แกะรอยคดีพิศวง!?! ฆ่าข่มขืนสาวเปลือยคนแคระและปมชู้สาว

แล้วหญิงนิรนามถูกฆ่าข่มขืนทิ้งศพหมกป่าละเมาะจ.นครปฐม เป็นศพโผล่ฟ้องตอนเย็นวันที่ 22 ม.ค. ที่ผ่านมา

สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็รู้แล้วว่าผู้ตายเป็นใครมาจากไหน แต่ที่ยังไม่รู้คือว่าใครเป็นคนร้ายที่ลงมือฆ่าผู้ตาย

มันลงมืออย่างโหดเหี้ยม

ทำโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย!?!

ศพหญิงนิรนามรายนี้คือน.ส.มัทนพร หรือ"น้อย" จันทร์กอง อายุ 29 ปี พนักงานบัญชีบริษัท ยูหลิม จำกัด ย่านเจริญกรุง เป็นบริษัทส่งออกเครื่องประดับจิวเวลรี่

หลังพบศพ 5 วัน ญาติจึงเดินทางมายืนยันกับตำรวจว่าใช่น.ส.มัทนพร แน่ๆ ที่สำคัญ ก่อนตายไม่มีใครรู้ว่าเธอออกไปไหนกับใคร และเดินทางมาจ.นครปฐมทำไม

"มัทนพร" ถูกฆ่าข่มขืนเป็นศพหมกป่าละเมาะข้างทางริมถนนเพชรเกษมขาออก ภายในซอยจัดสรรทหารบก หมู่ 4 ต.ท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี ตายในสภาพศพเปลือยเปล่านอนหงายหน้างอเข่า อยู่กับพื้นซึ่งมีหญ้ารองอยู่

ลำคอมีร่องรอยถูกรัด มีเลือดไหลซึมทางจมูก ที่ข้อมือซ้ายมีสายสิญจน์ผูกอยู่กับโซ่เหล็กขนาด 3 มิลลิเมตร ยาวประมาณ 40 ซ.ม. มัดและคล้องกุญแจแบบห่วงขนาดเล็กสีดำ ข้างศพพบหยดเลือดตกเป็นหย่อมๆ พบผ้าขนหนูสีเหลืองมีคราบเลือดทิ้งอยู่ 1 ผืน ห่างจุดพบศพประมาณ 20 เมตร พบกระเป๋าสะพายสีชมพู 1 ใบ รองเท้าแฟชั่นผู้หญิงหูหนีบสีเงิน 1 คู่ เมื่อเปิดกระเป๋าออกพบกระโปรงผ้าแฟชั่นสีขาวเปื้อนคราบเลือด 1 ตัว เสื้อสายเดี่ยวสีขาว 1 ตัว เสื้อแขนกุดพื้นเหลืองริมขาว 1 ตัว กางเกงชั้นในสีชมพูอ่อน 1 ตัว เสื้อยกทรงสีชมพูอ่อน 1 ตัว และตลับใส่ทองจากร้านโต๊ะกังบางแค 1 ตลับ สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ช.ม.


คนร้ายลงมืออย่างป่าเถื่อนสุดๆ

ในตอนแรกเจ้าหน้าที่ยังไม่รู้ว่าเธอคือ "มัทนพร" พนักงานบัญชีบริษัท ยูหลิม เพราะไม่มีหลักฐานใดๆ มายืนยัน มีแต่พยานแวดล้อมที่ให้การตรงกัน ว่าเห็นผู้ตายลงมาจากรถโดยสารสายนครปฐม-กรุงเทพฯ สีส้ม ในตอนสายของวันเกิดเหตุ แล้วเดินเข้ามาในซอยแห่งนี้พร้อมกับชายร่างแคระ 1 คน

หลังจากนั้นประมาณ 1 ช.ม. ก็เห็นชายร่างแคระเดินออกมาคนเดียว แล้วข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามขึ้นแท็กซี่สีน้ำเงิน-แดง มุ่งหน้าเข้ากทม.

ดังนั้น เพื่อให้คดีคลี่คลายโดยเร็ว ตำรวจจึงตั้งเงินรางวัลในการให้เบาะแสคนแคระรายนี้ถึง 5 หมื่นบาท

กระทั่งในวันที่ 27 ม.ค. นายประมวล จันทร์กอง อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 ม.10 ต.ร่องคำ อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ พ่อน.ส.มัทนพร พร้อมน.ส.รวิภา จันทร์กอง อายุ 31 ปี น.ส.ประภาภรณ์ จันทร์กอง อายุ 24 ปี พี่สาวกับน้องสาว และนายสำอางค์ พิมพ์แก้ว อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 115/1 ม.11 ต.ศรีจุฬา อ.เมือง จ.นครนายก เพื่อนชายของผู้ตาย เดินทางเข้าพบพ.ต.ท.กฤษดา ดีลีพจนานนน์ พนักงานสอบสวน สภ.อ.นครชัยศรี ยืนยันว่าผู้ตายคือน.ส.มัทนพรที่หายออกไปจากบ้านหลายวันแล้ว

ข้อมูลของ "มัทนพร" จึงถูกเฉลยออกมา

พ่อผู้ตายเล่าว่า "มัทนพร" เป็นลูกสาวคนที่ 3 ในจำนวนลูก 4 คน หลังเรียนจบมัธยม ก็ขอเข้ากทม.มาหางานทำและหาที่เรียนต่อ ต่อมาได้มีแฟนอยู่กินกันกับนายสนธยา หรือลี่ เหมทอง อายุน้อยกว่า 1 ปี เป็นคนกรุงเทพฯ จนกระทั่งตั้งท้องไม่ทันคลอด นายสนธยาก็ถูกจับติดคุกคดีลักทรัพย์ ต่อมาลูกสาวคลอดลูกก็เอาไปให้ตนเลี้ยงอยู่ที่บ้านนอก ตอนนี้อายุขวบครึ่ง แรกๆ ลูกสาวก็เทียวไปเยี่ยมนายสนธยาขณะอยู่ในคุก จากนั้นก็ห่างๆ กันไปและเลิกกันในที่สุด

นายประมวลเล่าอีกว่า ระหว่างอยู่กทม. ลูกสาวเปลี่ยนงานอยู่เรื่อยๆ และมาคบหากับนายสำอางค์ที่มาด้วยกัน ซึ่งนายสำอางค์รับปากจะไปจัดการตามประเพณี แต่ก็ผัดผ่อนมาหลายครั้งอ้างงานยุ่ง เพิ่งมาทราบภายกลังว่านายสำอางค์ก็มีลูกมีเมียอยู่แล้ว แต่ทั้งคู่ก็ยังแอบคบหากัน

ด้านนายสำอางค์เล่าว่า อยู่กินกันแบบลับๆ กับน.ส.มัทนพร มาประมาณ 2 ปีแล้ว พบกันครั้งแรกที่ทำงานที่เดียวกัน ต่อมาช่วงหลังห่างๆ กันไป เพราะภรรยาเริ่มระแคะระคายว่าตนแอบมีเมียน้อย ล่าสุดได้พาน.ส.มัทนพรไปเช่าอพาร์ตเมนต์อยู่ที่ สวนผักซอย 2 ชื่อสวนผักอพาร์ตเมนต์ อยู่ตรงนั้นได้ประมาณ 4 เดือนแล้ว วันสุดท้ายได้พบกับน.ส.มัทนพร ที่อพาร์ตเมนต์ ตอนเย็นวันที่ 21 ม.ค. จากนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย โทรศัพท์ติดต่อก็ไม่ได้ ไปหาที่ห้องก็ไม่พบ รู้ข่าวอีกทีก็ถูกฆ่าตายแล้ว

ตำรวจบันทึกปากคำไว้อย่างละเอียด

คดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญประชาชน พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม สั่งการให้พ.ต.อ.บุญส่ง อัตวรอนันต์ ผกก.สภ.อ.นครชัยศรี จัดกำลังไล่ล่าคนร้ายเป็นการด่วน

มอบหมายให้พ.ต.ท.กันตพิชญ์ กฤตวงศ์วิมาน รอง ผกก.ป.ฯ พ.ต.ท.วิโรจน์ เหมือนแท้ รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ท.อนุภาพ วิศรัมวัน สวป.ฯ พ.ต.ต.สุระพรรณ นาทวรทัต สว.สส.ฯ เป็นชุดคลี่คลายคดี

งานนี้ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะยังไม่ได้ข้อมูลคนแคระตามที่พยานกล่าวอ้าง แต่ก็พอรู้ข้อมูลในวงกว้างของสาเหตุการตาย เมื่อสืบพบว่าก่อนหน้านี้ผู้ตายมีปัญหาในเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ระหว่างแฟนเก่าและแฟนใหม่ สาเหตุการตายจึงพุ่งตรงไปที่เรื่องชิงรักหักสวาทหรือหึงหวงก็เป็นได้ เชื่อว่าคนร้ายจะต้องเป็นคนใกล้ชิดที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ตาย

คนใกล้ตัว "มัทนพร" คนใดคนหนึ่งจะต้องเป็นผู้กำความลับไว้!??

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสืบพบด้วยว่า ในมุมส่วนตัวของน.ส.มัทนพร เป็นคนที่เชื่อในเรื่องของโชคลางของขลัง และเชื่อหมอดูเป็นอย่างมาก จากการตรวจค้นห้องพักพบเบอร์โทรศัพท์หมอดูมากมาย ตำรวจกำลังขยายผลว่าเบอร์โทร.เหล่านี้เกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับการตาย

เป็นคดีฆาตกามปริศนาที่ต้องตามลุ้นด้วยความระทึก