ลูกจมน้ำรอด พ่อโดดช่วย หมดแรงดับ

เหตุสลดใจที่ จ.สุราษฎร์ธานี พ่อเห็นลูกจมน้ำจึงโดดไปช่วยลูกจนสามารถช่วยไว้ทั้ง 2 คน แต่ตัวเองหมดแรงจมหายไปกับสายน้ำที่เชี่ยวกราก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (4 ก.ค.) ร.ต.ท.โสภณ คงทอง ร้อยเวร สภ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี

รับแจ้งเหตุมีผู้จมน้ำบริเวณแหลมโพธิ์ พื้นที่หมู่ 5 ต.เลม็ด อ.ไชยา เบื้องต้นทราบว่าสูญหายไปในทะเล จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานไปยังเทศบาลพุมเรียง และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานีเพื่อขอกำลังนักประดาน้ำเข้า ค้นหา ก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุวัฒน์ สุขศรี ผกก.สภ.ไชยา พ.ต.ท.ชัญวิทย์ ศรีจรูญ รอง ผกก.ป.สภ.ไชยา กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนักประดาน้ำมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี

ผู้สื่อข่าวรายงานวา เมื่อเจ้าหน้าที่ถึงที่เกิดเหตุ เป็นหาดแหลมขนาดใหญ่มีหาดทราย ใกล้ที่ตั้งสำนักงานเทศบาลพุมเรียง

ถูกปรับแต่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งทุกวันโดยเฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และช่วงเทศกาลจะมีประชาชนทั้งในพื้นที่และใกล้เคียงนิยมพาบุตรหลานและครอบ ครัวไปพักผ่อน ทั้งนี้พบประชาชนจำนวนมากที่นำบุตรหลานไปเล่นน้ำทะเล ต่างมุ่งดูและจับกลุ่มส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้น


ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เบื้องต้นทราบว่ามีผู้จมน้ำทั้งหมด จำนวน 3 ราย แต่สามารถช่วยเหลือขึ้นมาและถูกนำส่ง รพ.ไชยา

ไปก่อนแล้วจำนวน 2 ราย ทราบชื่อ คือ ด.ญ. เบญญทิพย์ ปานแก้ว อายุ 9 ขวบ อยู่ในอาการ สำลักน้ำ เหนื่อยหอบ และตกใจ อาการปลอดภัย ส่วนอีกรายทราบชื่อ ด.ญ.ลลิฐวดี ปานแก้ว อายุ 11 ปี พี่สาว มีอาการสำลักน้ำ หายใจไม่ปกติต้องนำตัวส่งต่อโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี คนที่ยังจมน้ำหายตัวไปคือนายนิโรจน์ ปานแก้ว อายุ 36 ปี พ่อของเด็กทั้งสอง

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะเกิดเหตุนายวิโรจน์ บิดาของเด็กซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ได้พยายามเข้าไปช่วยเหลือลูกสาวทั้งสองที่จมน้ำขึ้นมาได้

แต่ตัวเองกลับจมหายไปกับสายน้ำ เจ้าหน้าที่ชุดนักประดาน้ำ จึงได้ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่กระจายกันค้นหา ท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก และทะเลมีคลื่นลมแรง และน้ำเชี่ยวกรากเนื่องจากอยู่ในช่วงน้ำขึ้น เจ้าหน้าที่ใช้เวลาค้นหา นานกว่า 1 ชม. สามารถค้นหาพบร่างของนายนิโรจน์ ถูกคลื่นซัดจมอยู่กับพื้น ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 100 เมตร ซึ่งอยู่ในสภาพนุ่งกางเกงยีนสีน้ำเงิน สวมเสื้อยืดสีเทา ตัวซีดเขียว จึงนำศพตรวจชันสูตรที่โรงพยาบาลไชยา

นายอรรถ ใจกว้าง อายุ 68 ปี ตาทวดของ ด.ญ.ลลิฐวดี และ ด.ญ.เบญญทิพย์ กล่าวให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า

นายนิโรจน์ ผู้เสียชีวิต หลานเขย มีอาชีพเป็นเซลล์แมน พักอาศัยอยู่ในตัวเมืองสุราษฎร์ธานีกับบุตรสาวคนโต คือ ด.ญ.ลลิฐวดี ส่วนมารดาของเด็กทำงานอยู่ที่ อ.เกาะพะงัน ก่อนเกิดเหตุ เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ได้มารับ ด.ญ.เบญญทิพย์ บุตรสาวคนเล็ก ที่อาศัยอยู่กับยายที่ ต.เลม็ด เพื่อไปเที่ยวชายทะเล บริเวณแหลมโพธิ์ที่เกิดเหตุ

ตาทวดของ ด.ญ.ลลิฐวดี และ ด.ญ.เบญญทิพย์ กล่าวด้วยว่า ขณะเกิดนายนิโรจน์ ได้ปล่อยให้บุตรสาวทั้ง 2 ลงเล่นน้ำบริเวณชายฝั่ง

ส่วนตัวเองนั่งอยู่บนฝั่ง จนเกิดเหตุเห็นบุตรสาวทั้ง 2 กำลังจมน้ำจึงได้วิ่งลงไปช่วยลูกทั้ง 2 ขึ้นมาส่งต่อให้กับพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ และพยายามเข้าไปช่วยเหลือ จนสามารถช่วยเหลือขึ้นมาได้ แต่นายนิโรจน์กลับหมดแรง ประกอบกับกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก เนื่องจากเป็นช่วงน้ำขึ้น ทำให้ร่างของนายนิโรจน์ พัดไปกับกระแสน้ำหายไปตรงช่องทางเดินน้ำ แม้ผู้พบเห็นจะพยายามเข้าช่วยเหลือก็ตาม

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์