สำนักข่าวฟรานซ์ 24 รายงานว่า เกิดเหตุมือมีดที่อ้างตนสวามิภักดิ์ต่อกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) บุกแทงเจ้าหน้าที่ตำรวจฝรั่งเศสระดับผู้บังคับการ พร้อมภรรยา จนเสียชีวิต

สำนักข่าวฟรานซ์ 24 รายงานว่า เกิดเหตุมือมีดที่อ้างตนสวามิภักดิ์ต่อกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) บุกแทงเจ้าหน้าที่ตำรวจฝรั่งเศสระดับผู้บังคับการ พร้อมภรรยา จนเสียชีวิต

สำนักข่าวฟรานซ์ 24 รายงานว่า เกิดเหตุมือมีดที่อ้างตนสวามิภักดิ์ต่อกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) บุกแทงเจ้าหน้าที่ตำรวจฝรั่งเศสระดับผู้บังคับการ พร้อมภรรยา จนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลา 12.45 น. ตามเวลาในไทย ถือเป็นการโจมตีที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มไอเอสครั้งแรกภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ทางการฝรั่งเศสบังคับใช้มาตั้งแต่เกิดเหตุก่อการร้ายโจมตีกรุงปารีสเมื่อวันที่ 13 พ.ย.ปีที่แล้ว


รายงานดังกล่าวเปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุบุกเข้าแทง ฌอง-บัปติส ซัลแวง ผู้บังคับการตำรวจวัย 36 ปี ซ้ำหลายครั้งที่หน้าบ้านก่อนที่จะจับ เจสซิกา ซัลแวง ภรรยาและลูกชาย เป็นตัวประกันไว้ในบ้านที่แมกนองวิลล์ ในเขตชานเมืองของกรุงปารีส ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพิเศษได้วิสามัญคนร้ายหลังจากที่การเจรจาล้มเหลว โดยเจ้าหน้าที่เข้าช่วยชีวิตลูกชายของเหยื่อไว้ได้ แต่พบภรรยาถูกฆาตกรรมภายในบ้าน

แหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนคดีระบุตัวตนของผู้ก่อเหตุชื่อ ลารอสซี อับบาลา อายุ 25 ปี ซึ่งมีประวัติเคยถูกจำคุกเมื่อปี 2013 ในข้อหาเกี่ยวข้องกับเครือข่ายจิฮัด ที่เกณฑ์คนไปร่วมต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายในปากีสถาน

ด้านสื่อของกลุ่มไอเอสออกมาอ้างว่า การก่อเหตุดังกล่าวเป็นการโจมตีในนามของนักรบไอเอส หลังอ้างตนในวันก่อนหน้าว่าอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุกราดยิงในไนต์คลับคนรักเพศเดียวกันที่รัฐฟลอริดา ในสหรัฐ เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ขณะที่อัยการฝรั่งเศสได้เริ่มดำเนินการสืบสวนชุดต่อต้านการก่อการร้าย โดยพยานผู้เห็นเหตุการณ์ระบุกับเจ้าหน้าที่ว่า ชายผู้ก่อเหตุตะโกนว่า "อาลาบู อักการ์" หรือพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ขณะแทงเหยื่อซ้าหลายครั้งที่หน้าบ้าน

ด้านประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ ออลลองด์ ประณามการก่อเหตุอย่างรุนแรง พร้อมเรียกประชุมฉุกเฉินทันที หลังเกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางมาตรการเฝ้าระวังการก่อการร้ายระดับสูงในขณะที่ฝรั่งเศสอยู่ระหว่างเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016 และยังอยู่ภายใต้การบังคับใช้สถานการณ์ฉุกเฉิน
ก่อนหน้านี้ แบร์นาด์ กาเซเนิฟ รัฐมนตรีมหาดไทย ระบุว่า ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้จับกุมตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุโจมตีในฝรั่งเศสแล้วมากกว่า 100 ราย

โลกออนไลน์แพร่เชื้อแนวคิดสุดโต่ง

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สืบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ) เปิดเผยว่า โอมาร์ มาทีน พลเมืองสหรัฐ ลูกชายของผู้อพยพจากอัฟกานิสถาน ผู้ก่อเหตุ กราดยิงไนต์คลับในออร์แลนโด สหรัฐ ทำให้มี ผู้เสียชีวิต 49 ราย และเป็นเหตุกราดยิงที่รุนแรงที่สุดในสหรัฐ ได้เคยแสดงความคิดเห็นผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก สนับสนุนกลุ่มแนวคิดอิสลามสุดโต่งหลายกลุ่ม รวมทั้งกลุ่มแนวร่วมในตะวันออกกลาง

เจมส์ คอมมีย์ กรรมการเอฟบีไอ ระบุว่า ทางเอฟบีไอค่อนข้างเชื่อว่าผู้ก่อเหตุได้รับอิทธิพลแนวคิดสุดโต่งผ่านทางอินเทอร์เน็ต หลังเจ้าหน้าที่ไม่พบหลักฐานบ่งชี้ความเชื่อมโยงระหว่างมาทีนและเครือข่ายกลุ่มไอเอสโดยตรง และไม่ได้เป็นการวางแผนโจมตีจากต่างแดน นอกจากการแสดงตนสวามิภักดิ์ต่อหัวหน้ากลุ่มไอเอส และกลุ่มแนวคิดอิสลามหลายกลุ่ม โดยก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี บารัก โอบามา ระบุว่า มือปืนดังกล่าวน่าจะเป็นกลุ่มหัวรุนแรงจากในประเทศ

ด้านกลุ่มไอเอสได้ออกมากล่าวอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจากเหตุมือปืนกราดยิงที่ซานเบอร์นาดิโน รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อปลายปีที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 14 ราย สร้างความตื่นตระหนกต่อภัยก่อการร้ายที่เกิดขึ้นในประเทศ
แซอิด ชาฟีค ราห์มัน ชาวมุสลิมผู้ใกล้ชิดมาทีนระบุว่า ในฟลอริดามีมุสลิมเพียง 2% จากทั้งหมดเท่านั้น ที่มีแนวคิดรุนแรงและสุดโต่ง แต่ก็ดูเหมือนคนกลุ่มนี้เริ่มเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ จากอิทธิพลของอินเทอร์เน็ต อย่างไรก็ดี ราห์มันระบุว่า ครอบครัวของมาทีนค่อนข้างจะสนับสนุนแนวคิดแบบอเมริกันมาก ทำให้ไม่คาดคิดมาก่อนว่ามาทีนจะกลายเป็นผู้มีแนวคิดสุดโต่งได้

นอกจากนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวยังทำให้การก่อการร้ายและนโยบายผู้อพยพกลายมาเป็นประเด็นสำคัญในศึกเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้ง โดย โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ตัวแทนพรรครีพับลิกัน ย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องทบทวนนโยบายผู้อพยพ พร้อมทั้งเรียกร้องให้เพิ่มมาตรการคุมเข้มมัสยิดในสหรัฐ ขณะที่ ฮิลลารี คลินตัน ว่าที่ตัวแทนพรรคเดโมแครต เรียกร้องให้เข้มงวดมาตรการควบคุมอาวุธปืน
ทั้งนี้ สหรัฐถือเป็นประเทศที่เกิดเหตุกราดยิงมากที่สุดในโลก สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นเปิดเผยว่า ในระหว่างปี 1966-2012 เกิดเหตุกราดยิงครั้งใหญ่ในสหรัฐคิดเป็น 31% ของจำนวนครั้งที่เกิดขึ้นทั้งหมดทั่วโลก ซึ่งถือเป็นสัดส่วนมากที่สุดเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรสหรัฐที่ถือเป็นเพียง 5% ของประชากรโลก

เหตุกราดยิงที่เกิดขึ้นครั้งใหญ่ในสหรัฐ
1.วันที่ 12 มิ.ย. 2016 พัลส์ ไนต์คลับ-ออร์แลนโด รัฐฟลอริดา ผู้เสียชีวิต 49 ราย (เกี่ยวกับกลุ่มไอเอส)
2.วันที่ 16 เม.ย. 2007 เวอร์จิเนียเทค ผู้เสียชีวิต 32 ราย
3.วันที่ 14 ธ.ค. 2012 โรงเรียนประถมแซนดีฮุค รัฐคอนเนกทิคัต ผู้เสียชีวิต 27 ราย
4.วันที่ 16 ต.ค. 1991 โรงอาหารลูบิส รัฐเทกซัส ผู้เสียชีวิต 23 ราย
5.วันที่ 18 ก.ค. 1984 ร้านแมคโดนัลด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ผู้เสียชีวิต 21 ราย
6.วันที่ 1 ส.ค. 1966 มหาวิทยาลัยเทกซัส รัฐเทกซัส ผู้เสียชีวิต 18 ราย
7.วันที่ 2 ธ.ค. 2015 ซานเบอร์นาดิโน รัฐแคลิฟอร์เนีย ผู้เสียชีวิต 14 ราย (เกี่ยวกับกลุ่มไอเอส)
8.วันที่ 20 ส.ค. 1986 ที่ทำการไปรษณีย์เอ็ดมอนด์ รัฐโอกลาโฮมา ผู้เสียชีวิต 14 ราย

ที่มา france24,posttoday

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์