นายพงศา ราตรี ทนายความ ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นผู้ดูแลรับคำร้องทุกข์ เกี่ยวกับคดี นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร ข้าราชการครูชาว จ.สกลนคร ที่ตกเป็นแพะ ในคดีอุบัติเหตุขับรถชนคนตาย เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดว่า คดีของนางจอมทรัพย์ ได้รับเรื่องร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมจากญาติ ผู้เสียหายในช่วงเดือนตุลาคม 2557 จนกระทั่งมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า เกิดเหตุตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2548 ในเวลาประมาณ 20.30 น. และมีการดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งเหตุเกิดบริเวณ ถ.ธาตุน้อย-นาเหนือ บ้านสร้างเม็ด อ.เรณูนคร จ.นครพนม ผู้เสียหายเป็นรถจักรยานยนต์เสียชีวิต ซึ่งเป็นเขตรับผิดชอบ ของ สภ.นาโดน
"ภายหลังเกิดเหตุ ผู้กระทำผิดตัวจริงได้ขับรถหลบหนี ซึ่งเป็นรถยนต์อีซูซุ ทะเบียน บค 56 มุกดาหาร สีเขียว บังเอิญใกล้เคียงกับทะเบียนรถของผู้เสียหาย ที่ตกเป็นแพะในคดี คือ รถยนต์โตโยต้า ทะเบียน บค 56 สกลนคร สีบรอนทอง แต่ความผิดพลาดในช่วงระหว่างดำเนินคดีทำให้ผู้เสียหายตกเป็นแพะ ยังไม่สามารถที่จะระบุได้ แต่พบว่าในกระบวนการของกฎหมายผู้เสียหาย ศาลชั้นต้น จ.นครพนม ตัดสินจำคุก 3 ปี 2 เดือน ตั้งแต่ปี 2557 และมีการยื่นอุทรณ์ต่อศาลผลคือ พิพากษายกฟ้อง ในชั้นศาลอุทรณ์ จนกระทั่งถึงศาลฏีกา ได้พิพากษา จำคุก 3 ปี 2 เดือน ยืนตามศาลชั้นต้น ทำให้ผู้เสียหาย ถูกตัดสินจำคุก ตั้งแต่ปี 2557 จนกระทั่งได้รับการอภัยโทษออกมา ในปี 2558 รวมจำคุก 1 ปี 6 เดือน รวมระยะเวลาต่อสู้คดีร่วม 10 ปี" นายพงศา กล่าว
นายพงศา กล่าวว่า ภายหลังทางศูนย์ฯ ได้มีการติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริงให้การช่วยเหลือมาต่อเนื่อง จนกระทั่งมีการสอบสวน พยาน และตรวจพบหลักฐาน พบข้อเท็จจริงว่า ผู้เสียหายข้าราชการครูคนนี้เป็นแพะในคดี เนื่องจากทางผู้กระทำผิดจริง ได้ออกมายืนยันว่า เป็นผู้กระทำผิดจริง แต่หลบหนีหลังเกิดเหตุ จนมารู้ภายหลังว่ามีข้าราชการครูผู้เสียหาย ตกเป็นแพะรับโทษแทน เบื้องต้นทางผู้กระทำผิดยืนยันจะรับผิดแต่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ ทั้งนี้ยังต้องรอกระบวนการยุติธรรม โดยล่าสุด ทางศาลอุทรณ์ภาค 4 ได้มีคำสั่งให้ ศาลชั้นต้น จ.นครพนม รับคำร้องดำเนินการรื้อคดีมาพิจารณาไต่สวนใหม่ ซึ่งยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ ส่วนผู้กระทำผิดจริงยังต้องรอกระบวนการทางกฎหมาย
"ส่วนสิทธิ์หรือการเรียกร้องค่าเสียหาย สำหรับผู้เสียหายตกเป็นแพะ จะต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อให้พ้นผิดและจะต้องเป็นผู้บริสุทธิ์ ส่วนการดูแลเยียวยาชดเชยนั้น มีกฎหมายคุ้มครองอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามทางศูนย์ฯ โดยพันตำรวจเอกดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้อำนวยการ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแล จนกว่าคดีจะสิ้นสุด" นายพงศา กล่าว