‘ในหลวง’ทรงรับฎีกา สร้าง‘แก้มลิง’ช่วยกาฬสินธุ์

ภาพจาก แนวหน้าภาพจาก แนวหน้า


‘ในหลวง’ทรงรับฎีกาสร้าง‘แก้มลิง’ช่วยกาฬสินธุ์ เผยทรงงานแม้ประชวรหนัก แฉรัฐเมินเฉย-ไม่มีเงินทอน

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปอ.) แถลงข่าวภาคี 8 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจาก พระราชดำริ (กปร.)

มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กองทัพบก กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) และสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ร่วมดำเนินโครงการพัฒนาแก้มลิงหนองเลิงเปือยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน 53 หมู่บ้าน 4 ตำบล 2อำเภอ ให้พ้นจากปัญหาภัยซึ่งเกิดจากน้ำและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มั่นคงยั่งยืน

ทั้งนี้ นายสุวัฒน์ เทพอารักษ์ เลขาธิการ กปอ.กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานพระราชดำริด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อเป็นปัจจัยพื้นที่ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของอาณาประชาราษฎร์จนเกิดเป็นโครงการด้านการพัฒนาแหล่งน้ำกระจายอยู่ในทั่วทุกภูมิภาคกว่า 3,031 โครงการและผลสำเร็จจากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่มั่นคงยั่งยืนทั่วกัน ที่ผ่านมาแม้พระองค์จะประชวร พระองค์ก็ยังคงทรงงานทุกวันและทรงอ่านฎีกาต่างๆที่ประชาชนเดือดร้อนทูลเกล้าฯถวายฯตลอดเวลาที่รพ.ศิริราช

ด้าน ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล เลขาฯมูลนิธิปิดทองหลังพระ กล่าวว่า แม้ในหลวงทรงพระประชวรและประทับที่ รพ.ศิริราช พระองค์ทรงรับฎีกาของชาวบ้านหนองเลิงเปือยไว้เป็นโครงการพระราชดำริ ที่หน้าแล้งน้ำแห้งผาก ถึงเวลาหน้าน้ำ น้ำก็ท่วม โดยเฉพาะน้ำแล้ง ในหลวงจึงทรงให้ทำแก้มลิง โดยมีกองทัพบกเป็นกำลังหลัก ร่วมกับหน่วยงานต่างๆและสำนักนายกรัฐมนตรี อนุมัติงบประมาณให้ราว 400 ล้านบาท

“ปีนี้ผมอายุ74แล้ว แต่ต้องสู้ เพราะขนาดในหลวงทรงเจริญพระชนมพรรษา 85พรรษาแล้ว ท่านประชวรก็ยังทรงงานทุกวัน พวกเราอย่าปล่อยให้ในหลวงทรงงานอยู่พระองค์เดียว รวมทั้งการแก้ปัญหาน้ำของไทย เหลวไหลที่สุด แก้เอง ไม่ต้องพึ่งรัฐบาล รอรัฐบาลไม่ได้ เหมือนโครงการนี้ เกิดจากชาวบ้านระเบิดภายในขึ้นมา แตกต่างกับโครงการอื่นที่เคยทำกันมาและค่อนข้างสมบูณณ์ หากโครงการเสร็จสิ้นจะเป็นโครงการแก้ปัญหาได้ยาวนานถึง 100 ปี ซึ่งถึงเวลาแล้วที่ทุกคนต้องร่วมกันแบ่งปันพระราชภาระกิจของพระองค์ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นเมือวันที่ 16 สิงหาคม2554 ขณะพระองค์ประชวรหนักและประทับอยู่ รพ .ศิริราช” ม.ร.ว.ดิศนัดดา กล่าวและว่า

ขณะเดียวกันโครงการดังกล่าวยังเป็นโครงการที่ทำให้ประชาชนสามารถเพิ่งตนเองได้โดยภาครัฐคอยเป็นพี่เลี้ยงซึ่ง ยึดหลักให้ประชาชนร่วมบริหารจัดการด้วยตนเองให้ได้ ซึ่งที่ผ่านมาส่วนตนรู้สึกผิดหวังมากกับการบริหารจัดการน้ำของภาครัฐ ปัญญามี แต่ไม่รู้จักเอาชุมชนมาเป็นตัวตั้งเหมือนโครงการที่กำลังดำเนินาการในโครงการนี้ มีแต่กำหนดจากข้างบนลงล่าง ทำให้ไม่สามารถเกาถูกที่คันได้ ต้องเข้าใจตนเองและเข้าใจความต้องการของชุมชนในพื้นที่ด้วย โดยการดำเนินการทั้งหมดต้องมองจากข้างบนลงล่างและให้ข้างล่างลุกขึ้นมาจัดการด้วยตนเอง โดยมีภาครัฐเป็นพี่เลี้ยงถึงจะเป็นแนวทางที่ถูกต้องและโครงการนี้ถือเป็นโครงการที่ดีและเป็นแบบอย่างให้กับโครงการอื่นๆในอนาคต แแต่ไม่ค่อยมีใครสนใจ เพราะทำแล้วไม่มีเงินทอน ซึ่งต้องเริ่มคนในพื้นที่ไม่ใช่ข้าราชการ เพราะข้าราชการเป็นส่วนต้องไปเสริมถึงจะถูกต้อง

ขณะที่ นายรอยล จิตรดอน เลขาธิการมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่ามูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ จะเสริมในด้านองค์ความรู้ด้วยการเสนอแนวทางการพัฒนาและบริหารจัดการน้ำในพื้นที่หนองเลิงเปือยอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ เช่น ขุดลอกหนองและคลองดักตะกอนให้เหมาะสม สอดรับกับทิศทางการไหลของน้ำในหน้าฝนและก่อสร้างประตูระบายน้ำให้รับน้ำและระบายน้ำเชื่อมโยงกับลำน้ำลำปาว รวมทั้งปลูกต้นไม้เป็นแนวป้องกันลมเพื่อลดอัตราการระเหยของน้ำ เนื่องจากภาคอีสานมีอัตราการระเหยสูง โดยเลือกต้นไม้ประเภทไม้ไผ่เพื่อทำเป็นถ่านBio Charchol นอกจากนี้ หลังขุดลอกแล้วควรมีแนวทางที่สามารถบริหารจัดการน้ำให้เต็มศักยภาพได้อย่างน้อยปีละ 2ครั้ง คือ ช่วงต้นฤดูฝนเพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ช่วงฝนทิ้งช่วงและช่วงเดือนกันยายนเพื่อรองรับน้ำหลากให้เป็นแก้มลิงรับน้ำจากลำน้ำลำปาวและเก็บไว้ใช้ในฤดูแล้งถัดไป

ทางด้าน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ผช.ผบ.ทบ.กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.สนองในหลวง โดยสั่งระดมทหารช่าง 6กองพัน เร่งขุดดิน 5ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) และกำจัดตะกอนทำแก้มลิง”หนองเลิงเปือย”ให้เสร็จใน 5เดือน คาดว่าจะเก็บน้ำได้ 6 ล้านลบ.ม.ป้อนพื้นที่การเกษตร 5,200ไร่ ใน 4ตำบลของ อ.ร่องคำและอ.กมลาไสย โดยเริ่มงานปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาราว 5เดือน จึงจะแล้วเสร็จ

สำหรับโครงการพระราชดำริ”แก้มลิง หนองเลิงเปือย”เกิดจากปัญหาความเดือดร้อนของราษฎร อ.ร่องคำและอ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งทุกปี จนราษฎรได้ขอพระราชทานโครงการขุดลอกหนองเลิงเปือยและซ่อมแซมฝายและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯรับโครงการดังกล่าวไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 16สิงหาคม2554

 


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์