บรรยากาศสุดเศร้า ที่วัดวังไทร อ.ลานสกา นครศรีธรรมราช พระเทพสิริโสภณ อดีตเจ้าคณะจังหวัดและอดีตเจ้าอาวาสวัดวังตะวันตก เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพ นายศุภโชค เอกเกียรติกุล หรือ สามเณรปลื้ม อายุ 17 ปี ซึ่งถูกฆาตกรรมทำร้ายจนเสียชีวิตนำร่างฝังดินโบกปูนที่วัดวังตะวันตก เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยลูกศิษย์ต้องช่วยประคองพระเทพสิริโสภณตลอดเวลาเนื่องจากอาการอาพาธ
โดยนางกัญญา มินกระโทก มารดาของสามเณรปลื้ม กล่าวว่า ในส่วนของคดีนั้น หลังจากเผาศพสามเณรปลื้มแล้วก็จะไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอให้จับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องให้หมดและเรียกร้องให้มีการลงโทษประหารชีวิตผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ นายเด่นชัย และ น.ส.ปาริฉัตร เพราะมีพฤติกรรมที่เลวร้ายมาก ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่าสามเณรขโมยเงินตนเชื่อว่าไม่จริง ไม่มีใครเชื่อ คนที่รู้จักสามเณรไม่มีใครเชื่อ เพราะเณรไม่มีนิสัยขี้ขโมย
"ลองนึกว่าหากสามเณรขโมยแล้วจะกล้ากลับไปอยู่ที่วัดให้เค้าฆ่าหรือ ขนาดตัวแม่เองให้สามเณรหยิบเงินในกระเป๋าเณรยังไม่กล้าหยิบเลย กรณีนี้ก่อนจะถูกฆ่าตาย นายเด่นชัยกับน.ส.ปาริฉัตรก็ได้นำแณรไปแจ้งตร.แล้วว่าขโมยเงินโดยเณรปฏิเสธและยังกลับไปอยู่ที่วัดตามปกติ หากเณรขโมยจริงและถูกนำไปแจ้งความที่โรงพักแล้วเช่นนั้น เค้าจะกล้ากลับไปอยู่วัดหรือ ลองนึกดูแค่นี้ เชื่อว่าลูกน่าจะไปรู้เห็นพฤติกรรมที่ทั้งสองคนนี้ไม่อยากให้ใครรู้มากกว่าจึงต้องวางแผนสร้างเรื่องขึ้นมา คนแบบนี้ต้องประหารชีวิตสถานเดียวเพราะถือว่าเลวมาก"
แม่สามเณรปลื้ม กล่าวด้วยว่า ตัวเองนอนเฝ้าสามเณรปลื้มที่ศาลาวัดวังไทรทุกคืน คืนแรกสามเณรมาปรากฏตัวให้เห็น ในสภาพแต่งกายนุ่งห่มสบง จีวร จนคืนก่อนจะมีพิธีเผาศพ สามเณรปลื้มก็มาปรากฏตัวให้เห็นอีกครั้ง ในชุดสบงเพียงผืนเดียว ใบหน้าเหมือนจะบอกอะไรตนสักอย่าง แต่ฟังไม่ได้ยินเสียงใดๆ ลูกมายืนตรงปลายเท้า แม่ร้องไห้ น้องก็ร้องไห้ จนรู้สึกตัวขึ้นมาอีกที มีคนมาเรียก สะดุ้งตื่นขึ้นมาน้ำตาไหลเปียก พอเห็นลูกเราก็ดีใจ ที่ลูกมา เพราะตำรวจยังจับคนร้ายได้ไม่ครบหรือเปล่า จากนี้จะติดตามคดีนี้อย่างจริงจัง