ตุรกี เปิดสนามบินได้แล้ว บางส่วน หลังระเบิดคร่าชีวิตคน 41 ราย

ตุรกี เปิดสนามบินได้แล้ว บางส่วน หลังระเบิดคร่าชีวิตคน 41 ราย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ท่าอากาศยานนานาชาติอะตาเติร์ก ในนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี กลับมาเปิดให้บริการได้แล้วบางส่วน หลังเกิดเหตุโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตาย คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 41 คน เชื่อกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุ

ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุโจมตีท่าอากาศยานนานาชาติอะตาเติร์ก ของนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็น 41 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวตุรกี มีชาวต่างชาติ 10 คน และคน 2 สัญชาติ 3 คน ประกอบด้วยชาวจีน จอร์แดน ตูนิเซีย ชาวอิรัก 2 คน และซาอุดิระเบีย 5 คน ที่เหลือเป็นชาวอุซเบกิสถาน อิหร่าน ยูเครน อย่างละ 1 คน ส่วนยอดผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเป็น 239 คน ขณะนี้ เจ้าหน้าที่เริ่มซ่อมแซมพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายในสนามบินแล้ว และสนามบินได้กลับมาเปิดให้บริการบางส่วนตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้โดยสารขาออกได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าสนามบินได้ หลังตรวจสอบความปลอดภัยอย่างละเอียด แต่ในพื้นที่ส่วนของอาคารขาเข้าระหว่างประเทศยังคงปิดทำการ ส่วนเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินยังตรึงกำลังแน่นหนาบริเวณด้านนอกอาคารผู้โดยสาร

 

ขณะที่เที่ยวบิน 1 ใน 3 เที่ยวของสนามบินแห่งนี้ต้องยกเลิกการเดินทาง ที่เหลือประสบปัญหาเดินทางล่าช้ากว่ากำหนด นอกจากนั้น ผู้โดยสารจากสนามบินอื่นๆ ก็ได้รับผลกระทบจากเหตุโจมตีครั้งนี้ด้วย เช่น ผู้โดยสารสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส ที่มีกำหนดเดินทางจากสนามบินเมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี ไปยังตุรกี ในช่วงเช้าวันพุธ ต้องติดอยู่ในสนามบิน เนื่องจากสนามบินอะตาเติร์กต้องระงับเที่ยวบินทุกเที่ยวเป็นการชั่วคราว เช่นเดียวกับเที่ยวบินต่างๆ ที่มีกำหนดเดินทางไปเยอรมนี ก็ต้องยกเลิกชั่วคราว

สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส แถลงว่า ผู้โดยสารที่จองตั๋วเครื่องบินไปหรือกลับจากสนามบินอะตาเติร์ก ระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน - 5 กรกฎาคม สามารถเปลี่ยนเที่ยวบิน หรือรับเงินคืนได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม

 

ด้าน ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น พร้อมใจกันประณามกลุ่มไอเอสที่ก่อเหตุอันโหดเหี้ยมขึ้นในสนามบินนครอิสตันบูล โดย นายกรัฐมนตรี มัลคอล์ม เทิร์นบูล แห่งออสเตรเลีย ได้ยืนสงบนิ่งไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตในเหตุโจมตีตุรกี ขณะหาเสียงเลือกตั้ง โดย นายเทิร์นบูล ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวย้ำเตือนให้ตระหนักว่า กลุ่มก่อการร้ายอิสลามหวังทำลายและสร้างความแตกแยกต่อคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นชาวคริสต์หรือมุสลิม ดังนั้น ขอให้ชาวออสเตรเลีย ซึ่งเป็นสังคมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมสามัคคีกัน ส่วน นายโคอิชิ ฮางิอุดะ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น ก็ออกมาแสดงความเสียใจต่อเหยื่อผู้เสียชีวิต และแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับรัฐบาลตุรกี

 

ขณะที่หลายประเทศปรับปรุงคำเตือนเรื่องการเดินทางไปยังตุรกี โดยสหรัฐออกคำเตือนการเดินทางไปยังตุรกีครั้งใหม่ในวันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องจากพลเรือนอเมริกันตกเป็นเป้าการคุกคามของกลุ่มก่อการร้ายมากขึ้น และขอให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี ส่วนสหราชอาณาจักร เตือนพลเรือนว่าภัยคุกคามก่อการร้ายตุรกียังคงอยู่ในระดับสูง ด้านออสเตรเลียออกคำเตือนภัยก่อการร้ายระดับ 2 ในกรุงอังการ่า และนครอิสตันบูล ส่วนจีนเตือนประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางเยือนตุรกี หลังเกิดเหตุโจมตีสนามบินครั้งล่าสุด

 

สำหรับเหตุโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงก่อนเวลา 20.00 น.ของวันอังคารที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น คนร้ายพยายามเดินผ่านเครื่องเอ็กซ์เรย์บริเวณจุดทางเข้าอาคารผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ แต่เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยสกัดเอาไว้ได้ คนร้ายจึงใช้อาวุธสงคราม AK-47 กราดยิง เมื่อตำรวจยิงต่อสู้ คนร้าย 2 คนแรก จึงจุดชนวนระเบิดบริเวณทางเข้าอาคารผู้โดยสาร ส่วนคนร้ายคนที่ 3 ได้จุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตายบริเวณลานจอดรถ

 

นายกรัฐมนตรี บินาลี อิลดิริม แห่งตุรกี เชื่อว่า เหตุระเบิดโจมตีสนามบินดังกล่าวอาจเป็นฝีมือของกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส แต่ยังต้องไต่สวนหาสาเหตุที่แท้จริงอย่างละเอียดต่อไป สำหรับเหตุโจมตีสนามบินตุรกีครั้งนี้มีความคล้ายคลึงกับเหตุกลุ่มไอเอสโจมตีสนามบินกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยเหตุครั้งนั้นคนร้ายได้โจมตีทั้งสนามบินและสถานีรถไฟใต้ดินในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 30 คน


ตุรกี เปิดสนามบินได้แล้ว บางส่วน หลังระเบิดคร่าชีวิตคน 41 ราย


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์