รวบแก๊งคนไทยร่วมมือฝรั่งรัสเซีย ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ตระเวนกดเงินตู้เอทีเอ็มเมืองโคราช

รวบแก๊งคนไทยร่วมมือฝรั่งรัสเซีย ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ตระเวนกดเงินตู้เอทีเอ็มเมืองโคราช



รวบแก๊งคนไทยร่วมมือฝรั่งรัสเซีย ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ตระเวนกดเงินตู้เอทีเอ็มเมืองโคราช 

แฉมีนายดาบตำรวจ เอี่ยวรับเปอร์เซนต์ค่าเสี่ยงภัยร้อยละสิบของมูลค่าเงินที่กดได้

รายงานความคืบหน้าการคลี่คลายคดีแก๊งคนไทย และชาวต่างชาติ สัญชาติรัสเซีย ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ตระเวนกดเงินตามตู้บริการเงินด่วน (ตู้เอทีเอ็ม) ในเขตเมือง นครราชสีมา ตามที่เสนอข่าวมาเป็นลำดับ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 พฤศจิกายน ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 นครราชสีมา พล.ต.ท.ธีระศักดิ์  กลิ่นพงษา ผบช.ภาค 3  พร้อม พล.ต.ต.ชาติชาย เอี่ยมแสง ผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 4  และ พล.ต.ต.พงษ์เดช  พรหมมิจิตร ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา ได้นำตัว ดาบตำรวจนนทพันธ์ แสงสุข อายุ 37 ปี สังกัดกลุ่มงานสืบสวน 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว นายวาซิลี หรืออเล็กซี่  อิวานอฟ อายุ 27 ปี

 และ นายเชอกี้  ปิเตอร์เนฟ อายุ 38 ปี สัญชาติรัสเซีย มาแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชนพร้อมของกลางเงินสดจำนวน 2,895,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร 3 เล่ม บัตรอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 328 ใบ หลากหลายสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นบัตร GLOBAL SHOPPING TOUR มากที่สุด จำนวน 197 ใบ เอกสารเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินจำนวนมาก โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง และรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวิช สีบรอนซ์ เลขทะเบียน สร 5501 กรุงเทพ ยานพาหนะที่ใช้ประกอบเหตุ

พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ ผบช.ภาค 3 เปิดเผยพฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา มีพลเมืองดีแจ้งเบาะแส พบผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มีคนไทย และชาวต่างประเทศ แสดงท่าทางพิรุจ ต้องสงสัย กำลังใช้บริการที่ตู้เอทีเอ็ม หน้าธนาคารกรุงไทย สาขาศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุสื่อสารเครือข่ายไชยณรงค์ จึงแจ้งประสานให้ตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงตั้งด่านสกัดจับรถยนต์ตามรูปพรรณ สัณฐาน สามารถจับรถคันดังกล่าวได้ที่บริเวณ ถ.ราชสีมา-กบินทร์บุรี หน้า สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยมี ด.ต.นนทพันธ์ ขับขี่เพียงลำพัง พบของกลางภายในรถจำนวนมาก

จากการขยายผล ด.ต.นนทพันธ์ อ้างว่า ร่วมกันกับชาวรัสเซียทั้งสอง ซึ่งเดินทางเข้าราชอาณาจักรไทย ในฐานะนักท่องเที่ยว โดยนายวาซิลี หรืออเล็กซี่  เข้ามาเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2555 และนายเชอกี้ เข้ามาเมื่อ 2 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา วิธีการแก๊งคนร้ายจะหาซื้อบัตรแถบแม่เหล็กบันทึก และอ่านข้อมูล จากร้านจำหน่ายอุปกรณ์ไอที ในราคาแผ่นละ 5 -7 บาท แล้วนำมาปลอมแปลงโดยใช้โปรแกรมใส่รหัส ซึ่งจะได้ข้อมูลจากนายทุนผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ส่งเข้าระบบออนไลน์ต้นทางจากต่างประเทศ 

จากนั้นนำมาอำพรางอีกครั้งโดยติดโลโก้รูปแบบบัตรเครดิตยี่ห้อต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นสถาบันการเงินชื่อดังต่างประเทศ แล้วจึงตระเวนกดเงินตามตู้เอทีเอ็ม ในเขตภูมิภาค โดยเฉพาะจุดที่มีการรักษาความปลอดภัยต่ำ และที่เปลี่ยว โดยกดเงินจุดละ 3 หมื่นบาท ซึ่ง ด.ต.นนทพันธ์ และชาวรัสเซียทั้งสอง จะได้ค่าตอบแทนเป็นเงินเฉลี่ยร้อยละ 10 จากมูลค่าเงินที่ร่วมกันกดมาได้ ส่วนต่างที่เหลือนำส่งให้นายทุน จึงแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันลักทรัพย์ผู้อื่นในเวลากลางคืนใช้หรือมีไว้ เพื่อใช้สิ่งใดๆ (บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม) อันได้มาโดยรู้ว่าเป็นของที่ทำปลอมหรือแปลงขึ้น

ผบช.ภาค 3 กล่าวต่ออีกว่า การส่งข้อมูลรหัสบัตรเครดิตที่สามารถกดเงินออกมาใช้ได้ รวมทั้งพยานหลักฐานตามเส้นทางการเงิน สามารถเชื่อมโยงไปสู่ขบวนการใหญ่ ซึ่งเป็นนายทุน ทำหน้าที่สั่งการ ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผล ซึ่งอาจส่งผลต่อการสืบสวน ไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยเป็นคนไทย มีฐานะค่อนข้างร่ำรวยเกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านข้อมูลบัตร ตนได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมทลายขบวนการนี้ให้สิ้นซาก 

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์