ด้านพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ระบุว่าได้รับหนังสือจากกระทรวงยุติธรรม(ยธ.)ขอให้ดีเอสไอดำเนินการคุ้มครองพยานให้กับนางจอมทรัพย์ จึงสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการคุ้มครองพยานเพื่อตรวจสอบและดูหลักเกณฑ์ต่างๆว่ากรณีของนางจอมทรัพย์จะเข้าตามหลักเกณฑ์การคุ้มครองพยานหรือไม่
ขณะที่พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจแห่งชาติ ระบุว่าหลังเกิดการร้องขอให้ศาลรื้อฟื้นคดีครูจอมทรัพย์ ผู้บัญชาการรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) มีความกังวลใจว่าจะเกิดช่องโหว่ในการสอบสวนในขณะนั้น จึงสั่งการให้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ซึ่งพบว่าพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างถูกต้องตั้งแต่การตรวจที่เกิดเหตุ การตรวจพยานหลักฐานทำคดีอย่างเต็มที่แล้ว
ทั้งนี้ การตรวจสอบยังพบว่าช่วงปลายปี 2556 หลังศาลฏีกามีคำพิพากษาคดีนี้แล้ว ปรากฎว่ามีกลุ่มคนจำนวน 7 คน เดินทางไปพบตำรวจภูธรเรณูนคร จังหวัดนครพนม พร้อมนำบุคคลมากล่าวอ้างว่าคือตัวจริงที่ขับรถชนคู่กรณีเสียชีวิต เมื่อปี 2548 ตำรวจจึงได้ทำบันทึกไปที่ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม แต่ระหว่างนั้น กลุ่มคนทั้ง 7 ได้ไปพบกับ พ.ต.อ.นายหนึ่งและแสดงตัวว่าเป็นคนขับรถชนซึ่งไม่ใช่นายสับ วาปี ที่ออกมาสมอ้างแทนครูจอมทรัพย์อยู่ในขณะนี้ ซึ่งได้มีการสอบปากคำชายคนแรกไว้แล้ว โดยยืนยัน ใน 1-2 วัน ความจริงจะปรากฎ และคาดว่าช่วงบ่ายวันนี้จะสามารถแจ้งความเอาผิดกับบุคคลในขบวนนี้ได้