เขมรจับ น้องสาวบิ๊กบัง กักตัว11วัน

เจ้าหน้าที่เขมรยึดรถยนต์น้องสาวประธาน คมช.

หลังขับรถเข้าประเทศกัมพูชาโดยไม่ได้รับอนุญาตเรื่องนี้เปิดเผยเมื่อช่วงเย็นวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
 
มีกระแสข่าวทั่วตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ว่า น้องสาวของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ถูกเจ้าหน้าที่กัมพูชาควบคุมตัวพร้อมรถปิกอัพ อยู่ที่ อ.ศรีโสภณ จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชายังไม่ทราบชะตากรรม ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามจากเจ้าหน้าที่ไทย ทั้งฝ่ายทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ศุลกากร ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยยอมรับว่ามีการควบคุมตัวจริง แต่ปฏิเสธการให้ข้อมูล เพราะเกรงว่าจะถูกผู้ใหญ่ตำหนิ พร้อมสั่งห้ามการนำเสนอข่าว

ต่อมาเวลา 08.00 น. วันที่ 16 ส.ค.

ผู้สื่อข่าวได้พบกับ ร.ต.ต.สุ เพี๊ยะ เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งเดินทางเข้ามาติดต่อราชการ บริเวณหน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ โดย ร.ต.ต.สุ เพี๊ยะ เปิดเผยว่า ข่าวดังกล่าวเป็นความจริง โดยเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางฝ่ายกัมพูชาได้จับกุม นางขนิษฐา บุญยรัตกลิน อายุ 49 ปี พร้อมรถปิกอัพโตโยต้า วีโก้ แค็บ สีน้ำเงิน ทะเบียน ตศ 3121 กรุงเทพมหานคร ขณะขับอยู่ ในฝั่งกัมพูชา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองปอยเปต ไม่ได้เป็นผู้จับกุม แต่ผู้ที่จับกุมนางขนิษฐาคือเจ้าหน้าที่ศุลกากร ประจำจังหวัดบันเตียเมียนเจย สำหรับรถยนต์คันดังกล่าว ข้ามมาจากฝั่งอรัญประเทศ เมื่อวันที่ 29 ก.ค. มุ่งหน้าจะเข้าไปยังกรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา


ขณะวิ่งข้ามชายแดนพรมแดนอรัญประเทศ รถคันดังกล่าวติดทะเบียน ตศ 3121 กรุงเทพมหานคร แต่พอพ้นด่านตรวจคนเข้าเมืองปอยเปตไปได้ประมาณ 200 เมตร คนขับได้จอดรถข้างทางลงมาสับเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียน โดยถอดป้ายทะเบียนเดิมออก แล้วเปลี่ยนเป็นป้ายทะเบียนของกัมพูชา จากนั้นก็ขับเลยด่านปอยเปตเข้าไปอีกประมาณ 6 กม. จึงถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากรกัมพูชา ซึ่งเฝ้าสังเกตพฤติกรรมอยู่ตั้งแต่ตอนที่คนขับลงมาเปลี่ยนทะเบียนรถ เข้าจับกุม นำตัวคนขับพร้อมรถยนต์ไปควบคุมไว้ที่สำนักงานศุลกากรศรีโสภณ จ.บันเตียเมียนเจย ห่างด่านตรวจคนเข้าเมืองปอยเปตประมาณ 50 กม. ตั้งข้อหาว่าลักลอบนำรถยนต์พวงมาลัยขวา เข้าประเทศกัมพูชาโดยไม่ได้รับอนุญาต


ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา

นางขนิษฐา บุญยรัตกลิน ถูกปล่อยตัวและข้ามกลับเข้ามายังฝั่งไทยแล้ว แต่รถยนต์ยังถูกยึดอยู่ที่สำนักงานศุลกากรศรีโสภณ จ.บันเตียเมียนเจย โดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรกัมพูชา ให้นางขนิษฐา นำเงินสดจำนวน 1,500 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 50,000 บาท ไปจ่ายเป็นค่าปรับ จึงจะยอมคืนรถให้ แต่จากการตรวจสอบล่าสุด ผู้สื่อข่าวพบว่า ยังไม่มีการนำค่าปรับไปไถ่รถคืน เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องค่าปรับที่มีจำนวนสูงมาก

สำหรับผู้ที่สั่งให้จับกุมรถยนต์ของน้องประธานคมช.ในครั้งนี้คือ นายราย เริดที

รองอธิบดีกรมศุลกากรกัมพูชา โดยครั้งแรกเจ้าหน้าที่กัมพูชายังไม่ทราบว่านางขนิษฐาเป็นน้อง พล.อ.สนธิ กระทั่งมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารของไทย และเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคงชายแดน เข้าไปติดต่อ เพื่อขอให้ปล่อยตัวและขอรถคืน ทางเจ้าหน้าที่กัมพูชาจึงทราบว่าเป็นใคร และยอมปล่อยตัว กลับออกมา แต่ไม่ยอมคืนรถให้ อ้างว่าต้องรอคำสั่งจากรัฐบาลพนมเปญเท่านั้น

จากการตรวจสอบ พบว่านางขนิษฐา บุญยรัตกลิน มีอาชีพเป็นสถาปนิก
 
มีบริษัทรับเหมาตกแต่งภายในของตัวเอง สำหรับสาเหตุที่เดินทางเข้าไปในกัมพูชา เนื่องจากไปรับเหมาตกแต่งร้านให้กับบริษัทเดอะ พิซซ่า ซึ่งไปเปิดสาขาที่กรุงพนมเปญ โดยนางขนิษฐาเป็นผู้ขับรถยนต์คันดังกล่าวด้วยตนเอง นำหน้ารถปิกอัพอีกคันพาลูกน้องเข้าไปทำงาน ทำเรื่องขออนุญาตผ่านด่านศุลกากรอรัญประเทศ และทำใบขนย้ายสินค้า รวมทั้งผ่านพิธีการออกนอกประเทศอย่างถูกต้อง เพียงแต่ไม่ได้ขออนุญาตนำรถยนต์จากฝั่งไทยเข้าไปใช้ในฝั่งกัมพูชาเท่านั้น
 
ส่วนสาเหตุของการเข้มงวดกวดขันจับกุมรถยนต์จากฝั่งไทย

เนื่องจากขณะนี้ทางรัฐบาลกัมพูชาเอาจริงเอาจังห้ามรถพวงมาลัยขวาวิ่งอย่างเด็ดขาด หากพบเห็นให้ เจ้าหน้าที่จับกุมทันที เพราะมีการประสานจากฝั่งไทย ในเรื่องการโจรกรรมรถยนต์ไปขายในฝั่งกัมพูชา ซึ่งที่ผ่านมาเป็นปัญหาระดับชาติ กระทั่งมีข้อตกลงระหว่าง 2 ประเทศ ให้มีการปราบปรามกันอย่างจริงจัง รัฐบาลกัมพูชาจึงห้ามรถยนต์พวงมาลัยขวาวิ่งบนถนน อนุญาตให้เฉพาะรถยนต์พวงมาลัยซ้ายที่ใช้กันอยู่ในกัมพูชาวิ่งเท่านั้น

ขณะที่ชาวบ้านในตลาดโรงเกลือต่างวิพากษ์ วิจารณ์ว่า
 
การจับกุมและยึดรถยนต์ของน้องสาวประธานคมช.ในครั้งนี้ เนื่องจากสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา มีความสนิทสนมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกรัฐมนตรีไทย ดังนั้น เมื่อน้องสาวของประธาน คมช. โดนจับ ทางกัมพูชาจึงไม่ยอมอ่อนข้อให้ เพื่อต้องการให้ฝ่ายไทยเสียหน้า และแสดงให้รู้ว่ากัมพูชาไม่ยอมรับรัฐบาลและ คมช. โดยพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือยังวิพากษ์วิจารณ์ด้วยว่า นับตั้งแต่เกิดรัฐประหารเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ ทางฝั่งกัมพูชาเข้มงวดการผ่านแดนมากขึ้น และเมื่อมีปัญหากระทบกระทั่งกันระหว่างเจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ประเทศ มักไม่ค่อยยอมอะลุ้มอล่วยให้กันเหมือนเมื่อก่อน ทำให้เกรงกันว่าหากมีปัญหารุนแรงหนักกว่านี้ อาจมีการสั่งปิดชายแดน ซึ่งจะกระทบกับการค้าขายของทั้ง 2 ชาติอย่างมาก

เย็นวันเดียวกัน
 
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช. ให้สัมภาษณ์ขณะปฏิบัติภารกิจที่ประเทศสิงคโปร์ โดยกล่าวยอมรับว่ามีน้องสาวชื่อ นางขนิษฐา บุญยรัตกลิน จริง แต่ยังไม่ได้ตรวจสอบว่า เป็นคนเดียวกับที่ถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากรกัมพูชาจับกุมที่ จ.บันเตียเมียนเจย หรือไม่ และจะเร่งตรวจสอบเรื่องนี้ ซึ่งหากเป็นคนเดียวกันก็ขอให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรกัมพูชาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ โดยไม่ต้องละเว้น และจะไม่ขอเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคดีเด็ดขาด


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์