จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้จับกุมตัว พระภิกษุ 1 รูป, สามเณร 2 รูป และฆราวาส 2 คน หลังต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของ "สามเณรปลื้ม" อายุ 17 ปี ซึ่งหายตัวไปประมาณ 5 เดือน จนสุดท้ายรับสารภาพว่า ลงมือฆ่า "สามเณรปลื้ม"เนื่องจากทะเลาะกันเรื่องเงินภายในวัดที่หายไป หลังจากนั้นได้ฝังศพใต้ต้นตะเคียนภายในวัด และต่อมาได้เทพื้นคอนกรีต พร้อมวางพระพุทธรูปไว้เพื่อไม่ให้คนสงสัย โดยที่ทั้งหมดยังบวชเป็นพระอยู่ในวัดดังกล่าวมาตลอดนั้น
คืบหน้าเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 2 มิ.ย.ที่ ศูนย์นิติเวชโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจ นครศรีธรรมราช พร้อมพ่อและลุงของสามเณรปลื้ม ได้เดินทางนำศพสามเณรปลื้ม ส่งตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุการตายโดยจะทำการผ่าชันสูตรในวันพรุ่งนี้
โดยนายชวน เอกเกียรติกุล อายุ 42 ปี พ่อของสามเณรปลื้มผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนเองมีอาชีพรับจ้างอยู่ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ และจะติดต่อกับเณรตลอด และก็เล่าว่ามีปัญหากับพระรูปหนึ่งที่บวชอยู่ที่วัดแต่ไม่ได้บอกว่าเป็นเรื่องอะไร แต่ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาได้โทรไปหาเณร แต่เป็นเสียงผู้อื่นมารับและได้บอกว่า เณรปลื้มออกไปทำธุระข้างนอก และหลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อกับลูกได้อีกเลยจนมาทราบเรื่องเมื่อวานว่าเณรถูกฆ่าเสียชีวิตจึงได้รีบเดินทางมาจาก จ.กาฬสินธุ์ ตอนนี้เมื่อเห็นสภาพของลูกยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงอยากจะวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายทั้งหมดที่ร่วมก่อเหตุมาลงโทษโดยเร็วเนื่อจากสามเณรปลื้มเป็นลูกชายคนเดียว
ด้านนายมีชัย เอกเกียรติกุล อายุ 44 ปี ลุงแท้ๆของสามเณรปลื้ม เปิดเผยว่า ตนเองไม่ปักใจเชื่อที่สามเณรปลื้มจะเป็นคนลักขโมย แต่จะเป็นคนที่พูดจาโผงผาง และตรงไปตรงมา และเชื่อว่าหลานคงจะไปรับรู้เรื่องอะไรบางอย่างภายในวัด หรือมีเรื่องขัดผลประโยชน์ กันจนเป็นเหตุให้สร้างความไม่พอใจกับและลงมือก่อเหตุดังกล่าว