ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ถนนพหลโยธิน น.ส.พรทิพย์ จันทรัตน์ แม่ของด.ญ.ภัทรดา แก้วผ่อง หรือน้องบีม เด็กหญิงพิการ ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากอุบัติเหตุรถยนต์ชนกับรถพ่วง 18 ล้อ ในพื้นที่อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อปี 2548 เป็นเหตุให้พ่อน้องบีมเสียชีวิต น.ส.พรทิพย์ บาดเจ็บสาหัส ส่วนน้องบีมต้องถูกตัดขากลายเป็นคนพิการตั้งแต่อายุ 2 ขวบ ซึ่งทางบริษัทเจ้าของรถพ่วงคู่กรณีได้ชดใช้ค่าเสียหายให้ 5 ล้านบาท แต่ถูกนายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ ทนายความที่รับว่าความฉ้อโกงเงิน เดินทางเข้าพบนายถวัลย์ รุยาพร นายกสภาทนายความ เเละคณะผู้บริหารสภาทนายความ เพื่อเซ็นใบแต่งตั้งทนายความและใบคำร้องลงโทษทางมรรยาททนายความ
ขณะนี้ทางทนายความจัดทำร่างฟ้องคดีแพ่งเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียด โดยคาดว่าจะสามารถยื่นฟ้องแพ่งนายพิสิษฐ์ ผู้ถูกกล่าวหาได้ในวันที่ 6 กรกฎาคมนี้ เรื่องค่าธรรมเนียมศาลเราก็จะดูว่าจะขอยกเว้นได้ตามหลักเกณฑ์หรือไม่ ถ้าหากได้ค่าใช้จ่ายตรงนี้ก็จะไม่ต้องเสีย เเต่หากยังมีค่าธรรมเนียมศาลอยู่ทางกรมคุ้มครองสิทธิ ซึ่งสังกัดกระทรวงยุติธรรมก็จะดูเเลให้ในส่วนของคดีอาญาเราจะต้องดูหากอัยการยื่นฟ้องทางสภาทนายก็จะให้ทนายของเราเข้าไปเป็นโจทก์ร่วมในการฟ้องคดี ซึ่งต่อไปหากมีประชาชนผู้ได้รับความเสียหายจากนายพิสิษฐ์ หรือทนายความคนอื่น สามารถร้องเรียนได้ที่สภาทนายความทันที
ด้านน.ส.พรทิพย์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า หลังร้องทุกข์มาอย่างยาวนาน จากเดิมจะล้มเลิกแล้ว แต่วันนี้ที่สื่อมวลชนมาช่วยทำข่าวแล้วก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น และมีความหวังว่าจะได้เงินคืนว่าเพื่อมารักษาดูแลน้องบีม
เมื่อถามว่า อยากฝากอะไรถึงทนายความคนดังกล่าว น.ส.พรทิพย์ กล่าวว่า ฝากถึงนายพิสิษฐ์ว่าหากพบกันก็อยากถามว่ามาหลอกกันทำไม และอยากให้นำเงินมาคืน เพราะทุกวันนี้เหนื่อยมาก ต่อสู้มานานต้องอุ้มลูกตั้งแต่ตัวเล็ก จนตอนนี้อุ้มลูกไม่ไหวแล้ว ถ้าใครเป็นแม่ก็คงเข้าใจความเป็นแม่ แต่ขณะนี้ก็ดีขึ้นบ้างแล้ว