บุกเดี่ยวจี้แบงฏ์กรุงเทพ สาขาบ้านแพง

หนุ่มเจ้าสำราญ สวมเสื้อกลัดดอกไม้ของชำร่วยงานบุญ บุกเดี่ยวใช้มีดจี้พนักงานธนาคารกรุงเทพ สาขาบ้านแพง จ.นครพนม ได้เงินกว่า 8 หมื่นบาท แต่ระหว่างหนีถูกชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่จับไว้ได้ รุมตื้บจนหมดฤทธิ์

เหตุจับคนร้ายบุกเดี่ยวจี้ธนาคาร เกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 22 มีนาคม ขณะที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาบ้านแพง จ.นครพนม ทำหน้าที่ตามปกติภายในธนาคาร ได้มีชายคนหนึ่งรูปร่างสันทัด สวมเสื้อสีเขียวแขนสั้น กางเกงยีน เดินตรงมาที่เคาน์เตอร์ จากนั้นชักมีดปลายแหลมยาว 14 นิ้ว สภาพใหม่เอี่ยมออกมาจี้เจ้าหน้าที่ธนาคารให้ส่งเงินให้ หลังจากกวาดเงินไปได้ทั้งหมดแล้ว จึงวิ่งตรงไปที่ประตูหน้าธนาคารเพื่อหลบหนี แต่ระหว่างนั้น เจ้าหน้าที่หญิงของธนาคารได้ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ทำให้เจ้าหน้าที่ธนาคารที่อยู่ด้านหลังกระโดดข้ามเคาน์เตอร์วิ่งตามมาล็อกคอ และมีชาวบ้านที่มาทำธุรกรรมในธนาคารอีก 4-5 คนวิ่งเข้าช่วยเหลือแย่งมีดไปได้ หลังจากนั้นก็ถูกรุมเตะต่อย จนล้มลงไปนอนกับพื้น ส่วนตำรวจที่เฝ้าธนาคารซึ่งอยู่ระหว่างไปรับประทานอาหารกลางวันทราบเรื่องได้รีบกลับเข้ามาควบคุมตัวพร้อมของกลางมีดทำครัวยาว 14 นิ้ว เงินสดจำนวน 8.4 หมื่นบาท และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า โนวาแดช สีน้ำเงิน ทะเบียน กกจ 829 นครพนม ไปดำเนินคดีที่ สภ.อ.บ้านแพง

ต่อมา พ.ต.อ.ธนพล บริบูรณ์ ผกก.สภ.อ.บ้านแพง จ.นครพนม ได้รับแจ้งจึงได้เข้าร่วมสอบสวน ทราบชื่อคนร้ายคือ นายเทพพนม แพงโท อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101 บ้านนางัว หมู่ 4 ต.นางัว อ.บ้านแพง ให้การว่า ได้ดูลาดเลาก่อนเข้าจี้ชิงเงินธนาคาร ตอนแรกพุ่งเป้าไปที่ธนาคารออมสิน สาขาบ้านแพง จากนั้นได้ไปซื้อมีดทำครัวจากตลาดซึ่งอยู่ใกล้กัน แต่เมื่อกลับมาที่ธนาคารออมสินก็พบว่า มีคนมาติดต่อจำนวนมาก จึงขี่รถจักรยานยนต์เลยไปยังธนาคารกรุงเทพที่ห่างไปประมาณ 50 เมตร เห็นว่าไม่มีตำรวจหรือ รปภ.เฝ้าอยู่ จึงจอดรถจักรยานยนต์ติดเครื่องไว้หน้าธนาคาร แต่พลาดถูกเจ้าหน้าที่และชาวบ้านช่วยกันจับตัวไว้ได้เสียก่อน

นายชานนท์ ดวงสงค์ อายุ 30 ปี เจ้าหน้าที่แคชเชียร์ของธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ระหว่างเกิดเหตุตำรวจและ รปภ.อยู่ในช่วงพักเที่ยง ส่วนตนทำงานอยู่หลังเคาน์เตอร์ ระหว่างนั้นได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่แคชเชียร์หญิงร้องตะโกนว่า ถูกชิงทรัพย์ ได้หันไปดูเห็นคนร้ายกำลังวิ่งไปที่ประตู จึงได้กระโดดข้ามเคาน์เตอร์ไปคว้าคอไว้ ระหว่างนั้นก็มีชาวบ้านอีกหลายคนเข้ามาช่วยกันจับตัวไว้ได้ โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเพราะคนร้ายยังไม่มีโอกาสใช้มีด จากนั้นตำรวจและ รปภ.ที่รับประทานอาหารอยู่ใกล้ธนาคารได้รับแจ้งเหตุ เข้าช่วยควบคุมตัวไว้ได้

พ.ต.อ.ธนพล ผกก.สภ.อ.บ้านแพง กล่าวว่า การจับกุมคนร้ายครั้งนี้ถือว่าเป็นการร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ธนาคาร ตำรวจ และชาวบ้าน หลังจากสอบประวัติคนร้ายทราบว่า ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไรเป็นหลักแหล่ง คาดว่าน่าจะเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ ชอบเที่ยวเตร่ เพราะขณะก่อเหตุยังกลัดดอกไม้ของชำร่วยในงานบุญบนอกเสื้อ คาดว่าคงก่อเหตุด้วยอารมณ์ชั่ววูบที่ต้องการหาเงินไปเที่ยวงานบุญต่อ หลังเกิดเหตุได้กำชับตำรวจให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยร้านทอง ธนาคาร หรือธุรกิจที่มีเงินสดหมุนเวียนจำนวนมาก เพราะพื้นที่ อ.บ้านแพง อยู่ติดกับลำน้ำโขง ซึ่งใช้เป็นเส้นทางหลบหนีได้สะดวก และอาจมีคนร้ายข้ามชาติมาก่อเหตุ ดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นใน จ.อุดรธานี และ จ.หนองคาย ที่มีคนร้ายข้ามโขงมาปล้นร้านทองแล้วยิงเจ้าทรัพย์ตาย