แป้นบาสทับ ม.4 กะโหลกร้าวสาหัสเลือดคั่งในสมอง!

กะโหลกร้าวสาหัสเลือดคั่งในสมอง!
                
อุบัติเหตุสยองแป้นบาสเกตบอลล้มทับกบาลเด็ก ม.4 กะโหลกร้าวเลือดคั่งในสมอง อาการสาหัส

น้าชายแฉ เพื่อนที่เล่นด้วยกัน บอกฐานแป้นบาสวางอยู่บนท่อนไม้เก่า ด้าน ยายวอนขอผู้เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ   อุบัติเหตุแป้นบาสล้มทับศีรษะหลานนางเอกดังครั้งนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 24 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายโฆษิต สิริสุขะ อายุ 32 ปี เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งในเขตบ้านหนองใหญ่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ว่า หลานชายถูกแป้นบาสล้มทับศีรษะได้รับบาดเจ็บสาหัสไร้คนเหลียวแล
   
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่ รพ.ขอน แก่น พบร่างนายภคพลหรือเฟิร์ส สิริสุขะ       อายุ 15 ปี นร.ชั้น ม.4/4 โรงเรียนขอนแก่น วิทยายน 2

นอนอยู่ที่เตียง 18 ชั้น 1 อาคาร 5 แผนกศัลยกรรมระบบประสาท ซึ่งผู้บาดเจ็บมีบาดแผลบวมช้ำที่โหนกแก้มขวา และเป็นแผลฉีกขาดที่เหนือริมฝีปาก ดั้งจมูก ทั้งยังมีรอยบวมช้ำที่ศีรษะมีอาการปวดหัวอยู่เกือบ ตลอดเวลา โดยมีนางมาลัย สิริสุขะ อายุ 53 ปี ผู้เป็นยายนั่งเฝ้าอาการอย่างใกล้ชิด
   
นายโฆษิต กล่าวว่า มีศักดิ์เป็นน้าของผู้บาดเจ็บ ทราบจากหลานและเพื่อนของ หลานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา

หลังเลิกเรียนหลานชายพร้อมเพื่อน 4-5 คน ได้ชักชวนกันออกไปเล่นบาสเกตบอลที่สนาม ภายในโรงเรียน ระหว่างที่หลานเดินไปเก็บลูกบาส ปรากฏว่าแป้นบาสที่ยึดไว้ กับท่อนไม้ที่เริ่มผุได้โค่นลงมาทับหลังและศีรษะของหลานชายอย่างแรง อาจารย์กับภารโรงของโรงเรียนที่เห็น จึงรีบนำส่ง รพ.ขอนแก่น
   
นายโฆษิต กล่าวต่อว่า หลังแพทย์ตรวจและปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว แจ้งให้กลับมานอนสังเกตอาการที่บ้าน

จึงพากันนำหลานกลับมานอนพักผ่อนที่บ้านเลขที่ 341 หมู่ 13 บ้านแอวมอง ต.พระลับ อ.เมือง แต่หลานกลับมีอาการปวดศีรษะอย่างมาก ช่วงนั้นพอดีมีอาจารย์ของหลานมาเยี่ยม จึงปรึกษากันก่อนนำส่ง รพ.ราชพฤกษ์ ผลการตรวจเอกซเรย์สมอง พบว่ามีเลือดคั่งที่ฐานแกนสมองขนาดประมาณ 2 เซนติเมตรครึ่ง ต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่เพราะฐานะยากจน จึงจำเป็นต้องย้ายมารอการรักษาที่ รพ.ขอนแก่น
   
ด้านนางมาลัย กล่าวว่า ขณะนี้หลานชายยังไม่สามารถผ่าตัดได้ แพทย์อยู่ระหว่างให้ยาละลายลิ่มเลือด อีกทั้งทางครอบครัวเป็นห่วงว่าหากหลังผ่าตัดอาจส่งผลให้หลานเป็นอัมพาตได้ ตอนนี้จึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือทางครอบครัว 
   

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์