ทันทีที่ตำรวจได้พบกับผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นมีนางมณฑญาณ์ นิรันดร แม่ของโชกุน พล.ต.อ.ศรีวราห์ก็ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนซักถามทุกข้อสงสัย แม้ล่าสุดจะมีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ไว้ที่กองบังคับการปราบปรามแล้วกว่า 300 คน และหากนับรวมสถานีตำรวจทั่วประเทศคาดว่าจะมีกว่า 1,000 คนแล้ว แต่แม่ของโชกุน พยายามยามอธิบาย โดยอ้างว่า ไม่เชื่อว่าลูกสาวจะหลอกลวงคนอื่น เพราะรู้มาว่า ลูกสาวทำธุรกิจรับส่งนักธุรกิจโดยมีเครื่องบินเช่าเหมาลำ 8 ลำ และสาเหตุที่สมาชิกธุรกิจของโชกุนไม่สามารถเดินทางได้เมื่อวันที่ 11 เมษายน แม่โชกุนอ้างว่า เป็นเพราะนายทุนชาวฮ่องกงที่เป็นคนจัดการเช่าเครื่องบิน ไม่สามารถนำเครื่องลงจอดได้ ตามความตั้งใจของลูกสาวที่ต้องการให้คนทั่วไปมีโอกาสไปเที่ยวต่างประเทศสักครั้ง พร้อมประกาศว่า จะฟ้องกลับ คนที่อ้างว่า ลูกสาวทำธุรกิจขายทัวร์ จนได้รับความเสื่อมเสีย
สำหรับผู้ต้องหา 8 คน ประกอบด้วย นางมณฑญาณ์ นิรันดร แม่ของโชกุน น.ส.ทัศย์ดาว สมัครกสิกรรณ์ เลขาส่วนตัว แฟนของโชกุน และยังเป็นเจ้าของบ้านที่จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งถูกใช้เป็นที่อยู่จดทะเบียนบริษัท นางพารินธรญ์ หงส์หิรัญ ดัคกอร์คนที่ปรากฎข้อมูลว่าเป็นผู้ร่วมทุนรายใหญ่ นายก้องศรัณย์ แสงประภา เคยถูกดำเนินคดีฉ้อโกงหลังหลอกนำเงินมัดจำผู้ปกครองเด็กที่อ้างว่าจะส่งไปถ่ายแบบที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ไม่มีการถ่ายแบบเกิดขึ้นจริงเมื่อปี2559 ร่วมกับโชกุน นางประนอม พลานุสนธิ์ ป้าของโชกุน นางณิชมน แสงประภา น.ส.สุ ดารัตน์ อเนกนวล และ นายโกวิท ช่วยสัตว์ ทีมงานของโชกุน
นอกจากแม่ คนใกล้ชิดของโชกุน อย่างนางสาวทัศย์ดาว และนางประนอม ป้าของโชกุน ก็ต่างชี้แจงในทิศทางเดียวกันโดยไม่ยอมรับว่า หลอกลวงประชาชน โดยอ้างว่า การเที่ยวต่างประเทศเป็นเพียง โปรโมชั่นที่โชกุนคิดขึ้นเพื่อตอบแทนสมาชิกที่ซื้ออาหารเสริมเท่านั้น ไม่ใช่การขายทัวร์ ที่สำคัญทุกคนต่างพูดถึงนายทุนรายใหญ่ชาวฮ่องกง โดยอ้างว่า เป็นคนสนับสนุนงบประมาณทั้งหมด
สำหรับคนที่อยู่เบื้องหลังโชกุน ตำรวจมีความพยายามขยายผลมาตั้งแต่วันที่ได้ตัวโชกุนแล้ว และโชกุนก็พูดถึงนายทุนชาวฮ่องกงคนนี้เช่นเดียวกัน และเมื่อตำรวจติดตาม กลับยังไม่พบว่า นายทุนชาวฮ่องกงคนนี้ มีตัวตน