เผย หลักฐานลับ ที่ไม่ลับอีกต่อไป ชี้ประเด็น พระวิหาร ไทยยังมีสิทธิ์ รื้อคดี

“...เอกสารสำคัญซึ่งแปลเมื่อเร็วๆ นี้เป็นของฝรั่งเศส สมัยนั้นไม่เอาเอกสารนี้มาใช้เพราะศาลโลกคงเข้าข้างเรา แต่บังเอิญวันที่ไปขึ้นศาลโลก เอกสารนี้อยู่ที่ฝรั่งเศสเราจึงมิอาจเอื้อมไปหามาแปลได้ ถ้าสมัยก่อนมี กล้าพูดเลยว่าปราสาทพระวิหารยังเป็นของไทยอยู่...”

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2551 สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้จัดงานสัมมนา “ปราสาทพระวิหาร : วาระแห่งชาติ” ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ โดยมี ‘นายเทพมนตรี ลิมปพยอม’ นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์ ถือหลักฐานหลายอย่างมานำเสนอประกอบการสัมมนา ความบางส่วนตอนที่นายเทพมนตรีได้อธิบาย รวมถึงเอกสารสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส หลักฐานอื่นๆ พร้อมทั้งแผนที่ฉบับฝรั่งเศส ก่อนการลงนามในแถลงการณ์ร่วมเพื่อขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส อันเป็นประเด็นปัญหาที่ถกเถียงแตกเสียงต่างๆ นาๆ ทั้งนี้ 

ข้อความดังต่อไปนี้ เป็นคำอธิบายประกอบการแสดงหลักฐานทางประวัติศาสตร์บางส่วนที่นายเทพมนตรีหยิบยกมาเผยแพร่ระหว่างการสัมมนา ดังนี้ 

นายเทพมนตรี กล่าวไว้ดังนี้  “ผมได้นำแผนที่ในปีคศ. 1907 ซึ่งเป็นแผนที่ทีประกอบแนบท้ายสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส  ลงวันที่ 23 มีนาคม 2450 เป็นบันทึกประวัติศาสตร์สำคัญที่เราเพิ่งแปลเมื่อเร็วๆ นี้  ทำให้เราเห็นได้ชัดเจนว่าข้อสรุปหรือมติของศาลระหว่างประเทศ หรือศาลโลกนั้น ที่บอกว่าโอกาสต่อไปอันเป็นส่วนของเรา เราพบหลักฐานใหม่ เราก็สามารถรื้อคดีขึ้นมาได้”  

“ข้อความในสนธิสัญญาซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่รู้บริบทเลย ว่าในมุมกว้างของสนธิสัญญาพูดถึงอะไรบ้าง  มีเอกสารของคณะสำรวจปาวีที่จะเผยที่นี่เป็นที่แรก เริ่มมีกระแสว่านักวิชาการไปปลุกเร้า ไปสร้างชาติ ซึ่งถ้าผมมองในมิตินี้ขอบอกว่าเราชัดเจน ชัดเจนในประเด็นแรกคือเราต้องการกระชากหน้ากากยูเนสโก้ ข้อสองคือเราต้องการกระชากหน้ากากของใครบางคนในรัฐบาลนี้  เราไม่เคยปลุกระดมให้คนมาคลั่งชาติ เพียงแต่เราต้องบอกข้อเท็จจริงว่าที่มาที่ไปมันเป็นอย่างไรเพราะคนในรัฐบาลนี้มันโง่ มันไม่อ่านประวัติศาสตร์” 

“ผมแบ่งข้าราชการปัจจุบันออกเป็น 3  ฝ่าย หนึ่งข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สองข้าราชการในสังกัดพรรคการเมือง และสุดท้ายข้าราชการในสังกัดนายทุน เรามีข้าราชการ 2 ประเภทหลังถึง 2 ใน 3 ของประเทศ” 

ผมอยากเรียกร้องท่านผบ.สส.เปิดเผยเอกสารนี้ เพราะมีบันทึกเสียงด้วยและเผยแพร่ให้ประชาชนได้ทราบ กระชากหน้ากากใครบางคนที่จิตใจลำเอียงไปอยู่ฝ่ายกัมพูชา มันบ่งบอกธาตุแท้กมลสันดานออกมาเลยนะ ชัดเจนแจ่มแจ้งไม่ต้องมีนัยสำคัญเลย พูดเข้าข้างเลยว่าหนึ่งจะยกดินแดนให้เขาไป สองจะเอา 7 ชาตินี้เข้ามา แต่อย่าให้ผมพูดเลยว่าใครเพราะว่าผิดมารยาท

เอกสารสำคัญซึ่งแปลเมื่อเร็วๆ นี้เป็นของฝรั่งเศส สมัยนั้นคงไม่เอาเอกสารนี้มาใช้เพราะศาลโลกคงเข้าข้างเรา แต่บังเอิญวันที่ไปขึ้นศาลโลก เอกสารนี้เป็นภาษาฝรั่งเศส อยู่ที่ฝรั่งเศส เราจึงมิอาจเอื้อมไปหามาแปลได้ ถ้าสมัยก่อนมีเอกสารฉบับนี้นะครับ ผมกล้าพูดเลยว่าปราสาทพระวิหารยังเป็นของไทยอยู่  เอกสารดังกล่าวพูดถึงเรื่องการปักปันเขตแดนที่ชัดเจนมากๆ  แต่เราก็รู้ดีว่าฝ่ายฝรั่งเศสคงไม่เอาเอกสารนี้ให้เรา  แต่วันนี้มันผ่านมาแล้วหลายสิบปี ก็เลยมีพิมพ์เผยแพร่

ฝ่ายฝรั่งเศสได้เมืองพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ และยอมมอบดินแดนเมืองตราดและด่านซ้ายกลับคืนให้แก่สยาม ขณะเดียวกันฝรั่งเศสก็คงยังรักษาเมือง SAUTON ที่อยู่ทางฝั่งทะเลไว้ พิธีศาลที่ว่าด้วยการปักปันเขตแดน ได้กำหนดขอบเขตของดินแดนเหล่านี้ไว้ต่อท้ายสนธิสัญญานี้แล้ว พื้นที่ในแถบทะเลสาบเขมรทั้งหมดเป็นของฝรั่งเศส เว้นแต่พื้นที่ทางทิศตะวันตกที่อยู่ห่างออกไปคาบ 10 กิโลเมตร อันเป็นพื้นที่ในหลายเขตตำบลในเขตเมืองปราจีนบุรีของสยาม นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่อีกหลายแขวงที่อยู่ทางตอนเหนือของเมืองไพลิน ซึ่งขึ้นอยู่กับเมืองจันทบุรี และเพื่อเป็นการชดเชยพื้นที่บริเวณแนวพรมแดนที่อยู่ในเขตเทือกเขาดงเล็ก ฝรั่งเศสได้ยกพื้นที่หลายตำบลในเขตเมืองอุบลราชธานีให้แก่สยาม

ทั้งนี้ เนื่องจากแผนที่แนบสนธิสัญญาดังกล่าวถูกจัดทำเมื่อปีค.ศ. 1907 ซึ่งพื้นที่ทับซ้อนเคยเป็นเขตแดนของเราแต่เดิม แต่เอกสารดังกล่าวนั้นเป็นฉบับร่าง แต่ฝรั่งเศสมาเลือกใช้แผนที่ฉบับปี 1908 ซึ่งมาตีพิมพ์ภายหลังมาประกอบเป็นแผนที่ท้ายคำฟ้องในปี พ.ศ. 2502  เพราะแผนที่นี้ระบุอยู่แล้วว่าได้ปักปันเขตแดนเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่หน้าสนใจในหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งออกเมื่อ 4 ก.ค. 2505 ข้อแรกระบุว่า “ข้อ2 กำหนดเป็นรูปพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้าครอบปราสาทพระวิหาร มีแนวเขตจากปีกขวาของตัวปราสาทพระวิหารตั้งแต่ช่องบันไดหัก (ช่องบันไดหักอยู่ภายในบริเวณปราสาทพระวิหาร) ลากเส้นตรงผ่านชิดบันไดนาคไปจนถึงตัวปราสาทพระวิหาร แล้วลากเส้นตรงขนานกับตัวปราสาทพระวิหารไปสุดที่หน้าผาชันด้านหลังปราสาทพระวิหาร จะเป็นเนื้อที่บริเวณปราสาทพระวิหารประมาณ ¼ ตารางกิโลเมตร”

ผมได้เอกสารนี้มาจากบ้าน จอมพลประภาส จารุเสถียร มีผู้ประสงค์ดีให้ผมมา  ส่วนท้ายของหนังสือดังกล่าวระบุอีกว่า  “ข้อ 1 จัดทำป้ายไม้ ลักษณะและขนาดเท่าสถานีรถไฟ แสดงเขตบริเวณปราสาทพระวิหารไปปักตามจุดที่ช่องบันไดหัก 1, ปลายบันไดนาค 1, ที่มุมปราสาทปีกซ้าย 1, และที่หน้าผาหลังปราสาทอีก 1 ป้ายนี้ด้านที่หันมาทางประเทศไทยให้เขียนว่า “เขตบริเวณปราสาทพระวิหาร” และมีภาษาอังกฤษกำกับ ส่วนทางด้านที่หันไปทางกัมพูชาเขียนข้อความเป็นภาษากัมพูชาว่า “เขตนอกบริเวณปราสาทพระวิหาร” และมีภาษาฝรั่งเศสกำกับไว้ด้วย”

ฉะนั้นถึงต้องมีการรั้วลวดหนามให้เขตบริเวณ ไม่ใช่เส้นเขตแดน พอกั้นเขตบริเวณ วันนั้นจอมพลประภาสก็ได้เดินทางไปวันที่จะต้องไปเอาทหารและตำรวจออกจากบริเวณปราสาทด้วย และไปชี้จุดว่าปักเขตบริเวณไว้ให้ชัดเจนเพื่อป้องกันไม่ให้ไทยกับกัมพูชากระทบกระทั่งกัน เห็นได้ชัดว่าแนวรั้วที่เรากั้นเป็นเขตบริเวณอย่าเอาไปเกี่ยวกับเขตแดน

ผมมีเอกสารฉบับหนึ่งลงลายพระหัตถ์ ‘สยามมินทร์’ ระบุว่า

“เหมือนหนึ่งคำซึ่งมองซิเออร์ เดอร์ คาเซ่ พูดกับพระยาสุริยาฯ ว่า พวกที่เป็นกบฏหนีไทยเข้าไปในเขตแดนของเขา ถึงไม่ใช่ทหารก็ขึ้นว่าเป็น สัปเยกไทย  ถึงเป็นกบฏเข้าไปวุ่นวายในเขตแดนฝรั่งเศสก็ต้องถือว่าเป็นไทยบุกรุก การณ์เรื่องนี้เขาก็พูดหลับตาหาความ ถ้าจะกล่าวให้ตรงคงจะว่าถึงเป็นคนในบังคับอังกฤษแต่ออกไปจากเขตแดนไทยแล้วไปวุ่นวายในเขตแดนเขา เขาก็จะถือว่าเป็นไทยบุกรุก การที่ว่าเช่นนี้ ไม่จำเป็นต้องออกจากเขตแดนไทยไปในแดนฝรั่งเศส  มันไปจากแดนอังกฤษก็ไปได้ สักแต่ขึ้นชื่อว่าคนเคยมาเมืองไทย ไปทำผิดในแดนฝรั่งเศส ก็คงจะเอาเป็นไทยบุกรุกได้ เรามีความเหนื่อยหน่ายใจ ในการซึ่งต้องเอาใจกันอยู่เช่นนี้เหลือกำลังแล้ว  ความมุ่งหมายว่าจะได้ความสงบจากสัญญาที่ได้ทำแล้ว  หรือที่จะทำใหม่ก็ดูเป็นสุดทางที่จะมุ่งหมายอยู่แล้ว มีแต่ทางที่จะต้องรอนกำลังตัว แลให้เขาเดินหนักขึ้นไปตามชอบใจทุกที เสียรายทางอยู่ไม่ขาด การซึ่งจะมีผลร้ายในเพลาสัญญาไม่ตกลงกัน  กับที่จะต้องเสียรายทางอยู่เช่นนี้เสมอ จะผิดกันอย่างไรก็แลไม่เห็น พระยาสุริยาคิดแลหนทางอย่างไร ขอให้ตักเตือนแนะนำสักหน่อย หน้ามืดเต็มที”

ลงลายพระหัตถ์ สยามินทร์  ป.ล.


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์