สลายม็อบ-จลาจล!!!

บุกสลาย“ม็อบนปก.”หลังเคลื่อนพล ปักหลักชุมนุมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศน์

ปะทะกันดุเดือดจนกลายเป็นจลาจลย่อย  ตำรวจคอมมานโด ต้องลงมือสลายถึง 3 รอบกว่าจะประสบผลสำเร็จ  ยิงถล่มด้วยแก๊สน้ำตา-แก๊สพริกไท จู่โจมลุยจับแกนนำแต่ไม่สำเร็จ  ผู้ชุมนุมต่อสู้ขว้างปาสุดฤทธิ์สุดเดช ทุบรถดับเพลิง-รถยนต์พังเสียหายยับ

คอมมานโดจู่โจมสลาย

 บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ที่บริเวณสี่เสาเทเวศน์ เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.00 น. มีการระดมกำลังตำรวจ-ทหารเข้ามาเพิ่มเติมอย่างผิดปกติ

จากนั้นมีการปิดถนนศรีอยุธยาทั้ง 2 ด้าน คือ

ทั้งฝั่งแยกมิกสกวันและฝั่งเทเวศร์ โดยปิดกั้นให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่มีอยู่ประมาณ 3-5 พันคนอยู่เฉพาะบริเวณกลางถนนศรีอยุธยา หลังจากนั้นไม่นานเริ่มมีกำลังตำรวจปราบจลาจลพร้อมโล่ครบมือเดินฝ่าวงล้อมผู้ชุมนุมเพื่อจะเข้าไปจับกุมบรรดาแกนนำที่อยู่บนรถขยายเสียง พอกำลังตำรวจเดินเข้ามาจึงถูกประชาชนลุกฮือโห่ร้องขว้างปาข้าวของขวดน้ำใส่จนทางตำรวจเกือบต้องล่าถอย แต่ก็มีการเสริมกำลังเข้ามาอีกพร้อมบุกประชิดเข้าไปบริเวณรถเครื่องขยายเสียงเพื่อจะบุกเข้าจับกุมแกนนำลงมา

ยกแรกจับแกนนำไม่สำเร็จ

 ขณะที่ตำรวจปีนบันไดขึ้นไปบนรถเพื่อถอดลำโพงกระจายเสียงและจะนำตัวแกนนำลงมาจึงเกิดการยื้อยุดกันขึ้นกับบรรดาการ์ดที่คุมรถ กระทั่งมีการยิงแก๊สน้ำตาเข้าไปใส่ส่งผลทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมลุกฮือขึ้นมาพร้อมกัน ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ทั้งนำแผงเหล็กมาขว้างปากันจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย

นอกจากนี้

การปะทะยังขยายวงกว้างไปบริเวณหน้าวัดเทวราชกุญชร ซึ่งมีกลุ่มผู้ชุมนุมย่อยของ นปก.อยู่ที่ย่านเทเวศร์ทราบข่าว   จึงพากันทุบทำลายป้อมตำรวจบ้างก็เฮโลทุบรถของเจ้าหน้าที่จนเกิดการชุลมุนวุ่นวาย ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จึงยังไม่สามารถจับแกนนำลงมาได้ นอกจากนี้ยังถูกกลุ่มผู้ชุมนุมบีบจนต้องยอมถอยร่นกลับไปรวมตัวกันอยู่บริเวณแนวรั้วหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ตามปกติ
 
ทั้งสองฝ่ายจึงอยู่ในระหว่างเผชิญหน้าบรรยากาศค่อนข้างตึงเครียด

โดยแกนนำประกาศให้ผู้ชุมนุมนั่งสงบอยู่กับพื้นเพื่อจะดูแลควบคุมสถาน    การณ์ได้ง่าย ขณะกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหารก็ได้ปรับเปลี่ยนแผนใหม่ มีการเสริมกำลังทหารเข้ามาที่บริเวณหอประชุมกองทัพบกและภายในบ้านสี่เสาฯ

ลุกฮือจ่อเป็นจลาจลย่อย

 กระทั่งเวลา 22.20 น. หลังมีการสนธิกำลังตำรวจ-ทหาร หวังจะเข้ามาสลายการชุมนุมเป็นรอบที่ 2 ปรากฏว่ากลุ่มผู้ชุมนุมทราบข่าวจึงลุกฮือขึ้นขัดขวาง ระดมขว้างปาสิ่งของที่หยิบฉวยได้ ไม่ว่าจะเป็นก้อนหิน ขวดน้ำ เศษไม้ รวมไปถึงรื้อแผงเหล็กกั้น ปาเข้าใส่เจ้าหน้าที่อย่างเมามัน

นอกจากนี้

บางส่วนยังฉวยโอกาสปากันแบบดุเดือดเข้าใส่ในบริเวณรั้วหอประชุมกองทัพบกซึ่งมีเจ้าหน้าที่เตรียมกำลังพร้อมอยู่ในแนวรั้ว แม้แกนนำจะพยายามประกาศให้อยู่ในความสงบชั่วคราวแต่กลุ่มผู้ชุมนุมที่เป็นชายฉกรรจ์แถวหน้าไม่สนใจ

หลังจากนั้น

ความวุ่นวายยังขยายวงกว้างไปทางจุดผู้ชุมนุมบริเวณตลาดเทเวศร์ด้วยเช่นกัน โดยมีการทุบทำลายกระจกรถดับเพลิงของ กทม. และรถหกล้อ   ของ บช.น.จนกระจกแตกพังเสียหาย อย่างไรก็ดีมีผู้ชุมนุมบางส่วนถูกลูกหลงเศษก้อนหินกันเองจนหัวร้างข้างแตกไปตาม ๆ กัน

ม็อบนปก.ล่าถอยกลับ 

 จากนั้นเวลา 23.10 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจคอมมานโดได้เสริมกำลังกว่า 1,000 นาย มีทั้งโล่และกระบองดาหน้าสลาย  การชุมนุมรอบที่ 3 อีกครั้ง คราวนี้มีการใช้แผนยิงแก๊สน้ำตาและแก๊สพริกไทยเข้าไปในกลุ่มเพื่อหวังจู่โจมจับกุม 8 แกนนำบนรถเครื่องเสียงให้ได้ หลังจากนั้นจึงมีการเปิดฉากระดมขว้างปาสู้กับเจ้าหน้าที่แบบดุเดือด ส่งผลทำให้รถเครื่องขยายเสียงพลอยถูกลูกหลงเศษก้อนหินและอิฐไปด้วย     
     

 จากนั้นรถของแกนนำ

พร้อมผู้ชุมนุมจึงค่อย ๆ เคลื่อนถอยออกจากบริเวณหน้าบ้านสี่เสาฯไปทางตลาดเทเวศร์ แต่ระหว่างทางก็ยังคงมีการปา    สิ่งของเข้าไปในสโมสรกองทัพบกและทุบทำลายรถยนต์ที่จอดอยู่ริมถนนทำให้ข้าวของเสียหายจำนวนมาก
 
หลังจากม็อบ นปก.เคลื่อนออกมาทางตลาดเทเวศน์แล้วมุ่งหน้าไปทางแยกบางลำภู

โดยแกนนำทั้ง 8 คนก็เริ่มแยกย้ายลงจากรถเครื่องขยายเสียง พร้อมมีการนัดหมายให้ไปปักหลักรวมตัวกันอีกครั้งที่ท้องสนามหลวง ขณะเดียวกันมีรายงานว่า นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล แกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 ได้ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเอาไว้ได้คนแรก ส่วนที่บริเวณหน้าบ้านสี่เสาฯทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าไปดูแลความเรียบร้อย นำรถดับเพลิงไปฉีดทำความสะอาดทันที.