จับหนุ่มแสบหลอกยกวัด นิมนต์ไปฉันเพลตลบหลังงัดกุฏิ

หนุ่มแสบวงแผนโทรศัพท์ลวงเจ้าอาวาสวัดคลองภูมิ ย่านถนนพระราม 3 พร้อมพระลูกวัดทั้งหมด ให้มาฉันเพลงานทำบุญบ้าน ย่านฝั่งธนบุรี ก่อนโทรศัพท์ติดต่อศูนย์รถแท็กซี่ให้ส่งรถเข้าไปรับพระออกจากวัด

ก่อนย่องเข้าไปงัดกุฏิรื้อค้นเอาเงินบริจาค แต่เวรกรรมตามทัน เนื่องจากเจ้าอาวาสกลับมาเจอตัวพอดี จึงตะโกนเรียกให้ชาวบ้านแจ้งตรวจมาจับตัวไว้ได้ อ้างที่ทำไปก็เพราะต้องการเอาเงินไปรักษาแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูก

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 ธ.ค.49 ขณะที่ ด.ต.อุดม แววขำ จ.ส.ต.มานิตย์ ตรุษดี และ จ.ส.ต.ฉลอง เภาบาง เจ้าหน้าที่ตรวจสายตรวจ สน.บางโพงพาง ออกตรวจพื้นที่อยู่นั้น

ก็ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่า มีกลุ่มชาวบ้านกำลังปิดล้อมจับคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์ บริเวณวัดคลองภูมิ ถนนพระราม 3 ซอยพระราม 3 ซอย 46 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม.จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบพระครูพิศาล ศาสนธรรม ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว และนายอาคม สิทธิโพธิ์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 ตรอกนองเขต แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม.ซึ่งเป็นกรรมการวัดฯ พร้อมกลุ่มชาวบ้านได้ปิดล้อม เพื่อรอจับตัวคนร้าย 1 คน

ที่หลบซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้าบริเวณข้างวัดดังกล่าว จึงเข้าไปจับกุมตัวไว้ได้ ทราบชื่อภายหลังนายภิรมย์ ลาวทอง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 117/38 ซอยวัดช่องลม แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม.จากการตรวจค้นภายในตัวพบเงินสด จำนวน 42,000 บท และไขควงปากแบนอีก 1 ด้าม จากนั้นได้รีบนำตัวมาสอบปากคำที่ สน.บางโพงพาง เนื่องจากมีชาวบ้านที่ทราบข่าวพากันเดินทางจะไปรุมประชาทัณฑ์

โดย นายอาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธ.ค.49 ที่ผ่านมา ได้มีชายคนหนึ่ง ซึ่งมาทราบภายหลังก็คือนายภิรมย์ ทำทีโทรศัพท์เข้ามาติดต่อขอนิมนต์พระทั้งวัด เพื่อให้เดินทางไปฉันเพลในงานทำบุญบ้านช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 10 ธ.ค.49 ที่ซอยกำนันแม้น 19 แต่พระที่วัดติดงานนิมนต์

จึงได้เลื่อนมาเป็นวันนี้ โดยเมื่อเวลา 09.00 น.ก็ได้ให้รถแท็กซี่เข้ามารับพระ จำนวน 4 คัน แต่ปรากฏว่าพระไปไม่หมด เนื่องจากมีพระทั้งหมด 15 รูป ตนจึงโทรศัพท์ติดต่อกลับไปที่ให้เบอร์โทรศัพท์ที่ให้ไว้ หลังจากนั้นนายภิรมย์ ก็ได้ส่งรถแท็กซี่มารับพระเพิ่มอีก 4 คัน จากนั้นคนขับรถแท็กซี่ก็พาพระทั้งหมดเดินทางออกจากวัดไปบ้านที่ให้ที่อยู่ไว้

ด้นพระครู พิศาล เปิดเผยต่ออีกว่า หลังจากอาตมาและพระลูกวัด นั่งรถแท็กซี่เดินทางไปถึงซอยดังกล่าว คนขับรถแท็กซี่ก็ขับรถวนหาบ้านงานตามที่แจ้งมา แต่ก็ไม่พบบ้านตามที่แจ้งไว้ จึงได้ให้แท็กซี่ขับกลับมาส่งที่วัดตามเดิม แต่เมื่อมาถึงกุฏิก็พบว่าประตูห้องถูกงัด

จึงเข้าไปตรวจสอบภายใน ก็พบนายภิรมย์ กำลังงัดและรื้อค้นทรัพย์สิน เมื่อผู้ต้องหาหันมาเห็นอาตมาก็ตกใจ วิ่งหลบหนีออกจากกุฏิพร้อมกับเงินบริจาค อาตมาจึงตะโกนเรียกให้คนในวัดไล่จับกุมตัว จนกระทั่งมาถูกจับตัวได้พร้อมกับเงินจำนวนดังกล่าว

ซึ่งนายภิรมย์ ให้การรับสารภาพว่า ตนมีอาชีพรับจ้างทำงานทั่วไป และได้วางแผนเพื่อเข้ามาลักทรัพย์เป็นเวลา 2 วัน โดยโทรศัพท์ไปติดต่อนิมนต์พระที่วัดเพื่อลวงให้ออกจากวัด

จากนั้นก็โทรศัพท์เข้าไปที่ศูนย์รถแท็กซี่ให้ส่งรถเข้าไปรับพระ เมื่อรถแท็กซี่เข้าไปรับพระออกจากวัดแล้ว ตนก็ใช้ไขควงงัดประตูกุฏิเข้าไปลักทรัพย์ แต่ปรากฏว่าพระกลับมาเจอเสียก่อน

จึงวิ่งหลบหนีและมาถูกจับตัวดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่กระทำความผิดมาจาก ต้องการเอาเงินไปรักษาแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูก ขณะนี้นอนพักรักษตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเลิศสิน

ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตรวจไม่เชื่อในคำให้การ จึงควบคุมตัวส่ง ร.ต.ต.พรชัย เพ่งรุ่งเรืองวงศ์ พงส. (สบ.1) สน.บางโพงพาง ทำการสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อจะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขอขอบคุณแหล่งข่าวดีๆโดย: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง