
นางแพงศรี พ่อบำรุง วัย 60 ปี บุตรสาวของนายเหลือ ผู้ตาย เหยื่อคดีครูจอมทรัพย์ เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ให้กับ ข่าวสด สื่อชื่อดัง ในคืนเศร้าสลดว่า นายเหลือ บิดาตนก่อนถูกรถชนตาย ขณะนั้นมีอายุ 75 ปี แม้เวลาจะผ่านมานาน 12 ปี แต่ก็ทำใจได้แล้ว และในวันนี้ตนขออโหสิกรรมกับผู้ที่ขับรถชนบิดาตนวันนั้นด้วยว่า "ใครทำดีก็ได้ดี ใครทำชั่วก็ได้ชั่วตามนั้นกฎแห่งกรรมมีจริง"
นางแพงศรีเล่าถึงเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุนายเหลือบิดาได้ชักชวนเพื่อนผู้เฒ่า ซึ่งเป็นชาย 2-3 คน ปั่นรถจักรยานคนละคันเพื่อจะไปดูหมอลำซิ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากตัวบ้านพักประมาณ 300 เมตร โดยมีบิดาตนปั่นนำหน้าออกไปก่อนเพื่อนรุ่นเดียวกัน หลังปั่นเลาะเลนซ้ายข้ามสะพานลำน้ำบังไปได้ 100 เมตร ฝั่งขาออกตัวตำบล มุ่งหน้าไป บ.สร้างเม็ก หมู่ 7 ซึ่งมีงานบุญแจกข้าวฝั่งขวามือของริมถนน
แต่ก่อนจะถึงตัวงานแค่ 100 เมตร ได้มีรถยนต์คันที่ก่อเหตุขับแซงรถจักรยานยนต์ข้ามฝั่งกินเลนพุ่งชนบิดาตนจนกระเด็นตกกลางถนนเสียชีวิตคาที่ จึงขึ้นรถตามไปรอรับศพที่โรงพยาบาลร้องให้ไปน้ำตาไหลพราก
นางแพงศรีกล่าวต่อไปว่า หลังจากญาติแจ้งข่าวให้ทราบ ตนจึงไปดูจุดเกิดเหตุพร้อมกับนายจัตตุพล พลครอง บุตรชายวัย 38 ปี พบที่เกิดเหตุมืดมาก บิดาตนมีเลือดทะลักออกปาก ขาขวาหัก ส่วนจักรยานล้อหน้าพับเป็นเลขแปด ต่อมาหลังคดีสิ้นสุดตนได้ขายเป็นเศษเหล็กไปแล้ว หลังจากบิดาตนถูกรถชน คนขับรถได้หลบหนีไป จึงได้ให้นายสว่าง พ่อบำรุง อายุ 64 ปี ผู้เป็นอาไปแจ้งความเอาผิดกับคนร้ายผู้ที่ขับรถชนแล้วหลบหนีที่ สภ.นาโดน ในพื้นที่ของ อ.เรณูนคร รอยต่อกับ ต.พระซอง
"เวลาผ่านไปทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมครูจอมทรัพย์ ผู้ขับรถชนพ่อได้แล้ว แต่แล้วจู่ๆหลังเกิดเหตุ ได้มีกลุ่มบุคคลมาพบที่บ้านเพื่อจะทำสัญญาจ่ายเงินให้ 100,000 บาท แต่ฉันร้องขอเงิน 150,000 บาทในสัญญาระบุจะจ่ายเงินให้ตนวันที่ 2 ธ.ค.2556 แต่ก็ไม่ได้มาจ่าย ต่อมามีหนังสือจากศาลจังหวัดนครพนมนัดให้ไปรับเงินที่ศาลในวันที่ 2 ธ.ค.2557 ขณะไปที่ศาลก็ได้พบกับครูจอมทรัพย์อยู่ในชุดนักโทษเรือนจำพร้อมผู้คุมมาด้วย แต่ก็ไม่ได้พูดคุยกันเพราะนั่งคนละฝั่ง เนื่องจากยังน้อยใจที่ฉันคิดว่าครูคนนี้ขับรถชนบิดาตนเสียชีวิต ทำไมไม่มีญาติครูมาร่วมงานศพเลย" บุตรสาวเหยื่อรถชน กล่าว
นางแพงศรีกล่าวด้วยว่า หลังศาลนัดให้มารับเงิน 150,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยรวมเป็นเงิน 170,000 บาท แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเงินของผู้ใดในศาลยังได้พบกับนายสับ วาปี ผู้ซึ่งตนทราบภายหลังว่าเป็นผู้ออกมายอมรับสารภาพผิดว่าเป็นคนขับรถชนบิดาตนตาย จึงได้อโหสิกรรม ไม่ให้มีเวรซึ่งกันและกัน
ต่อมานางแพงศรี พร้อมญาติ 4-5 คนได้รถตู้ของบุตรชาย เพื่อนำไปชี้จุดเกิดเหตุ พร้อมกับนำภาพถ่ายนายเหลือบิดาไปด้วย ระหว่างนั่งรถตู้กลับจากที่เกิดเหตุ นายแพงศรีน้ำตาอาบแก้มจนต้องใช้ผ้าเช็ดหน้ามาซับ พร้อมกล่าวว่า ใครก็ตามที่เป็นผู้ขับรถชนบิดาตน แม้แรกๆจะรู้สึกเสียงใจร้องไห้หนักมาก แต่วันนี้อโหสิกรรมให้แล้ว และใครจะเป็นคนชนก็ขอให้เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรม




กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday