเอกชนแนวทางเดียวกัน หากสถานการณ์รุนแรงขึ้นอาจเสนอจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการระดับประเทศ" นพ.ปราชญ์กล่าว

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์