แรงสั่น สะเทือน พลัง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต่อ สุเทพ กปปส.

แรงสั่น สะเทือน พลัง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต่อ สุเทพ กปปส.

การปรากฏขึ้นของ "ม็อบ" กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบลบริเวณโดยรอบกระทรวงมหาดไทย

น่าศึกษา

ไม่ว่าที่ยืนอยู่บนถนนบำรุงเมือง ไม่ว่าที่ยืนอยู่บนถนนอัษฎางค์ ไม่ว่าที่ล้นทะลักไปจนถึงศาลหลักเมืองและสนามหลวง

สื่อส่วนใหญ่ระบุ "จำนวนมาก" แทน "ตัวเลข"

ดูเหมือนจะมีหนังสือพิมพ์ "กรุงเทพธุรกิจ" ในเครือเดอะเนชั่น เพียงฉบับเดียวที่ยืนยันว่ากว่า 45,000 คน


ผลก็คือ ฝ่ายที่ยึดกระทรวงมหาดไทย "ถอน" ออกตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม

แม้จะมีความพยายามตัดตอนโดยให้ "เครดิต" กับ ผบ.ตร. และ ผบ.พล.1 รอ. โดยมองข้าม ศอ.รส.เหมือนกับเป็นเรื่องส่วนตัว เป็นเรื่องส่วนบุคคล

แต่ความเป็นจริงก็คือ "ถอน"

เป็นการถอนกำลังออกทั้งๆ ที่หลังพิงอัน กปปส.และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อ้างเอ่ยอยู่ไม่ขาดปากคือ "มวลมหาประชาชน" คือสถานะแห่งความเป็น "องค์รัฏฐาธิปัตย์"

ความหมายของ "รัฏฐาธิปัตย์" คือ อำนาจอันยิ่งใหญ่ มิใช่หรือ

ถามว่าเหตุปัจจัยอันใดทำให้กระทรวงมหาดไทยภายใต้การนำของ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ สามารถระดมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและเครือข่ายมาได้มากถึงเพียงนี้

คำตอบ 1 เป็นเพราะ กปปส.

อย่าลืมเป็นอันขาดว่า กปปส.ประกาศปฏิรูปโดยการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเหมือนกับ กทม.เหมือนกับเมืองพัทยา

ข้อเสนอนี้ "ล่อแหลม" อย่างยิ่ง

ใน เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดก็อยู่ในโหมดแห่งการเลือกตั้งซะแล้ว ตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านอันได้มาเพราะ คมช.มอบให้หลังรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 จะไปเหลืออะไรเล่า

หาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้เป็น "องค์รัฏฐาธิปัตย์" จริง

คำตอบ 1 เป็นเพราะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เห็นชอบกับแผนยึดกระทรวงมหาดไทยอันเสนอโดย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ผู้ทรงอิทธิพลเหนือสหภาพพนักงานรัฐวิสาหกิจอย่างการรถไฟ อย่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิต เป็นต้น

เป็นการยึดอย่างยาวนานยิ่งกว่ากระทรวงการคลัง ยิ่งกว่ากระทรวงพลังงาน

นี่ ย่อมเป็นการหยามหมิ่นต่อเหล่าราชสีห์แห่งกระทรวงมหาดไทย นี่ย่อมเป็นการเหยียบหน้ากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมีสายสัมพันธ์กับเหล่าราชสีห์อย่างแนบแน่น

ม็อบ "กำนัน" จึงต้องประสานและจับมือกับ "ผู้ใหญ่บ้าน"

ไม่ว่าสถานการณ์การรัฐประหารใดในกาลอดีต กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ล้วนเป็นเครื่องมือให้กับปีกอนุรักษ์ปีกจารีตทางการเมือง

เห็นได้จากการปลุกม็อบของ รสช.เมื่อเดือนพฤษภาคม 2535

เห็นได้จากความพยายามสร้างอำนาจและอิทธิพลโดย คมช.และรัฐบาล "ขิงแก่" เพื่อดึงเอากำนัน ผู้ใหญ่บ้านมาเป็นพวกนับแต่เดือนตุลาคม 2549

แต่ในสถานการณ์ของ กปปส.กลับตรงกันข้าม

มีการล็อนซ์สินค้า "ลุงกำนัน" ให้กับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ โดยนักการตลาดชั้นยอดระดับ นายเสรี วงศ์มณฑา

แต่ไม่สามารถจัดกระบวนการ "มวลมหา-ประชากำนันผู้ใหญ่บ้าน" ขึ้นได้

ไม่เพียงแต่กำนัน ผู้ใหญ่บ้านส่วนข้างมากในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางยังยืนอยู่กับรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาล

หากแม้กระทั่งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็เป็นเช่นนั้น

พรรค ประชาธิปัตย์และ กปปส.อาจยึดครองส่วนข้างมากในภาคใต้ได้แต่ไม่ทั้งหมด อาจยึดครองส่วนใหญ่ใน กทม.ได้แต่ไม่ทั้งหมด พลันที่ม็อบกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเดินทางเข้า กทม. "มวลมหาประชาการ์ด" จึงจำเป็นต้องถอย

ถอยจาก "มหาดไทย" ไปรวมกันที่ "สวนลุมพินี"

ความหวังสุดท้ายที่เหลืออยู่จึงเป็นความหวังอันวางพื้นฐานที่ "สัตยาธิษฐาน" ในเดือนพฤษภาคม

เป็นสัตยาธิษฐานจากพลังแห่ง "เสื้อเหลือง" เป็นสัตยาธิษฐานจากความพยายามในการ "ถวายคืนพระราชอำนาจ" เพื่อหวังพระบารมีครั้งสุดท้าย

เป็นหน "ทางลง" เป็น "บันได" อันสง่างาม


..........

(ที่มา:มติชนรายวัน 6 พ.ค.2557)


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์