หลานคลั่งคว้ามีดดาบไล่กระหน่ำฟันป้ายับหลายสิบแผลดับ

หลังก่อเหตุวิ่งเข้าไปกบดานในบ้านพัก ตำรวจต้องใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนานกว่าชั่วโมงจึงยอมมอบตัว ตรวจสอบประวัติพบเคยตกเป็นทาสยาเสพติด

คดีหลานชายคลั่งไล่ฟันป้าเสียชีวิตครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 06.10 น.

วันที่ 4 กรกฎาคม ที่บ้านเลขที่ 1230/3 ซอยจันทน์ 43 แยก 30 ถนนจันทน์ แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.ชูศักดิ์ คำทราย พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร เดินทางไปตรวจสอบ พบนางสำลี จีระพัฒน์ อายุ 65 ปี เจ้าของบ้าน ถูกฟันเข้าที่ใบหน้า ลำตัว และแขนทั้งสองข้างหลายสิบแผลนอนเสียชีวิตอยู่ที่หน้าบ้าน

ภายในบ้านพบนายมานะชัย ชำนาญศิลป์ อายุ 34 ปี หลานชายของผู้ตาย

ซึ่งเป็นผู้ลงมือกระหน่ำฟันนางสำลีเสียชีวิต มีอาการคลุ้มคลั่ง ซ่อนตัวภายในบ้านหลังเกิดเหตุ ตำรวจจึงกระจายกำลังปิดล้อมและพยายามเจรจาเกลี้ยกล่อมคนร้าย กระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง นายมานะชัยจึงสงบสติอารมณ์และยินยอมเดินออกมามอบตัว พร้อมกับนำมีดดาบยาวประมาณ 1 เมตร มอบตำรวจ

โดยระหว่างการสอบปากคำนายมานะชัยมีอาการสะลึมสะลือคล้ายมึนเมายาเสพติด ให้การวกวนไปมา แต่พอจับใจความได้ว่า เป็นผู้ใช้มีดดาบไล่ฟันนางสำลีเสียชีวิต เนื่องจากโกรธแค้นที่นางสำลีพาพวกมาลักทรัพย์ภายในบ้าน และยังอ้างว่านางสำลีมีความพยายามที่จะฆ่านายมานะชัยด้วย

แต่จากการสอบสวนพยานแวดล้อม ให้การตรงกันว่า เมื่อเวลาประมาณ 05.30 น.

นายมานะชัยเกิดเอาการคลุ้มคลั่ง คว้ามีดดาบไล่ฟันนางสำลีจนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นนางสำลีวิ่งหนีออกจากบ้าน แต่นายมานะชัยยังถือมีดดาบวิ่งไล่ฟันผู้ตาย แล้ววิ่งหนีเข้าไปหลบอยู่ภายในบ้านพัก

พ.ต.ท.ชูศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบประวัติ พบว่านายมานะชัยเคยเสพยาเสพติด

จึงเชื่อว่าขณะเกิดเหตุอาจจะเกิดอาการคลุ้มคลั่ง เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีนายมานะชัยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา และพกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร และจะสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งว่าผู้ต้องหาลงมือฆ่าผู้ตายเพราะสาเหตุอะไร เนื่องจากขณะนี้ผู้ต้องหายังให้การสับสนไม่รู้เรื่อง "ผู้ต้องหายังมีอาการสะลึมสะลือคล้ายคนมึนเมายาเสพติด แต่ยอมรับว่าเป็นคนลงมือสังหารนางสำลีจนเสียชีวิตจริง โดยอ้างว่าโกรธแค้นที่ผู้ตายพร้อมพวกขโมยทรัพย์สินภายในบ้าน ซึ่งจะรอให้ผู้ต้องหามีสติสัมปชัญญะครบถ้วนก่อนจึงจะสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง" พ.ต.ท.ชูศักดิ์ กล่าว