ตร.บุกถึงเตียงคนไข้แจ้งข้อหากัณฑ์พิทักษ์

7 กรกฎาคม 2550 19:17 น.
ตำรวจบุกถึงเตียงคนไข้ แจ้ง 3 ข้อหาหนักเอาผิด "กัณฑ์พิทักษ์" ฆ่าคนตายโดยเจตนา-พยายามฆ่า-ทำร้ายร่างกายผู้อื่น ตั้งหลักทรัพย์วงเงิน 4 แสนให้ประกันตัวสู้คดีชั้นศาล

ความคืบหน้าคดี นายกัณฑ์พิทักษ์ ปัจฉิมสวัสดิ์ หรือ "หมูแฮม" หนุ่มไฮโซวัย 20 ปี ขับรถเบนซ์พุ่งชนผู้โดยสารรถประจำทางซึ่งยืนอยู่บนฟุตบาทเสียชีวิต ล่าสุดพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ได้ขออำนาจศาลออกหมายจับนายกัณฑ์พิทักษ์ 3 ข้อหาหนักแล้ว

เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ต.อ.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผกก.สน.ทองหล่อ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้ขออำนาจศาลออกหมายจับนายกัณฑ์พิทักษ์ 3 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยามฆ่าผู้อื่น และทำร้ายร่างกายผู้อื่น ซึ่งศาลจังหวัดพระโขนงได้อนุมัติหมายจับแล้ว หลังจากนี้ พ.ต.ท.ญาณวุฒิ เลี่ยมแก้ว พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เจ้าของคดี จะนำหมายจับ เดินทางไปที่โรงพยาบาลสมิติเวช เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาให้นายกัณฑ์พิทักษ์รับทราบ ส่วนจะควบคุมตัวมาสอบสวนเลยหรือไม่นั้น ต้องสอบถามแพทย์ว่าจะอนุญาตหรือไม่

พ.ต.อ.จิรพัฒน์ กล่าวต่อว่า สาเหตุที่พนักงานสอบสวนต้องขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหารายนี้ โดยไม่ออกหมายเรียก เนื่องจากพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ครบถ้วนแล้ว จึงสามารถออกหมายจับกุมผู้ต้องหาได้เลย เพราะคดีไม่ซับซ้อน พยานหลักฐานต่างๆ มีความชัดเจน ยืนยันได้ว่าผู้ต้องหากระทำผิดจริง โดยขณะนี้ได้อายัดตัวไว้ดำเนินคดีแล้ว

ขณะที่ พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.5 กล่าวว่า พนักงานสอบสวนจะรีบดำเนินการสอบปากคำนายกัณฑ์พิทักษ์ทันที เนื่องจากเห็นว่า ผู้ต้องหารายนี้ไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก สามารถให้ปากคำได้ ล่าสุดได้ประสานกับ นายกัณฑ์เอนก ปัจฉิมสวัสดิ์ บิดาของนายกัณฑ์พิทักษ์ เพื่อแจ้งให้ทราบว่า พนักงานสอบสวนจะเดินทางไปแจ้งข้อกล่าวหาให้นายกัณฑ์พิทักษ์ทราบ ซึ่งนายกัณฑ์เอนกไม่ขัดข้องแต่อย่างใด

พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวต่อว่า คดีดังกล่าวพนักงานสอบสวนได้ตั้งหลักทรัพย์ในการยื่นประกันตัวไว้ 4 แสนบาท ซึ่งคงพิจารณาให้ประกันตัวไป เนื่องจากเชื่อว่านายกัณฑ์พิทักษ์คงไม่หลบหนี โดยระหว่างการยื่นเรื่องประกันตัวจะให้ตำรวจ สน.ทองหล่อ ไปดูแลไว้ชั่วคราว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่พ่อและแม่ของนายกัณฑ์พิทักษ์ระบุว่า บุตรชายป่วยจิตเวช ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ แต่ยังไม่ดูแลบุตรชายให้ดี กระทั่งก่อเหตุรุนแรง เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตจะมีความผิดด้วยหรือไม่ พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวว่า พ่อและแม่ของนายกัณฑ์พิทักษ์ได้แสดงความรับผิดชอบที่จะชดใช้ค่าเสียหายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกัน นางพิศพิไล วรกิจโภคาทร และนายโล ร๊องท์ มาลีปีแอ เตมาซิแอ เจ้าของโรงแรมน้ำสอง ในประเทศลาว นายจ้างของ นางแสงมณี อิมโซลารี่ หนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บที่ถูกนายกัณฑ์พิทักษ์ขับรถชน ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลคามิเลี่ยน ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ให้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยระบุให้นายกัณฑ์พิทักษ์รับผิดชอบค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาล รวมทั้งค่าชดเชยที่นางแสงมณีต้องขาดงาน

โดยนางพิศพิไล เปิดเผยอาการล่าสุดของนางแสงมณีว่า ยังต้องนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลต่อไป เนื่องจากแพทย์ยังไม่สามารถผ่าตัดให้ได้ เพราะปอดกระทบกระเทือนรุนแรง แพทย์วางยาสลบไม้ได้ โดยเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม นางสาวิณี ปัจฉิมสวัสดิ์ มารดาของนายกัณฑ์พิทักษ์ ได้เดินทางไปเยี่ยมและกล่าวขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนางพิศพิไลแล้ว น.ส.หทัยทิพย์ ครุฑธจร นักศึกษามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ชั้นปีที่ 2 ผู้บาดเจ็บอีกราย ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีนายกัณฑ์พิทักษ์ด้วย

หลังเข้าเยี่ยมอาการ น.ส.แสงมณี นานประมาณ 15 นาที นางสาวิณี ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า นายกัณฑ์พิทักษ์ ต้องการเขียนจดหมายขอโทษส่งให้ผู้บาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงทำให้ตามความประสงค์ ส่วนในเรื่องของคดีก็จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ

"ตอนนี้สภาพจิตใจของหมูแฮมไม่ค่อยดี เป็นห่วงผู้บาดเจ็บ เขาอยากเดินทางไปขอโทษทุกคน ซึ่งฉันขอรับรองว่าจะรับผิดชอบเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลของผู้บาดเจ็บทั้งหมด ส่วนเรื่องที่หมูแฮมถูกทำร้ายเขาไม่ได้ติดใจเอาความ อยากให้ทุกคนรอฟังจากปากของเขาเองหลังจากที่เขาหายดี และอยากให้สื่อมวลชนให้ความเป็นธรรมกับบุตรชายด้วย" นางสาวิณี กล่าว

ขณะที่ นายอำนวย สุวรรณสันติสุข อายุ 55 ปี พี่เขยของนายมาโนช โตจวง อายุ 36 ปี ผู้บาดเจ็บอีกราย ซึ่งยังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า ทางครอบครัวจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีนายกัณฑ์พิทักษ์ เพิ่มเติมด้วย เนื่องจากขณะนี้นายมาโนช ยังมีอาการสาหัสกระดูกไหปลาร้า ซี่โครง กระดูกเชิงกราน ไหล่ และสะโพกหัก แต่ครอบครัวของนายกัณฑ์พิทักษ์ไม่เคยมาเยี่ยมดูอาการเลยแม้แต่ครั้งเดียว

นายอำนวย กล่าวต่อว่า เมื่อเช้าวันที่ 6 กรกฎาคม ได้ให้น้องชายโทรศัพท์ไปสอบถามนายกัณฑ์เอนก บิดาของนายกัณฑ์พิทักษ์ เกี่ยวกับเรื่องประกันรถยนต์ เพื่อสอบถามขั้นตอนการเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลจากบริษัทประกัน แต่นายกัณฑ์เอนก กลับบอกว่าไม่สนใจอะไรแล้ว

"ผมเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก ตั้งแต่เกิดมาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 55 ปีแล้ว ไม่เคยเห็นใครใจร้ายใจดำเช่นนี้ น้องผมลงจากรถโดยสารเพื่อรอรถคันใหม่ ไม่ได้โกรธเคืองอะไรกับเขามาก่อน แต่กลับถูกเขาขับรถชนจนบาดเจ็บสาหัส เป็นการพยายามฆ่ากันชัดๆ และที่เสียใจมากที่สุดคือบิดาของนายกัณฑ์พิทักษ์ที่ยังออกมาบอกว่าจะฟ้องคนที่รุมทำร้ายลูกของตัวเอง โดยไม่มองเลยว่าสิ่งที่ลูกทำลงไปนั้นมันทำให้คนอื่นเดือดร้อนแค่ไหน ซึ่งทางครอบครัวจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด" นายอำนวย กล่าว

ส่วนความเคลื่อนไหวของครอบครัวปัจฉิมสวัสดิ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อบ่ายวันที่ 7 กรกฎาคม นางสาวิณี ปะการะนัง มารดาของนายกัณฑ์พิทักษ์ ได้ไปเยี่ยมอาการของ น.ส.แสงมณี อิมโซราลี่ ที่โรงพยาบาลคามิเลี่ยน โดยนางสาวิณี ได้นำกระเช้าดอกไม้และจดหมายที่เขียนโดยลายมือของนายกัณฑ์พิทักษ์ ซึ่งมีข้อความว่า "ถึงคุณแสงมณี และครอบครัว กระผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ความเสียหายต่อชีวิตและร่างกายต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการกระทำของตัวผมเอง กระผมกราบขอโทษเป็นอย่างยิ่ง" ลงชื่อ แฮม ไปมอบให้ด้วย