เด็กกลืนนกหวีดมายากลหวิดดับ

"เด็กเผลอกลืนนกหวีดติดคอเกือบดับ"


เด็กวัย 6 ขวบรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หลงเชื่อพ่อค้าเร่โชว์ "นกหวีดมายากล" ซื้อมาเล่นกลับพลาดกลืนเข้าคอหวิดดับ ญาตินำส่งโรงพยาบาลเขลางค์แต่ไม่มีแพทย์เวร โชคดีประสานแพทย์จากโรงพยาบาลลำปางมาช่วยได้โดยไม่ต้องผ่าตัด

แพทย์เผยโชคดีที่นกหวีดมีรูอากาศจึงไม่เสียชีวิต เป็นอุทาหรณ์พ่อค้าขายของให้เด็กโดยไม่รับผิดชอบเกือบเกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากแพทย์โรงพยาบาลลำปาง ช่วยเอานกหวีดที่ติดคอ ด.ช.พุทธราช หมึกขุนทศ อายุ 6 ขวบ ที่กลืนนกหวีดเพราะคิดว่าเป็นนกหวีดมายากล

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 24 กุมภาพันธ์ นายพรพัชรพรหม บุญอิน อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/2 หมู่ 4 ต.ดอนไฟ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ซึ่งเป็นตาของ ด.ช.พุทธราช กล่าวว่า เมื่อเวลา 06.00 น. ขณะตนสวดมนต์ไหว้พระอยู่ ด.ญ.ศศิมา หมึกขุนทศ อายุ 13 ปี หลานสาว มาบอกว่า ด.ช.พุทธราช น้องชาย กลืนนกหวีดเข้าไป เมื่อวิ่งไปดูพบว่าหลานชายร้องไห้นอนกลิ้งบนพื้นเอามือกุมคอไว้ สภาพหน้าเขียว และมีเสียงนกหวีดดังเวลาที่หายใจ

นายพรพัชรพรหม กล่าวว่า เมื่อตั้งสติได้ จึงรีบนำหลานชายส่งโรงพยาบาลเขลางค์นครราม อ.เมือง จ.ลำปาง เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรีบนำเข้าห้องฉุกเฉิน แต่ปรากฏว่าไม่มีแพทย์เวรอยู่ โรงพยาบาลเขลางค์นครราม เกรงว่าจะช่วยเหลือไม่ทัน จึงประสานไปยังโรงพยาบาลลำปางเพื่อรับผู้ป่วยรักษาอย่างเร่งด่วน และเมื่อนำส่งโรงพยาบาลกลับต้องเสียเวลาทำประวัติคนไข้เกือบครึ่งชั่วโมง โชคดีที่แพทย์ศัลยกรรมของโรงพยาบาลได้รับแจ้งประสานจากโรงพยาบาลเขลางค์นครล่วงหน้า จึงรีบนำ ด.ช.พุทธราชเข้าห้องเอกซเรย์ และช่วยเหลือนำนกหวีดที่ติดในลำคอออกโดยไม่ต้องผ่าตัด

"วอนพ่อค้าขายของคำนึงเด็กด้วย"


"ตอนรักษาตัว หลานชายมีอาการอาเจียนเป็นเลือดและหายใจลำบาก ตอนนั้นสงสารมาก แต่ดีใจที่หลานปลอดภัย" นายพรพัชรพรหม กล่าว

ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทราบว่า เมื่อวันก่อน โรงเรียนที่หลานสาวและหลานชายเรียนอยู่ จัดงานการศึกษาและมีพ่อค้าเร่นำนกหวีดมายากลมาขายในงาน โดยพ่อค้าขายนกหวีดได้แสดงมายากลด้วยการเอามือแตะอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งไม่ว่าจะแตะที่ไหนจะมีเสียงนกหวีดดังขึ้น ซึ่งทำให้ ด.ช.พุทธราชชอบ และคิดว่าเป็นนกหวีดมายากล จึงซื้อนกหวีดขนาดยาว 2 ซม. มาเล่น โดยแอบเล่นกันสองคนพี่น้องจนเกิดเหตุดังกล่าว

"กรณีของน้องพุทธราช เป็นอุทาหรณ์สำคัญว่าสินค้าอันตรายลักษณะนี้ไม่ควรขายให้เด็ก เพราะเด็กยังรู้เท่าไม่ถึงการณ์และยังไม่ชำนาญในการเล่นอมนกหวีด นกหวีดมีขนาดเล็กมาก ขนาดผู้ใหญ่ยังมีโอกาสเผลอหลุดเข้าไปในหลอดลมได้ อยากวอนให้พ่อค้าอย่าขายให้เด็ก ผมเข้าใจว่าเป็นการค้าขาย แต่ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมด้วย บางทีเด็กซื้อมาเราไม่ทันสังเกตหรือไม่ทราบ แอบเล่นกันเอง มีอันตรายถึงชีวิตได้ นายพรพัชรพรหม กล่าว

ต่อมาผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ ด.ช.พุทธราช ซึ่งพักอยู่ในห้องพักผู้ป่วย ด.ช.พุทธราช เล่าว่า พี่สาวซื้อนกหวีดมายากลดังกล่าวมาจากโรงเรียน ในราคา 5 บาท แล้วมาหัดเล่นมายากลตามที่คนขายแสดง ตนจึงขอเล่นบ้าง แต่ขณะกำลังอมนกหวีดไว้ในปากและเป่าลมเข้าออก นกหวีดหลุดเข้าไปในลำคอโดยไม่รู้ตัว

"ตอนนี้ไม่กล้าเล่นนกหวีดอีกแล้ว" ด.ช.พุทธราช เล่าพร้อมร้องไห้โฮ

"เร่งให้มีฉลากคุ้มครองของเล่น"


น.พ.ชิโนรส ลี้สวัสดิ์ รักษาราชการแทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่อันตรายและต้องหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อควบคุมการจำหน่ายของเล่นให้แก่เด็ก เพราะปกติแล้ว การจำหน่ายของเล่นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 4 ขวบ หรือของเล่นบางชนิดต้องมีฉลากควบคุม ยิ่งการจำหน่ายของเล่นบางชนิดในโรงเรียนต้องดูแลด้วย ตนจะเร่งดำเนินการเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประกาศเตือนผู้ปกครองให้ระวังอย่างเร่งด่วน

ด้าน พ.ญ.ปิยะนุช กัณหะสิริ แพทย์เวรประจำกลุ่มงาน หู คอ จมูก โรงพยาบาลลำปาง แพทย์เจ้าของไข้ ด.ช.พุทธราช กล่าวว่า ตอนรับตัวมานั้น พบว่าเด็กหายใจลำบาก ลำตัวเขียว จึงให้ดมยาสลบและส่องกล้องเข้าไปทางช่องคอเพื่อหาจุดที่นกหวีดติดค้างอยู่ พบว่านกหวีดติดแน่นอยู่ในช่องหลอดลมใต้กล่องเสียง ซึ่งเป็นจุดที่แคบที่สุดของหลอดลม จึงใช้คีมคีบออกมาโดยไม่ต้องผ่าตัด ขณะนี้ ด.ช.พุทธราชปลอดภัยแล้ว ขณะนี้แพทย์ให้ยาเพื่อระงับอาการบวมอักเสบของช่องหลอดลม และวัดระดับออกซิเจนจนกว่าจะแน่ใจว่าไม่มีผลกระทบใด คาดว่าวันที่ 25 กุมภาพันธ์ จะอนุญาตให้กลับบ้านได้

"กรณีนี้เป็นตัวอย่างให้ผู้ปกครองและเด็กต้องระวังห้ามนำวัตถุขนาดเล็กเข้าไปในปาก เพราะอาจส่งผลให้เด็กหายใจไม่สะดวกและออกซิเจนต่ำ ประกอบกับเนื้อเยื่อรอบๆ หลอดลมได้รับความกระทบกระเทือน แต่กรณี้นี้ ยังโชคดีที่นกหวีดมีรูเล็กๆ พอให้ลมผ่านได้ขณะหายใจ หากเป็นวัตถุทึบอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต" พ.ญ.ปิยะนุช กล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์