จับโจ๋อำมหิตฆ่าข่มขืนด.ญ.หมกท่อ

รวบแล้วฆาตกรโหดฆ่า ด.ญ.13 ปี หมกท่อระบายน้ำข้างศูนย์ราชการเมืองกรุงเก่า ที่แท้เป็นเพื่อนแฟนผู้ตายวัยแค่ 17 ปี

สารภาพแอบหลงรัก-ตามจีบมานาน แต่ฝ่ายหญิงไม่เล่นด้วย ก่อนเกิดเหตุเล่นบทเดินตามตื้อ เจอต่อว่า-ขับไล่ไม่ต้องมาจีบ เลยโมโหฉุดลงข้ามทาง ขยี้สวาทจนหนำใจ เหยื่อสาวแค้นจัดขู่จะแจ้งตำรวจ โจ๋โหดเลยคว้าก้อนหินทุบหัวจนตายคามือ ก่อนหมกศพไว้ในท่อระบายน้ำอำพรางคดี หนีลอยนวลอยู่ได้ 5 วันก็สิ้นอิสรภาพจากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา พบศพ ด.ญ.วราภรณ์ หรือน้องก้อย พิมพ์ดี อายุ 13 ปี ถูกฆ่ายัดศพไว้ใน   ท่อระบายน้ำ บริเวณปากทางเข้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หมู่ 3 ต.คลองสวนพลู ห่างจากศูนย์ราชการพระนครศรีอยุธยาประมาณ 500 เมตร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น 


ความคืบหน้า เมื่อเวลา 01.00 น.  วันที่ 26 ก.ค. ร.ต.ท.ธีรพงศ์ อุทยาน รอง สว.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลัง

ได้นำหมายศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เลขที่ 54/2551 ลงวันที่ 26 ก.ค. 51 เข้าจับกุมตัว นายหนึ่ง (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี นักศึกษาโรงเรียนอาชีวะแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะเดินอยู่ริมถนนใกล้โรงแรม เคเค อินทร์ ต.คุ้งลาน อ.บางปะอิน จ.พระนคร ศรีอยุธยา ผู้ต้องหาคดีฆ่า ด.ญ.วราภรณ์ หรือน้องก้อย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่ง พ.ต.ท. เอกราช อุ่นเจริญ พนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าของคดี จากการสอบสวนในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตาม ภายหลังเจ้าหน้าที่นำตัวมาพิมพ์ลายนิ้วมือทำประวัติ และสอบปากคำเครียดนานหลายชั่วโมง ในที่สุดนายหนึ่งก็เปิดปากรับสารภาพ ยอมรับว่าเป็นผู้ลงมือฆ่า ด.ญ.วราภรณ์จริง 

โดยนายหนึ่ง ให้การว่า ก่อนหน้านี้ ตนแอบชอบ ด.ญ.วราภรณ์ มาตลอด แต่ฝ่ายหญิงไม่เล่นด้วย

เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนของแฟน กระทั่งวันเกิดเหตุตนได้เดินตามผู้ตายมาจนถึงที่เกิดเหตุ แล้วถูกผู้ตายต่อว่าและขับไล่ไม่ให้ตามจีบ ทำให้ตนโมโหตรงเข้ากระชากผู้ตายลงไปริม ถนน ตรงปากท่อระบายน้ำที่เป็นที่มืด จากนั้นลงมือบังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ไป 1 ครั้ง เมื่อเสร็จกามกิจเหยื่อสาวข่มขู่ว่าจะไปแจ้งตำรวจพร้อมกับถ่มน้ำลายรดหน้า จึงเกิดบันดาลโทสะ ประกอบกับเกรงกลัวความผิด  จึงหยิบก้อนหินขนาดใหญ่ที่วางอยู่ใกล้ ๆ ทุบ ที่ศีรษะเหยื่อจนเสียชีวิตคาที่ ก่อนจะดันศพเข้าไปซ่อนในท่อระบายน้ำ แล้วรีบหลบหนีไปพักอยู่ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ในเขต อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยาก่อนถูกตำรวจตามจับได้ในที่สุด ภายหลังการสอบปากคำพนักงานสอบสวนนำตัวนายหนึ่งไปตรวจร่างกายและตรวจดีเอ็นเอ ที่สถาบันนิติ วิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์ จ.ปทุมธานี จาก นั้นนำตัวมาส่งสถานพินิจฯ เนื่องจากเป็นเยาวชน เพื่อรอการสอบสวนเพิ่มเติมต่อไป.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์