เร่งล่ามือเผาม.6 เหยื่อผวา กลัวหน้าเสียโฉม

คดีสยองขวัญ น.ส.กนกวรรณ คงเมือง หรือน้องน้ำ อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 หมู่ 14 ต.เนินสว่าง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร

เป็นนักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนสระหลวงพิทยาคม ขี่จักรยานยนต์มาตามถนนสายโพธิ์ประทับช้าง-ทุ่งใหญ่ จะกลับบ้าน ระหว่างทางเจอนายสุรศักดิ์ หรือแจ็ค พูลแย้ม อายุ 24 ปี คนงานก่อสร้างที่รู้จักมาประมาณ 1 ปี เข้าประกบตามตื๊อ แต่ น.ส. กนกวรรณพยายามหลีกเลี่ยง สร้างความไม่พอใจให้นายสุรศักดิ์เลยถีบจน น.ส.กนกวรรณตกจากรถและราดน้ำมันจุดไฟเผาทั้งเป็นอย่างอำมหิตก่อนหลบหนี
ชาวบ้านนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก แพทย์ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ พบว่าถูกไฟไหม้ ระดับ 2 ประมาณ 23 เปอร์เซ็นต์ของร่างกาย ต่อมาความทราบถึงสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงห่วงใย มีพระเมตตาพระราชทานความช่วยเหลือ พระราชทานเงิน 2 แสนบาทและรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ครอบครัวและประชาชนที่ทราบข่าวต่างสำนึกและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อราษฎร

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 31 ต.ค. พ.ต.อ.จรวย ผลประเสริฐ รอง ผบก.ภ.จ.พิจิตร เปิดเผยว่า สามารถติดต่อกับพ่อแม่ของนายสุรศักดิ์


ซึ่งทำงานอยู่ในกรุงเทพมหานครได้แล้ว หากลูกชายติดต่อมาหรือหลบหนีมาอยู่ด้วย ให้ เกลี้ยกล่อมให้เข้ามอบตัว ขณะเดียวกัน จะประสานงานกับญาติและคนในพื้นที่ที่รู้จักกับนายสุรศักดิ์กดดันให้ ออกมามอบตัว ส่วน พ.ต.อ.จิรวัฒน์ ทิพยจันทร์ รอง ผบก. ภ.หน.ศสส.ภาค 6 กล่าวว่า ส่งสายสืบไปทุกแห่งที่คาดว่านายสุรศักดิ์หลบซ่อนตัวอยู่เพื่อจับกุมให้ได้ เชื่อว่าได้ตัวแน่

ด้าน น.ส.กนกวรรณถูกส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล จุฬาลงกรณ์ โดยนายแพทย์อดิศร ภัทราดูล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์


เปิดเผยว่า ได้รับตัวคนไข้จากโรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก เข้ารักษาต่อที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 30 ต.ค.
ผู้ป่วยมีบาดแผลไฟไหม้ประมาณ 26% ของร่างกาย บริเวณใบหน้า ตั้งแต่ใต้คอลงไปถึงหน้าอกและที่มือ โดยบริเวณใบหน้ามีระดับของไฟไหม้ไม่ลึกมาก หรืออยู่ที่ระดับ 2 เนื่องจากได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเป็นอย่างดี ส่วนที่ลึกอาการรุนแรงมี 2 แห่ง คือที่หน้าอก ใต้คอลงไป หลังมือและท้องแขนด้านขวา แผลลึกอยู่ในระดับ 2-3 การรักษาคงต้องทำการรักษาบาดแผลและผ่าตัดตกแต่งบาดแผลในระยะต่อไป

นายแพทย์อดิศรกล่าวต่อไปว่า ช่วงแรกที่อยู่ โรงพยาบาลจนแผลเป็นปกติประมาณ 2 เดือน เพื่อทำให้ แผลแห้ง


จากนั้นคงต้องดูเป็นระยะ รวมทั้งคงต้องทำกายภาพบำบัดด้วยเพื่อให้ข้อต่างๆ ทำงานเป็นปกติ ส่วนเรื่องจิตใจของคนไข้ เท่าที่ได้พูดคุยไม่มีอะไรน่าห่วง คนไข้ กังวลบ้างเรื่องสภาพหน้าตาและร่างกายที่บาดเจ็บว่าจะกลับไปเหมือนปกติหรือไม่  ส่วนอาการหวาดวิตกหรือขวัญผวาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่น่ามีอะไรน่ากังวล อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลจัดทีมจิตแพทย์ร่วมดูแลอย่างใกล้ชิด

ขณะที่นายแพทย์อภิชัย อังสพัทธ์ ศัลยแพทย์ ตกแต่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านบาดแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก กล่าวว่า คนไข้รายนี้ถือว่าอายุยังน้อย เพียงแค่ 17 ปี การรักษาน่าจะได้ผลดี


เพราะผิวหนังสามารถฟื้นฟูได้เร็วกว่าคนอายุมาก โดยทั่วไปขณะนี้อาการบวมของบาดแผลยุบลงแล้ว หายใจดีขึ้นมาก ส่วนผิวหนังที่ใบหน้า ในเร็วๆ นี้คงจะผลัดตัวเองหรือซ่อมแซมตัวเองได้ ไม่น่าเป็นห่วง คาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนแผลจึงจะหาย
นายแพทย์อภิชัยกล่าวว่า ในช่วง 1 ปีแรก ผิวหนังอาจจะยังไม่สม่ำเสมอ ในระหว่างนี้อาจต้องทำศัลยกรรมตกแต่ง ผ่าตัดปลูกถ่ายเซลล์ด้วย คาดว่าน่าจะเข้าสู่ภาวะปกติได้ในช่วง 2-3 ปี ในส่วนของแผลที่หน้าอกและหลังฝ่ามือทั้งสอง อาจต้องผ่าตัดภายใน 2-3 เดือนหลังจากนี้ เนื่องจากแผลมักจะมีการดึงรั้งของผิว แพทย์ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษป้องกันการดึงรั้ง และต้องทำศัลยกรรมเพิ่ม สำหรับสภาพจิตใจของคนไข้ ค่อนข้างดี ไม่มีอาการหวาดกลัว โรงพยาบาลจัดทีมแพทย์ดูแลอย่างเต็มที่

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์