ผบก.ปปป.มั่นใจพยานหลักฐาน มัด ศรีสุวรรณ-เจ๋ง-พิมณัฏฐา


ผบก.ปปป.มั่นใจพยานหลักฐาน มัด ศรีสุวรรณ-เจ๋ง-พิมณัฏฐา

เมื่อวันที่ 28 ม.ค.67 นายดนุเดช ศิริวงษ์ตระกุล ที่ปรึกษากฎหมายของอธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า ทางอธิบดีกรมการข้าวไม่ได้ติดต่อตนเองเรื่องการจะเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ปากคำ แต่ยอมรับว่าจะต้องมีการนำพยานหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องในคดีมามอบให้พนักงานสอบสวนในเร็วๆนี้ แต่จะต้องรอการนัดหมายก่อน ทั้งนี้ เป็นไปได้ว่าอธิบดีกรมการข้าวอาจเดินทางเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนหรือตำรวจอย่างไม่เป็นทางการ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กระแสข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.00 น.ที่ผ่านมา เนื่องจากผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ของอธิบดีกรมการข้าว โดยเจ้าตัวเปิดเผยสั้นๆ ว่า ขณะนี้ตนเองอยู่ระหว่างการให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคน

และเมื่อสอบถามว่า ขณะนี้ให้ปากคำอยู่ที่ใด ใช่ที่กองบังคับการปราบปรามหรือไม่ เจ้าตัวตอบกลับ "ครับ" และเมื่อจะถามต่อว่าเข้าให้ปากคำที่ชั้นใด ก่อนถูกกดวางสายไป



ซึ่งในเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวยังได้ตรวจสอบไปยังเเหล่งข่าวภายใน บก.ปปป. โดยได้รับรายงานว่า อธิบดีกรมการข้าวเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง แต่การสอบปากคำได้เกิดขึ้นที่ใดนั้นยังไม่สามารถระบุได้

กรณีตำรวจ บก.ปปป. ร่วมเจ้าหน้าที่ ปปท. และ ปปช. ซ้อนแผนจับ นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน และนักร้องเรียนชื่อดัง พร้อมด้วยนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ประธานกลุ่มรวมใจรักชาติ และน.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ หลังร่วมกันข่มขู่เรียกเงินนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว จำนวน 1.5 ล้านบาท เพื่อแลกกับการยุติเรื่องร้องเรียนตรวจสอบการบริหารงาน ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ พร้อมชี้แจงว่าถูกกลั่นแกล้ง ตามเสนอข่าวไปนั้น



เมื่อวันที่ 28 ม.ค.67 พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป.เปิดเผยว่า ภายหลังการจับกุมและสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 คนไปแล้วนั้น ทุกคนล้วนให้การปฏิเสธและไม่ยอมให้การที่เป็นประโยชน์กับคดี แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้หนักใจอะไร เพราะหลักฐานที่มีอยู่ในขณะนี้ก็ถือว่าค่อนข้างแน่นหนาอยู่แล้ว ส่วนขั้นตอนต่อไปจะนำเอกสารหลักฐานทุกอย่างที่ได้มานำส่งไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อนำมาใช้ประกอบสำนวน

โดยวันพรุ่งนี้ (29 ม.ค.) จะประชุมของคณะพนักงานสอบสวน รวมทั้งทีมกฎหมาย เพื่อดูว่าในสำนวนยังขาดอะไรอีกบ้าง และต้องแสวงหาอะไรเพิ่มเติมเพื่อนำมาประกอบสำนวนอีกหรือไม่

ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่าถึงแม้การสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 จะปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา รวมทั้งอ้างว่าเป็นการกลั้นแกล้งนั้น แต่จากพยานหลักฐานที่มีอยู่ค่อนข้างชัดเจน โดยเฉพาะคลิปวิดีโอขณะส่งมอบเงินงวดแรก จำนวน 1 แสนบาท รวมถึงคลิปเสียงที่ถูกบันทึกไว้ขณะเจรจาต่อรองให้ผู้เสียหายยอมจ่าย เพื่อแลกกับการยุติเรื่องร้องเรียนที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก



โดยเฉพาะคลิปเสียงหลักฐานช่วงหนึ่งเป็นคลิปเสียงบทสนทนาระหว่างนายยศวริศ หรือเจ๋ง ดอกจิก กำลังเจรจาต่อรองกับนางธัญญรัตน์ ไชย์ศิริคุณากร อายุ 49 ปี ภรรยาของผู้เสียหาย ลักษณะให้ผู้เสียหายยอมจ่ายเงิน เพื่อยุติเรื่องร้องเรียน โดยอ้างเหตุผลว่า "ไม่ว่าจะผิดหรือถูก แต่หากการร้องเรียนถูกนำเสนอเป็นข่าวไปแล้ว ย่อมมีแต่ความมัวหมองเสื่อมเสียชื่อเสียงกว่าจะพิสูจน์ความจริงได้ใช้เวลานาน"

นอกจากนี้ ยังพบคลิปเสียงเป็นเสียงของนายยศวริศพูดกล่าวอ้างถึงบุคคลที่สาม ซึ่งเป็นนักการเมืองระดับสูง ลักษณะว่าเงินเหล่านี้จะนำไปดูแลผู้ใหญ่ นอกเหนือจากคลิปหลักฐานไฟล์เสียงต่างๆแล้ว เจ้าหน้าที่ยังมีหลักฐานสำคัญอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะข้อความแชทสนทนาผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ระหว่างน.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ กับนางธัญญรัตน์ ภรรยาของผู้เสียหาย ที่ระบุเนื้อหาชัดเจนเกี่ยวกับการเจรจาต่อรองเงิน

รวมทั้งข้อความหว่านล้อมข่มขู่ให้ยอมจ่ายเงิน ทั้งนี้หลักฐานทั้งหมดทำให้ระบุการทำหน้าที่ของผู้ต้องหาได้เป็นอย่างดี มีทั้งคนทำเอกสารร้องเรียน คนเจรจาต่อรองเรียกเงิน คนติดตามทวงถามเงิน และคนรับเงิน ทำให้ตำรวจมั่นใจในหลักฐานว่า สามารถเอาผิดผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดได้



เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์