นร.สาวเล่นบานาน่าโบ๊ต-เสียวจนช็อกตาย!

สลดน.ร.สาวสตรีวิทยา 2 ไปเล่นเรือกล้วยหรือบานาน่าโบ๊ตที่พัทยากับเพื่อนๆร่วมชั้น

เกิดแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกกลางทะเล

เพื่อนๆรีบพาเข้าฝั่งไปร.พ. แต่ไม่ทันถึงก็ชักจนหมดสติแล้วเสียชีวิตอย่างปัจจุบันทันด่วน เพื่อนครวญเพิ่งมาทราบทีหลังผู้ตายป่วยเป็นโรคหัวใจโตอยู่ด้วย ทางด้านพ่อน.ร.สาวเคราะห์ร้ายรีบเดินทางจากกทม.มารับศพ

ไม่ติดใจใดๆกับเจ้าของเรือบานาน่าโบ๊ต

เพราะเชื่อว่าลูกตกใจกับการเล่นเรือจนเสียชีวิตเพราะโรคประจำตัวเอง ขณะที่ตร.ก็เชื่อว่าคงเพราะหวาดเสียวเกิน

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 20 เม.ย.

พ.ต.ท.ฐิติพงศ์ สุขเทียน พนักงานสอบสวน สภ.ต.พัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งมีหญิงสาวชาวไทยเกิดอาการชักถูกนำส่งร.พ.พัทยาเมโมเรียล แต่เสียชีวิตระหว่างทาง ขณะนี้ศพอยู่ที่ร.พ.

จึงเดินทางไปตรวจสอบ

ภายในห้องดับจิตพบศพน.ส.สมหญิง สิงห์ไพลาศ อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77/279 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. นักเรียนชั้นม.6 โรงเรียนสตรีวิทยา 2 ศพอยู่ในสภาพเนื้อตัวขาวซีด

จากการสอบสวนน.ส.ดิษยา ใยแจ่ม อายุ 17 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 109/95 ม.11 หมู่บ้านลาดพร้าววังหิน แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. เพื่อนร่วมชั้นของผู้ตาย ให้การว่า ตนพร้อมผู้ตายและเพื่อนร่วมชั้นเรียนอีก 4 คน เดินทางจากกรุงเทพฯมาท่องเที่ยวเทศกาลวันไหลในเมืองพัทยา

โดยเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านพัทยากลาง

ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมผู้ตายและเพื่อนๆ ชักชวนกันไปเล่นเรือลากกล้วย หรือบานาน่าโบ๊ต ที่ชายหาดพัทยา บริเวณหน้าห้างรอยัลการ์เด้น

หลังจากว่าจ้างและลงเล่นบานาน่าโบ๊ต

จนเป็นที่สนุกสนานอยู่พักใหญ่ น.ส.สมหญิงบอกด้วยอาการหอบถี่ๆว่าแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก พวกตนตกใจจึงเลิกเล่น แล้วแจ้งให้เจ้าของเรือช่วยพาตัวส่งร.พ. แต่น.ส.สมหญิงกลับเกิดอาการชักกระตุกจนหมดสติ

เสียชีวิตระหว่างทาง สร้างความเศร้าโศกเสียใจ

ให้กับเพื่อนร่วมชั้นเป็นอย่างมาก ขณะนี้ได้โทรศัพท์แจ้งให้มารดาของน.ส.สมหญิงทราบแล้ว อยู่ระหว่างเดินทางมารับศพ ตนมาทราบภายหลังน.ส.สมหญิงว่าป่วยเป็นโรคหัวใจโต

เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า

ผู้ตายซึ่งป่วยเป็นโรคหัวใจโตลงไปเล่นบานาน่าโบ๊ตแล้วเกิดหวาดเสียว ส่งผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจ จนอาการกำเริบเสียชีวิต เบื้องต้นลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และรอญาติมารับศพนำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป

เมื่อเวลา 15.00 น. นายสมศักดิ์ สิงห์ไพลาศ

อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77/279 แขวงและเขตลาดพร้าว พ่อของน.ส.สมหญิงเดินทางมารับศพลูกสาวที่ร.พ.ด้วยอาการเศร้าสลด โดยกล่าวว่าการเสียชีวิตในครั้งนี้ทางญาติไม่ได้ติดใจกับ

สถานประกอบการเรือบานาน่าโบ๊ตแต่อย่างใด

เนื่องจากลูกสาวป่วยเป็นโรคหัวใจโตตั้งแต่เกิด สาเหตุเกิดจากการกระแทกของเรือและตกใจทำให้เสียชีวิต

ทางด้านพ.ญ.ฉายศรี สุคนศิลป์ชัย ผอ.สำนักโรคไม่ติดต่อ

กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีนักเรียนหญิงซึ่งเล่นเรือบานานาโบ๊ตแล้วหัวใจล้มเหลวเสียชีวิตที่พัทยาว่า โรคหัวใจมีหลายแบบ คงไม่สามารถวินิจฉัยโดยที่ไม่เห็นตัวเด็กได้ว่าเป็นโรคหัวใจแบบใด

เพราะมีทั้งปัญหาเรื่องลิ้นหัวใจ

กล้ามเนื้อหัวใจ ซึ่งหากคนเป็นโรคหัวใจทำงานหนัก ออกกำลังกายเกินความสามารถ หรือรับประทานอาหารไม่ถูกต้อง โอกาสที่จะเกิดหัวใจล้มเหลว ก็สามารถเกิดขึ้นได้ โดยปกติแล้วคนเป็นโรคหัวใจมี

ข้อควรปฏิบัติหลายอย่าง

1.ต้องรู้ว่าตัวเองเป็นโรคหัวใจชนิดไหน รักษาอย่างไร ต้องกินยาอย่างไร ที่สำคัญการกินยาต้องกินอย่างเคร่งครัด 2.การใช้ชีวิตควรรู้ว่าสภาพร่างกายตัวเองเป็นอย่างไร สามารถทำงานหรือออกกำลังกายได้แค่ไหน

พ.ญ.ฉายศรีกล่าวต่อว่า

ส่วนใหญ่แล้วคนเป็นโรคหัวใจ หัวใจจะทำงานได้ไม่เต็มที่ หากเดินเร็วหรือออกกำลังกายมากเกินไปก็มีโอกาสเสี่ยง ทำให้หัวใจล้มเหลวได้ โดยเฉพาะกรณีของวัยรุ่นหากไม่มีผู้ใหญ่ดูแลใกล้ชิด บางครั้งจะเกิดโอกาสเสี่ยงขึ้น

เพราะอยากออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมเหมือนเพื่อน

จึงเสี่ยงที่จะเกิดหัวใจล้มเหลวขึ้น เพราะคนเป็นโรคหัวใจ หากทำกิจกรรมที่ทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดมากกว่าปกติ หัวใจจะเต้นเร็วกว่าปกติจนล้มเหลวในที่สุด ส่วนเรื่องอาหารที่ควรระวังคือ ไม่ควรกินมัน หรือเค็มมาก เพราะหากน้ำเข้าร่างกายเยอะ โอกาสจะเกิดหัวใจล้มเหลวก็มีสูง

พ.ญ.ฉายศรีกล่าวด้วยว่า

จากสถิติในประเทศไทยมีคนเป็นโรคหัวใจ 1 ใน 5 ของอัตราการตายของโรคต่างๆ ซึ่งแนวโน้มคนเป็นโรคหัวใจยิ่งมีสูงมากขึ้น เพราะคนไทยมีพฤติกรรมเสี่ยงหลายอย่าง เช่น เรื่องเบาหวาน ความดันโลหิต หากสามารถลดปัจจัยเสี่ยงได้ ก็จะสามารถควบคุมอัตราการเป็นโรคหัวใจได้

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด