ใช้ไฮเทคเคลื่อนย้าย พระทองคำ 5.5ตันใหญ่สุดในโลก


วัดไตรมิตรฯกทม. ไว้มณฑปใหม่แล้ว ฮือฮา-เงินประกัน ค่าเสียหาย5พันล.

พี่น้องชาวไทย-ชาวไทยเชื้อสายจีนกว่า 3 พันคน ร่วมพิธีเคลื่อนย้ายหลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตรฯ เยาวราช ประดิษฐานภายในมณฑปแห่งใหม่ เผยใช้ระบบไฮดรอลิก เครน และรางเหล็กเคลื่อนองค์พระจากมณฑปหลังเดิมเป็นผลสำเร็จโดยใช้เวลาเพียง 20 นาที ก่อนหน้านี้ได้ทำประกันความเสียหายระหว่างเคลื่อนย้ายมูลค่าสูงถึง 5 พันล้าน เผยหลวงพ่อวัดไตรมิตรฯ หรือหลวงพ่อทองคำ ได้รับการบันทึกลงในกินเนสส์บุ๊กว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำองค์ใหญ่ที่สุดในโลก หน้าตักกว้างถึง 6 ศอก 5 นิ้ว หรือมากกว่า 2.50 เมตร ความสูงจากพระเกตุมาลาถึงฐานที่รองรับพระพุทธรูป 7 ศอก 1 คืบ 9 นิ้ว หรือประมาณ 3.04 เมตร 10 ฟุต น้ำหนักประ มาณ 5.5 ตัน หรือ 5,500 กิโลกรัม สร้างด้วยทองคำแท้มูลค่าสูงกว่า 21 ล้านปอนด์

เมื่อเวลา 09.09 น. วันที่ 27 ต.ค. ที่พระวิหารหลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตรวิทยาราม เขตสัมพันธ วงศ์ กรุงเทพมหานคร คณะกรรมการโครงการจัดสร้างพระมหามณฑป ประดิษฐานพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (หลวงพ่อทองคำ) วัดไตรมิตรวิทยาราม ได้จัดพิธีเคลื่อนย้ายองค์พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร หรือ หลวงพ่อทองคำ จากพระวิหารหลังเดิม ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2498 เข้าสู่พระมหามณฑป ที่ประดิษฐานแห่งใหม่ มี สมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานในพิธี และนายชลาลักษณ์ บุนนาค รักษาการประธานฝ่ายก่อสร้าง เป็นประธานฝ่ายฆราวาส

นอกจากนี้
ยังมีพระพรหมเวที เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรฯ และพระเทพภาวนาวิกรม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรฯ ร่วมในพิธีบวงสรวงการเคลื่อนย้ายครั้งนี้ด้วย ท่ามกลางประชาชนคนไทยและชาวไทยเชื้อสายจีนที่มาร่วมเป็นสักขีพยาน 3,000 คน ใช้เวลาในการเคลื่อนองค์พระไปประดิษฐาน ณ มณฑปแห่งใหม่ รวม 20 นาที ซึ่งการดำเนินเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีปัญหาและอุปสรรคแต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้ พระเทพภาวนาวิกรม เปิดเผยว่า ขั้นตอนการเคลื่อนย้ายพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร หรือหลวงพ่อทองคำ ใช้ระบบไฮดรอลิก แจ๊ก โมไบล์ เครน และรางเหล็กเคลื่อนย้าย สำหรับองค์พระหุ้มด้วยพลาสติก พันผ้าดิบ และพอกปูนปลาส เตอร์ ก่อนใส่โฟมเม็ดป้องกันองค์พระอีกชั้นหนึ่ง ต่อจากนั้น จึงทุบผนังด้านหน้าออก 2 จุด เพื่อเปิดทางในการเคลื่อนองค์พระออกจากพระวิหารตามรางเหล็ก เมื่อถึงจุดยกองค์พระลงจากพระวิหาร จะใช้รถเครนขนาด 100 ตัน ยกองค์พระวางบนรางเหล็กที่เตรียมไว้แล้วเคลื่อนองค์พระถึงข้างพระมหามณฑปด้านทิศเหนือ ใช้รถเครนขนาด 200 ตัน ยกองค์พระขึ้นวางบนรางเหล็กบนพระมหามณฑป แล้วจึงเคลื่อนองค์พระประดิษฐาน ณ ฐานชุกชี เป็นอันเสร็จสมบูรณ์ โดยขั้นตอนการเคลื่อนย้ายข้างต้น ตั้งแต่เริ่มดำเนินการจนถึงการยกองค์หลวงพ่อทองคำขึ้นประดิษฐานบนพระมหามณฑป ใช้เวลาดำเนินการทั้งสิ้นประมาณ 2 เดือน

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรฯ กล่าวต่อว่า การเคลื่อนย้ายพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากรองค์นี้ นับเป็นครั้งที่ 4 โดยที่ทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมา เป็นการเคลื่อนย้ายโดยอุบัติเหตุ ครั้งนี้ถือว่าเป็นการถวายพระเกียรติยิ่งใหญ่ สมบูรณ์ด้วยพุทธศาสนประเพณีและโบราณประเพณี เชื่อว่าจะเป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายของหลวงพ่อทองคำ เพื่อความสมานฉันท์และเจริญรุ่งเรืองแก่ชาวไทยและชาวไทยเชื้อสายจีน ตลอดจนการเฉลิมฉลองโอกาสมหามงคล ที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา อันจะได้บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของชาติ

"ปัจจุบัน การจัดสร้างพระมหามณฑปประดิษ ฐานพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร ได้ดำเนินการในส่วนของงานโครงสร้างพระมหามณฑปฯ เสร็จเรียบร้อยแล้ว งานสถาปัตยกรรมดำเนินการไปแล้วกว่าร้อยละ 70" พระเทพภาวนาวิกรม กล่าว

พระเทพภาวนาวิกรม กล่าวทิ้งท้ายว่า ทั้งนี้ ตามแผนการดำเนินงานการจัดสร้างพระมหามณฑปฯ วัดไตรมิตรวิทยาราม จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ก่อนวันที่ 5 ธันวาคม 2551 เมื่อการก่อสร้างพระมหามณฑปฯ แล้วเสร็จ จะเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเทพมหานคร เป็นพุทธสถาปัตยกรรมแห่งใหม่ที่เชิดชูเกียรติยศของวงการพระ พุทธศาสนา ทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่งามสง่า มีคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรม ดึงดูดศรัทธาของผู้คนจากทั่วโลก และเป็นศูนย์รวมใจของชุมชนเยาวราช เขตสัมพันธวงศ์ และชาวพุทธทั้งปวงสืบไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการจัดสร้างพระมหามณฑปฯ วัดไตรมิตรฯ นั้น มีความคืบหน้ามาโดยลำดับ นับตั้งแต่มีการจัดพิธีบวงสรวงเทพเทวา และพิธีสวดแจง 500 รูป และทำพิธีปฐมฤกษ์ลงเสาเข็ม เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2550 ต่อมาเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2551 ได้จัดให้มีพิธีลงนามในสัญญาประกันการเคลื่อนย้ายองค์พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร ทุนประกันมูลค่า 5,000 ล้านบาท เพื่อการันตีความปลอดภัยในการเคลื่อนย้าย ต่อมา เมื่อวันอังคารที่ 9 กันยายน 2551 คณะกรรมการโครงการจัดสร้างพระมหามณฑปฯ วัดไตรมิตรวิทยาราม ได้จัดพิธีสำคัญ ประกอบด้วย พิธีบวงสรวงการเคลื่อนย้ายองค์หลวงพ่อทองคำ, พิธีอัญเชิญยอดฉัตร ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระสุหร่าย ทรงเจิม และทรงปิดทองแล้ว จากนั้น เมื่อวันจันทร์ที่ 22 กันยายน 2551 ได้รับพระกรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงเป็นประธานในพิธีถอดพระเกตุมาลาพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร ซึ่งถือเป็นมหามงคลอุดมปฐมฤกษ์ แห่งการเคลื่อนย้ายองค์พระจากพระวิหารหลังเดิม สู่พระมหามณฑป ที่ประดิษฐานแห่งใหม่

สำหรับพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร เป็นพระพุทธรูปางมารวิชัย นั่งสมาธิราบ พระหัตถ์ซ้ายหงายวางบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาวางเหนือพระชานุ ปลายพระหัตถ์ชี้ลงพื้นธรณี ที่รู้จักกันดีในนาม หลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตรวิทยาราม

พระพุทธรูปสำคัญองค์นี้ เป็นพระพุทธรูปทองคำองค์แรกของไทย ที่ได้รับการบันทึกไว้ใน The Guinness Book of World Record 1991 ว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย มีขนาดใหญ่ หน้าตักกว้างถึง 6 ศอก 5 นิ้ว หรือมากกว่า 2.50 เมตร ความสูงจากพระเกตุมาลาถึงฐานที่รองรับพระพุทธรูป 7 ศอก 1 คืบ 9 นิ้ว หรือประมาณ 3.04 เมตร 10 ฟุต มีน้ำหนักประมาณ 5.5 ตัน หรือ 5,500 กิโลกรัม สร้างด้วยทองคำแท้มูลค่าสูงกว่า 21 ล้านปอนด์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามพระพุทธรูปทองคำองค์นี้ว่า "พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร"

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์