คลื่นพสกนิกรสักการะพระพี่นางฯ

ปวงชนชาวไทยทั้งแผ่นดินแต่งชุดดำไว้ทุกข์ "สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ"

เผยคลื่นมหาชน หลั่งไหลเนืองแน่นศาลาสหทัยสมาคมตั้งแต่เช้ามืด รอเข้าสักการะพระฉายาลักษณ์ถวายความอาลัย “รศ.ดร.ธงทอง” แนะการแต่งกายไว้ทุกข์ไม่ควรสวมเสื้อสีเหลืองหรือชมพู ควรแยกแยะให้ออก ขณะที่คณะ “พอ. สว.” ทุกคนสุดอาลัย แต่ขอเดินหน้าตั้งปณิธานสานงานต่อ ด้านศธ.สั่งปรับรูปแบบงานวันเด็ก ให้เน้นเป็นกิจกรรมเทิดพระเกียรติ หนังสือวันเด็กปีนี้อัญเชิญพระสาทิสลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ สมัยวัยเยาว์ขึ้นปกใช้ชื่อ “ชื่นเกล้า” ส่วนคนในวงการบันเทิงพร้อมใจ ประกาศเลื่อนกิจกรรมรื่นเริงและคอนเสิร์ตออกไปก่อน “เคน-หน่อย” ตัดสินใจขยับวันวิวาห์ออกไป 3 ก.พ.นี้ ส่วนหน่วยงานทั้งภาครัฐ-เอกชน จัดกิจกรรมไว้อาลัยทั่วประเทศ บรรยากาศสุดเศร้า
 
พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่ายังคงอยู่ในอาการโศกาอาดูร ภายหลังจากสำนักพระราชวังมีประกาศ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ สิ้นพระชนม์ เมื่อเวลา 02.54 น. วันที่ 2 ม.ค. 2551 ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช รวมพระชันษา 84 ปี
 
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรม ราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทาน พระบรมราชานุญาต ให้ประชาชนเข้าถวายน้ำสรงพระศพหน้าพระฉายาลักษณ์ ซึ่งประดิษฐาน ณ ศาลาสหทัยสมาคมในพระบรมมหาราชวัง เริ่มตั้งแต่วันที่ 2-9 ม.ค. ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.

รอถวายสักการะตั้งแต่เช้ามืด
 เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งทางสำนักพระราชวังได้เปิดให้ประชาชนถวายสักการะต่อหน้าพระฉายาลักษณ์เป็นวันที่สอง ปรากฏว่าได้มีประชาชนที่พร้อมใจสวมชุดดำไว้ทุกข์ เดินทางมารอถวาย   สักการะกันอยู่บริเวณหน้าประตูวิเศษไชยศรีตั้งแต่เช้ามืดเป็นจำนวนมาก ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องเปิดให้เข้าตั้งแต่เวลา 08.30 น. นอกจากนี้ยังมีการเปิดโต๊ะให้ประชาชนได้ร่วมลงนามถวายน้อมรำลึกและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมแจกหนังสือเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าพี่นาง   เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เนื่องในโอกาสมหามงคลเจริญพระชนมายุ 7 รอบ วันที่ 6 พ.ค. 2550 จำนวน 3 หมื่นเล่ม ซึ่งประชาชนที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ต่างก็รู้สึกซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณ และรู้สึกใจหาย เพราะจากนี้จะไม่มีโอกาสได้เห็นพระองค์ท่านอีกแล้ว จึงตั้งใจจะเก็บหนังสือเล่มนี้ไว้เพื่อเป็นตัวแทนรำลึก

กำชับแต่งกายให้เรียบร้อย
 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ บริเวณหน้าประตูวิเศษไชยศรี มีเจ้าหน้าที่ของสำนักพระ ราชวัง คอยให้คำแนะนำแก่ประชาชนทุกหมู่เหล่า ที่จะเข้าถวายสักการะพระฉายาลักษณ์ โดยเฉพาะเรื่องการแต่งกายที่หลายคนไม่ทราบระเบียบ ทำให้ไม่สามารถเข้าไปถวายสักการะพระศพตามความตั้งใจได้ นอกจากนี้ บริเวณท่าช้าง ใกล้ พระบรมมหาราชวัง พ่อค้าแม่ค้าต่างนำเสื้อทั้ง    สีดำและสีขาวมาจำหน่ายแก่ผู้ที่ไม่ได้แต่งกายด้วยชุดที่สำนักพระราชวังอนุญาต พร้อมกันนี้มีประชาชนจำนวนมากหาซื้อพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ไปเก็บรักษาไว้เพื่อสักการบูชาด้วย มีจำหน่ายบริเวณร้านค้าราคาภาพละ 10 บาท ส่วนภาพขนาดโปสเตอร์ราคา 20 บาทขึ้นไป

ตร.ระดมกำลังดูแลเต็มอัตรา
 พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานด้านการจราจร กล่าวถึงการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้ประชาชนสักการะพระศพและลงนามไว้อาลัยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 9 ม.ค. เวลา 09.00-17.00 น. ณ ศาลาสหทัยสมาคม ว่า บช.น. ได้ตั้งกองอำนวยการร่วมจัดระเบียบการจราจรและดูแลความสงบเรียบร้อยบริเวณพื้นที่จัดงานอย่างเต็มที่ พร้อมจัดเตรียมที่จอดรถไว้ที่ท้องสนามหลวงสามารถรองรับปริมาณรถได้ 2,000 คัน โดยเข้าทางถนนราชดำเนินในประตูตรงข้ามศาลฎีกา ออกทางด้านวัดมหาธาตุ ส่วนถนนมหาราช ถนนท่า  ราชวรดิษฐ์ และถนนท้ายวัง ต้องสำรองพื้นที่จอดรถไว้สำหรับแขกชั้นผู้ใหญ่
 
อย่างไรก็ดีสำหรับพี่น้องประชาชนที่จะเดินทางมาเคารพพระศพ ขอแนะนำให้เดินทางมาโดยรถโดยสารประจำทางจะสะดวกที่สุด ส่วนกำลังของตำรวจนครบาลนั้นจะดูแลความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง คอยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนจนกว่าจะเสร็จพิธี

คณะ “พอ.สว.” สุดอาลัย
 ต่อมาเวลา 08.40 น. ได้มีคณะบุคคลสำคัญ อาทิ พล.ร.ต.เรืองฤทธิ์ บุญส่งประเสริฐ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ นำคณะนายทหารเรือ 70 นาย เข้าถวายสักการะ และ พ.อ.กุลทีป เสนจันทร์ฒิไชย ผู้อำนวยการสำนักงานมูลนิธิแพทย์อาสา สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.)และคณะได้เดินทางเข้ามาถวายสักการะ ทั้งนี้ พ.อ.กุลทีป กล่าวว่า การสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทำให้ตนรู้เสียใจเพราะพระองค์ท่านเปรียบเสมือนพ่อแม่เป็นการเสียใจของคนไทยทั้งประเทศ ตลอดเวลาทรงมีพระชนม์ชีพพระองค์ทรงมีพระจริยวัตรที่งดงาม โดยเฉพาะเรื่องการตรงต่อเวลาไม่ว่าจะเสด็จไปที่แห่งไหนทำอะไรจะทรงตรงต่อเวลาเสมอ และก่อนหน้าที่จะประชวรเสด็จไปยัง จ.ปัตตานี ในช่วงเวลาที่ทรงงาน ถ้ามีเรื่องพิเศษจะทรงเรียกเจ้าหน้าที่ระดับบริหารเข้าพบ ทรงรับสั่งเน้นเรื่องการทำงานว่า ให้ทุกคนรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ถ้ามีความแข็งแรงจะได้ไปรักษาคนอื่นได้
 
พ.อ.กุลทีป กล่าวต่อว่า ในเวลานี้เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิฯ ทั้งผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานทั้ง 77 คนยังเสียใจแต่ยังทำงานต่อไป โดยทำงานด้านการแพทย์สาธารณสุขสังคมใน 51 จังหวัด ซึ่งมูลนิธิจะสนับสนุนในสิ่งที่จังหวัดต้องการมี ผวจ.และสาธารณสุขจังหวัดร่วมงาน ส่วนการดำเนินงานหรือการสานต่อเช่นไรสุดแล้วแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม

พสกนิกรทุกหมู่เหล่าคับคั่ง
 ต่อมาช่วงบ่ายคณะบุคคลที่เข้าถวายสัก การะ อาทิ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการ สตง. พร้อมด้วยนายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส. พร้อมด้วยข้าราชการคณะกรรมการ คตส. และ สตง. โดยคุณหญิงจารุวรรณ กล่าวว่า วันที่พระ องค์สิ้นพระชนม์รู้สึกตกใจมากจึงลุกขึ้นสงบนิ่งคิด ว่าดวงพระจิตวิญญาณพระองค์ท่านได้ขึ้นสู่สรวง สวรรค์แล้ว ในครึ่งชีวิตของตนนั้นได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดยเฉพาะช่วงชีวิตที่ถูกเว้นวรรคจาก สตง. พระองค์ทรงมีหมายรับสั่งให้เข้าไปถวายตัว ทรงมีพระกรุณาธิคุณให้ทำงานตรวจบัญชีให้มูลนิธิวิชาการโอลิมปิค และตามที่ได้สัมผัสทรงมีพระจริยวัตรที่งดงาม เท่าที่จำได้ประทับใจมากที่สุด เป็นช่วง ที่โน้มพระองค์พร้อมรับสั่งว่า “ขอบใจนะ” ที่ดูแลมูลนิธิวิชาการโอลิมปิคให้

ประชาชนเนืองแน่นทั้งวัน
 ทั้งนี้ประชาชนเดินทางมารอเพื่อถวายสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ และลงนามถวายสักการะสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ อย่างเนืองแน่นตลอดทั้งวัน ประกอบด้วยองค์กรต่าง ๆ ทั้งรัฐมนตรี นักการเมือง ตัวแทนจากส่วนราชการต่าง ๆ ดารานักแสดง ฯลฯ เดินทางมาร่วมแสดงความจงรักภักดีด้วย อาทิ คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ ผอ.   อสมท นายอินโซ่ วานนา ผช.เอกอัครราชทูตกัมพูชา พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย นางสิริกร มณีรินทร์ อดีต รมช.ศึกษา, นายกันตธีร์ ศุภมงคล อดีต รมว.ต่างประเทศ พร้อมภริยา ถวายสักการะและลงนามถวายความอาลัย ทั้งนี้ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น. ยอดลงนามผู้ถวายสักการะหน้าพระฉายาลักษณ์ ทั้งหมด 13,027 คน

“สีเทา”วอนช่วยกันทำความดี
 นางสิริกร กล่าวว่า เคยมีโอกาสสนองงานสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เมื่อครั้งเป็น รมช. โดยดูแลสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือ สสวท. และโครงการส่งเสริมเยาวชนโอลิมปิควิชาการ ซึ่งทำให้เห็นถึงความเอาพระราชหฤทัยใส่ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ที่มีต่อการศึกษาของเด็กไทย ทรงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อช่วยด้านการศึกษาของเด็กไทย ทำให้เด็กไทยมีความรู้ความสามารถที่จะแข่งขันกับประเทศต่าง ๆ ได้ไม่แพ้ใคร เช่น ในสาขาวิชาที่ยากอย่างวิชาฟิสิกส์ และ ดาราศาสตร์ นอกจากนี้ ยังทรงจำชื่อของเด็กที่เข้าร่วมโครงการได้ และมีรับสั่งเสมอว่า นอกจากจะมีความรู้เรื่องวิชาการแล้ว ยังต้องมีมนุษยสัมพันธ์ด้วย
 
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มพิธีกรและนักแสดงชื่อดัง อาทิ บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี, นุ้ย-สุจิรา อรุณพิพัฒน์, หมิง-ชาลิสา บุญครองทรัพย์ รวมไปถึงศิลปินตลกอาวุโส นายจรัญ เพชรเจริญ หรือ “สีเทา” อายุ 76 ปี กล่าวว่า เสียใจเป็นอย่างมากเป็นความเสียใจที่สุดในชีวิตเหมือนกับสูญเสียส่วนหนึ่งในร่างกายไป เป็นการสูญเสียอย่างใหญ่หลวงของชาวไทย อยากให้คนไทยร่วมกันทำความดีและช่วยกันสืบสานงานในมูลนิธิต่าง ๆ

จัดพิมพ์พระกรณียกิจ
 นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวง สาธารณสุข กล่าวถึงพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เกี่ยวกับงานด้านสาธารณสุขว่า พระองค์ทรงมีพระกรุณาธิคุณต่อกระทรวงสาธารณสุขอย่างหามิได้ ซึ่งพระองค์ทรงเป็นผู้ริเริ่มโครงการต่าง ๆ เพื่อช่วยผู้ป่วยมากมาย รวมถึงสานต่อโครงการพระราชดำริของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี อาทิ โครงการมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือพอ.สว. ซึ่งก่อตั้งเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2512 ซึ่งเริ่มต้นใน 5 จังหวัดที่อยู่ห่างไกลความเจริญ และมีความทุรกันดาร ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง และน่าน จากนั้นจึงได้ขยายไปยังพื้นที่อื่น ๆ ที่ทุรกันดาร โดยเฉพาะตามขอบชายแดน 30 จังหวัด และอีก 4 จังหวัดในพื้นที่ ห่างไกล รวมทั้งสิ้น 51 จังหวัด
 
ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขจะรวบรวมพระกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ในทุก ๆ ด้านซึ่งมีต่องานสาธารณสุข จัดพิมพ์เป็นหนังสือเพื่อระลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระองค์ท่านต่อวงการสาธารณสุข



กทม.จัดเทิดพระเกียรติฯ
  ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารว่า สำหรับการจัดพิธีสักการะและร่วมไว้อาลัยแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ของ กทม.นั้น นอกจากที่ กทม.มีการจัดโต๊ะหมู่บูชาและพระฉายาลักษณ์ ที่ศาลาว่าการ กทม.และหน่วยงานในสังกัดของ กทม. ทุกแห่งแล้ว ยังได้ร่วมกับมูลนิธิต่าง ๆ ในพระองค์ท่าน เช่น มูลนิธิขาเทียม มีการกำหนดจัดกิจกรรมเพื่อเทิดพระเกียรติขึ้นในระหว่างวันที่ 7 ม.ค.-11 เม.ย. ที่บริเวณลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการ กทม.และหน่วยงานในสังกัด กทม. ซึ่งงานดังกล่าวจะมีการแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชประวัติ พระกรณียกิจต่าง ๆ รวมทั้งหนังสือที่ทรงพระนิพนธ์ เช่น แม่เล่าให้ฟัง เจ้านายเล็ก ๆ-ยุวกษัตริย์ ฯลฯ นอกจากนี้ กทม. จะมีการแจกหนังสือ “สถิต ณ ดวงใจ” ให้แก่ประชาชนที่เข้าร่วมงาน จำนวน 50,000 เล่ม ซึ่งเป็นหนังสือที่ กทม.จัดพิมพ์ขึ้นเนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา

ทำบุญตักบาตร 3 วาระ
 นายอภิรักษ์ กล่าวต่อว่า กทม.จะมีการจัดกิจกรรมต่อเนื่องคือมีการทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ 185 รูปเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ใน 3 วโรกาสได้แก่ พระราชกุศลทักษิณานุประทานครบ 7 วัน ในวันที่ 9 ม.ค. เวลา 06.30 น. พระราชกุศลทักษิณานุประทานครบ 50 วัน ในวันที่ 21 ก.พ. และพระราชกุศลทักษิณานุประ ทานครบ 100 วันในวันที่ 11 เม.ย. นอกจากนี้ กทม. จะมีการจัดให้ผู้บริหารและข้าราชการเข้าร่วมพิธีสวดพระศพทุกวัน วันละ 20 คน จำนวน 3 รอบ จนครบ 100 วัน ในส่วนของการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่จะมาสักการะพระศพนั้น กทม. จะจัดพื้นที่ท้องสนามหลวงให้เป็นที่จอดรถ มีการจัดรถสุขาเคลื่อนที่เพื่อให้บริการและจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจดูแลตลอดเวลา พร้อมทั้งจัดโรงทานเพื่อจัดอาหารบริการแก่ประชาชนที่เดินทางมาไกล

ไม่เหมาะใส่สีเหลือง-ชมพู
 ที่กระทรวงยุติธรรม รศ.ดร.ธงทอง จันทร์ทรางศุ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่าเนื่อง ด้วยปีที่ผ่านมาเป็นปีมหามงคล 80 พรรษา มีเสื้อสีเหลือง และสีชมพูที่นิยมใส่กันอยู่ว่าสามารถใส่ไว้ทุกข์ได้หรือไม่ ก่อให้เกิดความสับ สนกันอยู่ในเรื่องของการแต่งกายไว้ทุกข์ว่าแบบไหนถูกต้องตามประเพณี โดยตามประเพณีการไว้ทุกข์ตามขนบธรรมเนียมประเพณีบ้านเมืองเรา การแต่งกายด้วยสีดำและสีขาวจัดว่าเป็นสีที่ใช้ไว้ทุกข์ตามประเพณีบ้านเรา แต่ว่าเสื้อสีเหลืองและสีชมพูที่เป็นสีเสื้อเฉลิมพระเกียรตินั้นไม่จัดเป็นสีที่ใส่ไว้ทุกข์ไม่ควรนำมาใส่ไว้ทุกข์
 
“เตือนประชาชนต้องแยกสองเรื่องนี้ออก จากกัน จะนำสองอย่างมาผสมกันไม่ได้จะก่อให้เกิดความสับสน และจะไม่ถูกหลักการไว้ทุกข์ที่ถูกต้อง โดยไม่ควรนำเสื้อที่ใส่เฉลิมพระเกียรติมาใส่ไว้ทุกข์ถือว่าไม่เหมาะสม ส่วนที่มีผู้นำเอา เสื้อสีดำมาติดตราสัญลักษณ์ถือว่าไม่ผิดกฎหมายแต่ดูแล้วจะไม่เป็นมงคล และเตือนเยาวชนแต่งกายให้ถูกต้องตามประเพณีใส่เสื้อที่ไว้ทุกข์ไม่ ควรนุ่งขาสั้น และเสื้อที่มีลวดลายที่ไม่เหมาะสมเพื่อความถูกต้องตามประเพณี”

ผบ.ตร.สั่งไว้อาลัยทุกโรงพัก
 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. ได้สั่งการให้จัดโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระฉายาลักษณ์ ประดับพุ่มดอกไม้ และแพรไว้ทุกข์ ณ ที่ทำการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการต่าง ๆ และให้สถานีตำรวจทุกแห่งทั่วประเทศ จัดสมุดลงนามไว้อาลัยเพื่อให้ข้าราชการตำรวจพร้อมครอบครัวและประชาชนทั่วไป ได้มาแสดงความอาลัยอย่างทั่วถึงกัน

ปรับรูปแบบกิจกรรม “วันเด็ก”
 ดร.จรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวง ศึกษาธิการ ในฐานะหน่วยงานเจ้าภาพจัดงานวันเด็กแห่งชาติ เปิดเผยว่า เนื่องจากการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ปี 2551 ถือเป็นปีที่ 53 ตรงกับวันเสาร์ที่ 12 ม.ค. ซึ่งยังอยู่ในช่วงเวลาการไว้ทุกข์ 15 วันถวายสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ สิ้นพระชนม์ ประกอบกับสถานที่จัดงานวันเด็กแห่งชาติ เดิมได้กำหนดจัดขึ้นที่บริเวณสนามเสือป่า ในเขตพระราชวังดุสิต ซึ่งทางสำนักพระราชวัง ได้กำหนดให้ข้าราชบริพารไว้ทุกข์ถวาย 100 วัน ดังนั้นศธ. จึงได้ย้ายสถานที่จัดงานวันเด็กฯจากสนามเสือป่ามาเป็นบริเวณสนามหญ้าหน้ากระทรวงศึกษาธิการและริมคลองผดุงกรุงเกษมซึ่งอยู่ด้านข้าง ศธ.
 
รวมทั้งจะมีการปรับรูปแบบการจัดงาน โดยงดกิจกรรมรื่นเริง บันเทิง อาทิ การประกวดร้องเพลง ดนตรีฟ้อนรำ เต้นรำ เป็นต้น แต่ให้เพิ่มกิจกรรมเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดยให้มีการจัดนิทรรศการเพื่อให้ความรู้พระราชกรณียกิจของพระองค์ที่มีคุณูปการต่อการศึกษา จัดให้เด็กถวายสักการะหน้าพระฉายาลักษณ์ ส่วนการแจกของขวัญในการเล่มเกมตอบปัญหายังคงมีซึ่งในปีนี้ทางบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) จะมาจัดเกมทศกัณฐ์เด็ก

หนังสือวันเด็กใช้ชื่อ “ชื่นเกล้า”
 ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า จะ มีการทำหนังสือเวียนแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศในฐานะประธานจัดงานวันเด็กฯ แต่ละจังหวัดให้ปรับรูปแบบการจัดงาน โดยขอให้งดกิจกรรมรื่นเริง บันเทิงและเพิ่มกิจกรรมเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เข้าไปเช่นกัน สำหรับหนังสือวันเด็กฯ ปี 2551 ใช้ชื่อว่า “ชื่นเกล้า” โดยได้อัญเชิญพระสาทิสลักษณ์ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรม หลวงนราธิวาสราชนครินทร์ มีพระสิริโฉมพริ้มเพราใน “วัยเยาว์” เป็นภาพปก พร้อมด้วยสารคดีเทิดพระเกียรติ นำเสนอพระจริยวัตร พระอัจฉริยภาพ และพระกรุณาธิคุณ ประทานความช่วยเหลือปวงชนชาวไทยมาโดยตลอด อาทิ ด้านการศึกษา ด้านสังคมสงเคราะห์ การแพทย์และสาธารณสุข ด้านปรัชญาและศาสนา ด้านวรรณกรรม ศิลปวัฒนธรรม โบราณคดี และประวัติศาสตร์มาเผยแพร่

นร.ชาวเขาจัดทำบุญถวาย
 ดร.สมบัติ สุวรรณพิทักษ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงมีคุณูป การต่อการศึกษานอกโรงเรียน โดยทรงสืบสาน พระราชปณิธานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีในการจัดตั้งชุมชนการเรียนรู้ “สมเด็จย่า” ขึ้นที่บ้านสันเกี๋ยง ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงราย เพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในถิ่นทุร กันดาร โดยรับเยาวชนชาวไทยภูเขาที่จบระดับประถมศึกษาจากศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขาแม่ฟ้าหลวงในพื้นที่ต่าง ๆ ในจังหวัดเชียง ใหม่ มาศึกษาต่อ ม.ต้นตามหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียนในลักษณะอยู่ประจำ ซึ่งในช่วงที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงพระประชวร เด็ก ๆ ที่อยู่ในชุมชนการเรียนรู้ “สมเด็จย่า” ก็ได้สวดมนต์ขอพรให้ทรงหายประชวรกันทุกคืน และในวันที่ 12 ม.ค.นี้ เด็ก ๆ ก็จะจัดพิธีทำบุญถวายเป็นพระราชกุศลด้วย

วงการบันเทิงเลื่อนกิจกรรม
 สำหรับงานรื่นเริงในวงการบันเทิงที่ประ กาศงดจัดกิจจกรรมในช่วงนี้ อาทิ คอนเสิร์ต “เดอะ ไดอารี่ ออฟ คาราบาว” ซึ่งจัดโดยบริษัท อาร์เอส เฟรชแอร์ จากเดิมที่จัดวันที่ 12 ม.ค. เวลา 17.00 น. ที่โบนันซ่า เขาใหญ่นั้น ได้มีการเลื่อนไปจัดในวันเสาร์ที่ 16 ก.พ. 51 ตามเวลาและสถานที่เดิม ซึ่งผู้ที่ซื้อบัตรไปแล้วสามารถนำบัตรคอนเสิร์ตเดิมไปดูได้เลย แต่สำหรับผู้ที่ไม่สามารถ ชมตามเวลาใหม่ที่แจ้งได้ สามารถขอคืนเงินได้ที่ไทยทิกเก็ต เมเจอร์ ทุกสาขา อีกงานที่ทำการงดไปคือ การจัดงานประกาศผลรางวัล “ซี้ด อวอร์ด จัดโดย คลื่น 97.5 เอฟเอ็ม ของ บมจ.อสมท  ซึ่งเป็นการมอบรางวัลให้กับศิลปินในวงการเพลง เดิมจะจัดในวันที่ 23 ม.ค. นี้ ที่ สยามพารากอน ก็เลื่อนไปไม่มีกำหนด

“หน่อย-เคน”ขยับวันวิวาห์
 ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เคน-ธีรเดช และหน่อย-บุษกร วงศ์พัวพันธ์ ที่ เตรียมจะจัดงานฉลองมงคลสมรสในวันที่ 12 ม.ค. 51 นี้ ก็ต้องขอเลื่อนงานออกไปเป็นวัน อาทิตย์ที่ 3 ก.พ. แต่สถานที่ยังคงเป็นโรงแรมโอเรียนเต็ล เช่นเดิม ด้าน บมจ.อสมท ได้งดการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ “MCOT PARTY WITH MY PRESS” จากเดิมจะจัดขึ้นในวันที่ 4 ม.ค. นี้ ที่โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ ก็ทำการเลื่อนออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด และบริษัท ฮู แอนด์ ฮู จำกัด โดย ไก่-วรายุธ มิลินทจินดา งดการจัดงานเลี้ยงปีใหม่เหล่าดาราและขอบคุณสื่อ  มวลชน จากเดิมมีกำหนดจัด 2-3 ก.พ.นี้ ที่พัทยา ต้องเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด รวมไปถึงเทศกาลดนตรีและศิลปะ Tiger Trannslate Music&Art Festival ที่สวนลุมไนท์บาซาร์ วันเสาร์ที่ 5 ม.ค. ซึ่งจะมีศิลปินทั้งชาวไทยและต่างประเทศมาร่วมงานก็ประกาศเลื่อนงานออกไปเช่นกัน

“มอ.” จัดพิธีตักบาตรถวาย
 สำหรับบรรยากาศการลงนามถวายความอาลัยทั่วประเทศ ที่ จ.สงขลา ตั้งแต่ช่วงเช้า ข้าราชการ และประชาชน ยังคงหลั่งไหลไปลงนามถวายความอาลัยที่บริเวณห้องโถงศาลากลางจังหวัดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) ได้เปิดให้ลงนามถวายความอาลัย และจัดพิธีทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศล ในวันที่ 3, วันที่ 8 และวันที่ 16 ม.ค. ที่บริเวณลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ทั้งนี้ พระองค์ทรงเคยเป็นพระอาจารย์สอนภาษาและวรรณคดีฝรั่งเศสให้แก่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เมื่อปี 2533 และทรงพระราชทานทุนส่วนพระองค์ให้อาจารย์ได้ศึกษาต่อจนจบระดับปริญญาเอก ที่ประเทศฝรั่งเศส และกลับมาสอนหนังสือที่วิทยาเขตปัตตานีจนถึงปัจจุบัน

“ตร.กระดูกเหล็ก” ขอทำดี
  ขณะที่ พล.ต.ต.นพดล เผือกโสมณ ผบก.อก.ภ.9 ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สงขลานครินทร์ ได้ร่วมลงนามถวายความอาลัยและสักการะพระศพต่อหน้าพระฉายาลักษณ์ พร้อมกล่าวว่า คงไม่สามารถ บรรยายความรู้สึกเมื่อทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ ของพระองค์ได้ แต่ตนและครอบครัวตั้งปณิธานอันแน่วแน่ว่าจะทำความดีเพื่อตอบแทนที่พระ องค์ทรงมีคุณูปการอันใหญ่หลวงต่อพสกนิกรชาวไทย แม้ว่าสิ่งที่ตนจะทำอาจเทียบไม่ได้กับคุณงามความดีของพระองค์ที่ทรงทำไว้

สานต่อหน่วยแพทย์พอ.สว.
 ด้าน นพ.สุเทพ วัชรปิยานันทน์ สาธารณ สุขจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ในส่วนของทีมงาน พอ.สว.สาธารณสุขจังหวัดสงขลา รู้สึกเสียใจ  เป็นอย่างยิ่งต่อการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ โดยตลอดระยะเวลาที่ทรงงาน พอ.สว. พระองค์ได้สนับสนุนกิจการนี้เป็นอย่างยิ่ง และพวกเรา    ได้ตั้งปณิธานไว้แล้วว่าจะทุ่มเทและเดินหน้าสานงานออกหน่วยแพทย์ พอ.สว. ของพระองค์ต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ
 
เช่นเดียวกับที่ศาลากลางจังหวัดยะลา นาย ธีระ มินทราศักดิ์ ผวจ. และสมาชิกหน่วยแพทย์ พอ.สว.กว่า 100 คน ประกอบพิธีถวายความอาลัย และร้องเพลง “คนยะลา รักเมืองยะลา” ถวายแด่พระองค์ เนื่องจากเป็นเพลงที่เคยร้องถวายเมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินมายังเขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา เมื่อเดือน พ.ย. 2548 นอกจากนี้ ยังกล่าวปฏิญาณจะสานต่องานในโครงการ พอ.สว. ตามพระราชประสงค์

ร่วมละหมาดฮายัตถวาย
 ขณะที่ผู้นำศาสนาอิสลามและชาวไทยมุสลิมจะร่วมละหมาดฮายัต (ขอพร) ถวายความ อาลัยแด่พระองค์ในวันที่ 4 ม.ค.นี้ ส่วนที่โรงเรียน บ้านลือเน็ง ต.ปะแต อ.ยะหา ด.ช.อับดุลเลาะ บาราหาแม อายุ 13 ปี นร.ชั้น ป.5 ซึ่งแขนและขาพิการทั้ง 2 ข้างมาแต่กำเนิด และเป็นคนไข้ในมูลนิธิ พอ.สว. กล่าวว่า ทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ทางทีวี รู้สึกเสียใจมากกับการจากไปของพระองค์ เพราะตนมีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์เป็นล้นพ้น และขอให้พระองค์ทรงเสด็จสู่สวรรคาลัย
 ทางด้าน นางมีเนาะ สาและ หญิงชราวัย 80 ปี ชาวบ้านรูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี ซึ่งพูดและเขียนภาษาไทยไม่ได้ เดินทางมาร่วมลงนามถวายความอาลัย ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี โดยใช้วิธีพิมพ์ลายนิ้วมือแทนการเขียน

ทหารค่ายปิเหล็งกล่าวสดุดี
  ที่ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส พ.ท.ศรัณยู สังข์รี ผบ.กองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายปิเหล็ง กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ นำผู้ใต้บังคับบัญชา และประชาชนทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิม กล่าวสดุดีและไว้อาลัยแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อ น้อมรำลึกถึงการสิ้นพระชนม์ และพระเกียรติคุณที่พระองค์เจริญพระชนมายุ 84 พรรษา ที่ผ่านมา โดยภายในพิธีมีเจ้าหน้าที่ทหาร ประชาชน ทั้งชาวไทยพุทธ สำหรับค่ายแห่งนี้ พระองค์เสด็จ มาทรงเปิดป้ายพระนามค่าย เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2540 สร้างความปลาบปลื้มและภาคภูมิใจให้กำลังพลภายในกองพันพัฒนาที่ 4 เป็นล้นพ้น

พระราชทานนาม รพ.
  นพ.วิรุฬห์ พรพัฒน์กุล ผอ.รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ เปิดเผยหลังร่วมกับแพทย์ พยาบาล และประชาชน ร่วมในพิธีสงฆ์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลว่า รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ เดิมชื่อรพ.นราธิวาส เป็นรพ.ประจำจังหวัด ก่อตั้งเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2484 ปัจจุบันเป็น รพ.ทั่วไปขนาด 360 เตียง ในปี พ.ศ. 2538 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนาพระอิสริยศักดิ์ให้พระองค์ท่านเป็นเจ้าฟ้าต่างกรมฝ่ายใน เป็นสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทางรพ.จึงได้ขอพระราชทานนาม รพ. เพื่อเป็นสิริมงคล เมื่อความทราบฝ่าพระบาท จึงได้พระราชทานนาม รพ. เป็น รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2540 และเสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดอาคารเฉลิมราชย์ ซึ่งเป็นอาคารบริการผู้ป่วยนอก และหน่วยโรคไตเฉลิมพระเกียรติพระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2543 นอกจากนี้ รพ.ยังมีหน่วยกายภาพอุปกรณ์ทำแขนขาเทียม ซึ่งอยู่ในพระอุปถัมภ์ของมูลนิธิขาเทียมพระราชทานของพระองค์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชนที่เจ็บป่วยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นอย่างยิ่ง

ชาวเกาะสองแต่งดำอาลัย
 ส่วนที่ จ.ระนอง นอกจากประชาชนชาวไทยจำนวนมากจะสวมเสื้อสีดำเป็นการไว้อาลัยแล้ว บรรดาผู้หญิงชาวพม่าทั้งที่มาขายแรงงาน และที่ข้ามฝั่งเข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้าไปอุปโภค-บริโภคและขายต่อ ก็สวมเสื้อสีดำร่วมไว้อาลัยเช่นกัน โดยนางมะไข่ แม่ค้าชาวพม่าที่ข้ามมาซื้อสินค้า บอกว่าที่จังหวัดเกาะสอง ชาวพม่าสามารถรับชมทีวีของไทยได้ ชาวพม่าจำนวนมากทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ทางทีวี รู้สึกเสียใจมาก เพราะเห็นข่าวที่พระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อยทำงานหนักเพื่อคนไทยแล้วรู้สึกซาบซึ้งไปด้วย ชาวเกาะสองจำนวนมากจึงสวมเสื้อสีดำเป็นการร่วมไว้อาลัยให้

ตชด.ได้ขาเทียมสุดซาบซึ้ง
  ที่ จ.ตาก พ.ต.อ.สาธิต เกตานนท์ ผกก. ตชด. 34 ค่ายพระเจ้าตาก นำกำลัง ตชด. 200 นาย ลงนามถวายความอาลัย พร้อมเปิดเผยว่า การจากไปของพระองค์นับเป็นความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ พวกตนเคยถวายการอารักขาเมื่อครั้งพระองค์เสด็จเยี่ยมราษฎรในถิ่นทุรกันดารห่างไกล ตามแนวชายแดน 5 อำเภอ และได้รับใช้เบื้องพระยุคลบาทอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานสิ่งของเครื่องอุปโภค-บริโภค ผ้าห่มกันหนาว แก่เหล่า ตชด. นับเป็นขวัญและกำลังในการปฏิบัติหน้าที่
  
ขณะที่ ด.ต.อิศรา นิพนธ์ ผบ.หมู่ กก.ตชด. 34 ค่ายพระเจ้าตาก เปิดเผยว่า เมื่อปี 2524 เหยียบกับระเบิด ขณะสู้รบกับคอมมิว นิสต์ บริเวณชายแดนเขตรอยต่อ อ.อุ้มผาง จ.ตาก-จ.อุทัยธานี จนขาซ้ายขาด และพระองค์พระราชทานขาเทียมให้จนสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ รวมทั้งเพื่อน ๆ ตชด.อีกหลายคนที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้

“วัดใหญ่”สวดพระพุทธมนต์
  ที่วิหารวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหา วิหาร หรือวัดใหญ่ ที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระพุทธชินราช อ.เมือง จ.พิษณุโลก พระธรรมเสนานุวัตร รองเจ้าคณะภาค 5 เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ พร้อมคณะสงฆ์และประชาชนจำนวนมาก ร่วมจัดพิธีสวดพระพุทธมนต์เพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดยพิธีสวดจะมีขึ้นเป็นเวลา 7 วัน และในวันที่ 8 ม.ค.นี้ จะมีพิธีทำบุญครบ 7 วัน มีนายสมบูรณ์ ศรีพัฒนาวัฒน์ ผวจ. พิษณุโลก เป็นประธานในพิธี ขณะที่หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในจังหวัดพิษณุโลก ต่างร่วมลงนามถวายความอาลัยแด่พระองค์ เช่นเดียวกับ พล.ต.ท.วสันต์ วัสสานนท์ ผบช.ภ.6 พร้อมข้าราชการตำรวจในสังกัด ได้ร่วมลงนามถวายความอาลัย ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรภาค 6

นำผ้าดำ-ขาวติดตามอาคาร
 ส่วนที่บริเวณลานชั้น 1 อาคารเฉลิมพระบารมี รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ รศ.นพ.นิเวศน์ นันทจิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และกรรมการกองทุนหมอเจ้าฟ้า ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ พร้อมทั้งอาจารย์คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกันกล่าวถวายอาลัย ขณะที่ตามสถานที่ราชการ และหน่วยงานเอกชนต่าง ๆ ในจังหวัด มีการจัดซุ้มลงนามพร้อมพระฉายาลักษณ์ไว้ให้ประชาชนร่วมลงนาม ส่วนบรรยากาศรอบตัวเมืองเชียงใหม่ ตามอาคารหลายหน่วยงานนำผ้าสีดำและสีขาวมาติดไว้ด้านนอก ขณะที่เทศบาลนครเชียงใหม่นำพระฉายาลักษณ์ขนาดใหญ่ของพระองค์ มาติดไว้บริเวณลานอเนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ เพื่อให้ชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวได้น้อมรำลึกถึงคุณงามความดีของพระองค์ และร่วมไว้อาลัยจากการจากไปในครั้งนี้
 
ที่ จ.แม่ฮ่องสอน ทางจังหวัด พร้อมข้าราชการ พ่อค้า และประชาชน ร่วมกับประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมถวาย ณ ห้องประชุม รพ. ศรีสังวาลย์ แม่ฮ่องสอน เป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่เวลา 19.30 น. จากนั้นรวมกันร้องเพลง “แม่ ฮ่องสอนแดนไพร” ซึ่งเป็นเพลงโปรดของพระ องค์ ครั้งเสด็จมาทรงงานของมูลนิธิ พอ.สว. รวมทั้งบริจาคเงินถวายเป็นพระราชกุศล

คณะแพทย์-ผู้ป่วยร่วมอาลัย
 ที่ จ.ลพบุรี พล.ต.ประดิษฐ์ ลิ้มไพบูลย์ ผอ.รพ.อานันทมหิดล พร้อมคณะแพทย์ พยา บาล ลูกจ้าง และตัวแทนผู้ป่วย ประกอบพิธีไว้อาลัยต่อหน้าพระฉายาลักษณ์ ณ ตึกศรีสังวาลย์ เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ทั้งนี้ พระองค์ทรงจัดตั้งหน่วยไตเทียมขึ้นที่ รพ.อานันทมหิดล เป็นสาขาของมูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทยในพระอุปถัมภ์แห่งแรกในภูมิภาค และยังพระราชทานามและเสด็จมาเปิดอาคารตึกผู้ป่วยแห่งใหม่ชื่อว่า “ตึกกัลยาณิวัฒนา”

วัดชื่อดังสวดบำเพ็ญกุศล
 ส่วนที่วัดเจษฎารามพระอารามหลวง จ.สมุทรสาคร พระราชสิทธิเวที เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร เจ้าอาวาส พร้อมพระภิกษุสงฆ์ สวด บำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทานถวายทุกคืนตั้งแต่เวลา 19.00 น. ไปจนถึงวันที่ 18 ม.ค. นี้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณเมื่อครั้งเสด็จมายังวัด เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2528 เป็นการเสด็จมาเป็นการส่วนพระองค์ โดยเรือและเสด็จขึ้นพักที่วัดแห่งนี้ เพื่อทรงเยี่ยมเยียนพสกนิกร และมีข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน และกรรมการวัด ได้ทูลเกล้าถวายเงินเพื่อเสด็จพระราชกุศลเป็นจำนวน 125,520 บาท ซึ่งพระองค์ได้ทรงบริจาคเงินดังกล่าวให้ไว้ใช้ในการบูรณะวัดต่อไป

คนสุพรรณฯโศกเศร้าเสียใจ
 ขณะที่ จ.นครนายก นายเจตน์ ธนวัฒน์ ผวจ. นำคณะข้าราชการ พ่อค้า และประชาชน ร่วมลงนามไว้อาลัยหน้าพระฉายาลักษณ์ และขอความร่วมมือให้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ และสถานศึกษา ลดธงชาติครึ่งเสา 15 วัน และให้ข้าราชการและพนักงานไว้ทุกข์เป็นเวลา 15 วัน ส่วนที่ จ.พระนครศรีอยุธยา คณะอาจารย์ และนักเรียนโรงเรียนอนุบาลพระนครศรีอยุธยา จัดพิธีสรงน้ำพระศพต่อหน้าพระฉายาลักษณ์ และร่วมกันไว้อาลัยต่อการจากไป เช่นเดียวกับที่ จ.สุพรรณบุรี นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ผวจ. นำข้าราชการและประชาชน ร่วมแสดงความอาลัย บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ

ครอบครัวเด็กลูคิเมียเศร้า
 ด้าน นางเรณู แดงรักษา อายุ 37 ปี ให้สัมภาษณ์ขณะนั่งเคียงข้างกับ ด.ญ.โสภิตา แดงรักษา หรือ “น้องน้ำฝน” ลูกสาววัย 6 ปีเศษ ที่บ้านพักใน อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าลูกสาวป่วยเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดขาว หรือลูคิเมีย ได้พระมหากรุณาธิคุณจากพระองค์ ทรงรับเป็นคนไข้ในพระราชานุเคราะห์ โดยมีคณะแพทย์และเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิ พอ.สว. คอยดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดตลอดหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากครอบครัวฐานะยากจน ปัจจุบันลูกสาวมีอาการดีขึ้นมาก หากไม่มีพระองค์เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร ก็ไม่รู้ครอบครัวและลูกสาวจะเป็นอย่างไร ที่ผ่านมาติดตามข่าวพระอาการประชวรมาตลอด พอทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ ครอบครัวตนรู้สึกเสียใจมาก เพราะเมื่อเดือนที่ผ่านมาก็พาลูกสาวไปพบแพทย์ตามกำหนด และได้ลงนามถวายพระพรที่สถาบันสุขภาพเด็กฯ ขอให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวร ทุกวันนี้สอนลูกเสมอว่าที่มีชีวิตและปลอดภัยมาถึงทุกวันนี้ ก็เพราะพระบารมีของพระองค์ และพอลูกสาวทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ก็ร้องไห้เสียใจ เพราะรักและเทิดทูนพระองค์มาก ตอนนี้แม้ไม่มีพระองค์แล้ว ครอบครัวตนก็จะทำความดี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลให้พระองค์ต่อไป

แจกทอดมันฟรีผู้มาลงนาม
  ที่ จ.ขอนแก่น ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด (หลังใหม่) นายโกแก้ว เผ่าพงษ์ อายุ 56 ปี พ่อค้าขายทอดมันปลา ยี่ห้อ “โอท็อป สวนสนุก-แก่นนคร ทอดมันปลา” นำทอดมันปลามาแจกให้ประชาชนที่มาลงนามไว้อาลัยรับประทานกันฟรี ๆ นายโกแก้ว เปิดเผยว่า ขี่รถมอเตอร์ไซค์เร่ขายทอดมันในเขตเทศบาลนครขอนแก่น มานานกว่า 10 ปี มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เคยเดินทางไป รพ. ศิริราช เพื่อฟังข่าวพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่ไม่มีโอกาสไปเฝ้าฯ ฟังข่าวพระอาการประชวรของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ กระทั่งทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ รู้สึกเสียใจมาก เลยถือโอกาสทำความดีถวาย ด้วยการนำทอดมันมาแจกจ่ายให้คนที่มาลงนามไว้อาลัย โดยเตรียมทอดมันปลามาไว้ 8 กก. พร้อมทอดสด ๆ แจกให้รับประทานฟรีทุกคน และจะแจกทอดมันปลาฟรีอย่างนี้เป็นเวลา 15 วัน

เด็ก นร.พิการร่วมไว้อาลัย
 ส่วนที่ จ.ชัยภูมิ บรรดาเด็กนักเรียนพิการจากโรงเรียนโสตศึกษา และโรงเรียนศูนย์การศึกษาพิเศษ เดินทางมาลงนามถวายความอาลัยที่ศาลากลางจังหวัด และที่ จ.กาฬสินธุ์ ประชาชนต่างแต่งชุดดำ และออกไปหาซื้อพระบรมฉายาลักษณ์ไว้สักการบูชาจนแทบจะขาดตลาด ขณะที่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ได้มีการจัดสถานที่ลงนามไว้อาลัยไว้ยังสถานที่ราชการและภาคเอกชนต่าง ๆ เพื่อให้บรรดาข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน นักเรียนและนักศึกษา ได้ร่วมลงนามไว้อาลัย โดยส่วนใหญ่สวมชุดดำหรือขาวเป็นการไว้อาลัย รวมทั้งมีการประกอบพิธีทางสงฆ์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ขณะเดียวกัน หลายจังหวัด ประชาชนและข้าราชการได้ร่วมกันตั้งปณิธานจะ ลด ละ เลิกอบายมุข เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลด้วย.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์