หนุ่มเพี้ยนใช้นำมันเบรกราดรถหรูบนห้างบิ๊กซี 18 คัน รปภ.รวบทันควัน

ภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เน็ต



"หนุ่มเพี้ยน ราดน้ำมันใส่รถเก๋งลานจอดรถบิ๊กซี"


หนุ่มวัยกลางคนเพี้ยนใช้นำมันเบรกราดใส่รถหรูบนห้างบิ๊กซีสาขาเพชรเกษม 18 คัน รปภ.สังเกตเห็นวิ่งตามรวบได้ทันควันก่อนจับส่งตร.ยัดห้องขังหวั่นถุกเจ้าของรถรุมประชาทัณฑ์ ตร.สอบให้การวกวน

เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 15 ธันวาคม พ.ต.ท.สายชล มงคล สารวัตรเวร สน.เพชรเกษม รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของห้างบิ๊กสาขาเพชรเกษม ว่าสามารถจับกุมคนร้ายก่อเหตุใช้น้ำมันเบรกราดใส่รถของผู้มาใช้บริการภายในห้างได้รับความเสียหายจำนวน 18 คัน ซึ่งจอดอยู่บริเวณลานจอดรถห้างบิ๊กซี สาขาเพชรเกษม ถ.เพชรเกษม แขวงและเขตบางแค กทม. โดยได้ควบคุมตัวคนร้ายมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีทราบชื่อต่อมาคือ นายสิทธิกร พุ่มพวง อายุ 33 ปี พร้อมของกลางขวดชาเขียว ภายในบรรจุน้ำมันเบรกรถยนต์

จากการตรวจสอบพบว่ารถที่เสียหายจำนวน 18 คันนั้น ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ยี่ห้อหรู บางคันเป็นรถยนต์ป้ายแดง อาทิรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ ,มาสด้า 3 ,โตโยต้าวิช เป็นต้น สภาพรถถูกราดด้วยน้ำมันเบรก จนทำให้สีรถลอกพองเป็นทางยาว และกัดกร่อนลึกจนถึงตัวถังรถ แต่ละคันได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยบรรดาเจ้าของรถทั้ง 18 คันที่เป็นผู้เสียหายได้นำรถยนต์มาจอดที่สน.เพชรเกษม และชี้ตัวคนร้าย ซึ่งขณะที่ผู้เสียหายเจอหน้าคนร้ายต่างกรูจะเข้าทำร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบกันตัวคนร้ายไปเข้าห้องขังไว้ก่อน เพื่อป้องกันการถูกรุมประชาทัณฑ์

"แทบเป็นลม ไม่เข้าใจคนร้ายทำไปทำไม"


น.ส.จิตนารัฐ เลิศลักษขณวงศ์ อายุ 32 ปี หนึ่งในผู้เสียหายชี้ให้ดูรถเก๋งยี่ห้อมาสด้า 3 สีขาว ป้ายแดง หมายเลขทะเบียน ก- 0958 กรุงเทพมหานคร โดยบริเวณตัวถังด้านซ้ายและประตูรถถูกราดด้วยน้ำมันเบรกเป็นทางยาว จนสีกัดกร่อนเสียหายทั้งแถบ พร้อมทั้งกล่าวว่า ตนนำรถมาจอดที่ห้างบิ๊กซี เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น.เพื่อมาดูภาพยนต์ภายในห้าง จนกระทั่งเวลา 21.30 น. ภาพยนต์เลิกจึงออกมาที่รถและจะกลับบ้านจนพบว่า รถถูกราดน้ำมันเบรกตอนนั้นแทบจะเป็นลม เพราะเพิ่งซื้อรถออกมาใหม่ๆ ไม่น่าจะเกิดเหตุเช่นนี้ได้ รู้สึกเสียดายรถ โดย รปภ.ได้เข้ามาบอกว่า สามารถจับกุมคนร้ายไว้ได้และให้เดินทางมาที่โรงพักเพื่อแจ้งความ ซึ่งตนไม่รู้จักคนร้ายรายนี้เลย และไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใครอีกด้วย จึงไม่ทราบวัตถุประสงค์ของคนร้ายว่าทำไปเพื่ออะไร

ด้านน.ส.พนิดา กองปัญญา อายุ 30 ปี เจ้าของร้านขายสินค้าแบรนด์เนม ในห้างบิ๊กซี เจ้าของรถเบนซ์ สีดำ รุ่น 190 อี ทะเบียน 2 ฮ -4522 กรุงเทพมหานคร ชี้ให้ดูสภาพรถที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยสีที่บริเวณฝากระโปรงรถ ถูกน้ำมันเบรกกัดกร่อนจนลึกจนถึงตัวถัง พร้อมทั้งกล่าวว่า ตนนำรถมาจอดที่บริเวณด้านหลังห้าง โซนซี ตั้งแต่เวลา 09.30 น. เพื่อมาเปิดร้านขายสินค้าตามปกติ จนห้างใกล้ปิดเวลาประมาณ 21.30 น. จึงเดินมาที่รถเพื่อจะเตรียมไปรับสินค้ามาขาย จึงพบว่ารถถูกราดด้วยน้ำมันเบรกได้รับความเสียหายอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ที่ผ่านมา ก็เคยเกิดเหตุคนร้ายใช้น้ำมันเบรกราดรถของตนมาแล้วขณะจอดอยู่ที่ห้างนี้ และตนยังไม่ได้นำรถไปทำสีใหม่ ก็มาถูกก่อเหตุเช่นเดิมซ้ำอีก

"เห็นคนร้ายพ่นน้ำอะไรใส่รถรีบเข้าตรวจสอบ"


"ฉันสังเกตว่ารถที่ได้รับความเสียหายส่วนใหญ่เป็นรถของผู้ที่ประกอบธุรกิจภายในห้างนี้ ฉันจึงมองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นอาจจะเกี่ยวกับความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์การประกอบกิจการภายในห้างนี้หรือไม่"น.ส.พนิดา กล่าว

นายสมชัย ศรีหาวงษ์ อายุ 27 ปี เจ้าหน้ารปภ. กล่าวว่า ขณะที่ตนปฏิบัติหน้าที่อยู่ได้พบคนร้ายเดินถือขวดชาเขียวป้วนเปี้ยนบริเวณรถดังกล่าว และเห็นเหมือนว่ากำลังฉีดน้ำอะไรบางอย่างใส่รถ จึงเดินเข้าไปตรวจสอบ ทันทีที่คนร้ายเห็นตนจึงทำท่าเป็นยกขวดน้ำขึ้นดื่ม แต่ก็ไม่ได้ดื่มจริง และยังสังเกตเห็นว่าไม่ได้เปิดฝาขวด ตนจึงรีบเข้าไปตรวจสอบใกล้ๆ จนพบว่ารถได้รับความเสียหาย พอคนร้ายรู้ตัวจึงได้วิ่งหนีหลบเข้าไปในห้าง ตนก็พยายามวิ่งไล่ตามจนในที่สุดสามารถตะครุบตัวคนร้ายไว้ได้ที่บริเวณป้ายรถเมล์หน้าห้างฯ ทั้งนี้ ทางหัวหน้ารปภ. ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดดูแลความปลอดภัย หลังจากเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม มีคนร้ายก่อเหตุเช่นนี้ไปแล้ว ทำให้รถเสียหายจำนวน 4 คัน

"คนรู้จักคาดคนร้ายเจ็บแค้น เคยถูก รปภ.สงสัยขโมยของ"


จากการสอบสวน นายสิทธิกร คนร้ายที่ก่อเหตุซึ่งมีท่าทีเคร่งเครียด และยังให้การวกวน โดยยังปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จะได้นำกล้องวงจรปิดของห้างมาตรวจสอบอีกครั้ง อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์ พร้อมควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างนายสิทธิกร ถุกควบคุมตัวอยุ่ในห้องขังนั้นได้มีผู้รับเหมารายหนึ่งที่เดินทางมาที่ สน.เพชรเกษม พร้อมทั้งบอกว่า นายสิทธิกร ได้โทรศัพท์ไปหาและบอกว่าให้มาหาที่โรงพักเพราะมีเรื่องตนจึงมาโดยส่วนตัวแล้วไม่ได้สนิทสนมกับนายสิทธิกรเป็นพิเศษ แต่รู้จักกันเพราะนายสิทธิกร ว่าจ้างให้ก่อสร้างร้านขายอะไหล่รถจักรยานยนต์ ย่านพุทธมนฑล สาย 4 โดยร้านที่จะสร้างมีวงเงินประมาณ 3-4 ล้าน ก็เห็นว่าเป็นคนมีฐานะดี จึงไม่รู้ว่านายสิทธิกร ก่อเหตุเช่นนี้ไปเพราะอะไร แต่ได้ทราบมาว่าก่อนหน้านี้นายสิทธิกร เคยมาที่ห้างนี้ และถูกรปภ.สงสัยว่าขโมยของภายในห้าง จึงขอตรวจค้น แต่ในที่สุดก็ไม่พบอะไร ซึ่งอาจจะเป็นความเจ็บแค้นที่ถูกตรวจค้นในครั้งนั้นก็เป็นได้

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์