เสธ.ไก่อูอ้างถูกโทรขู่ฆ่าส่งข้อความด่าไอ้สัตว์ยินดีรับสายให้คนระบายเครียดลั่นเกิดมาไม่เคยกลัวใคร

"เสธ.ไก่อู"อ้างถูกโทรขู่ฆ่าส่งข้อความด่า"ไอ้สัตว์"ยินดีรับสายให้คนระบายเครียดลั่นเกิดมาไม่เคยกลัวใคร

ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) กล่าวถึงการพิจารณายกเลิกการประกาศใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ในพื้นที่ 24 จังหวัด ว่า การประชุมศอฉ.วันที่ 5 กรกฎาคม ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศอฉ. เป็นประธาน จะหาข้อสรุปเพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมครม. ในวันที่ 6 กรกฎาคม ซึ่งขณะนี้ได้รับข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย กองทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ครบถ้วนหมดแล้ว แต่ข้อมูลที่ได้รับเป็นลักษณะกว้างๆ นายสุเทพจึงสั่งการให้จัดหมวดหมู่ข้อมูล และจัดลำดับความสำคัญก่อนการพิจารณา เพื่อให้เกิดความรอบคอบรัดกุมต่อไป อย่างไรก็ตาม การพิจารณายกเลิก หรือคงพ.ร.ก. ฉุกเฉินในพื้นที่ใดนั้น ถือเป็นอำนาจของรัฐบาล ศอฉ. มีหน้าที่เสนอข้อมูลเท่านั้น ปัจจัยที่จะนำมาประกอบการพิจารณายกเลิกพ.ร.ก. ฉุกเฉินมีหลายอย่าง อาทิ ความคืบหน้าในการดำเนินคดีต่างๆ เพื่อไม่ให้การประกาศยกเลิกพ.ร.ก. ฉุกเฉินเป็นอุปสรรคในการดำเนินคดีต่อไป อีกทั้งหากจะมีการยกเลิกพ.ร.ก. ฉุกเฉินในพื้นที่ไหน ก็ต้องมีแผนงานรองรับในการดูแลพื้นที่นั้นด้วย


พ.อ. สรรเสริญ กล่าวถึงกรณีที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ออกมาระบุว่ามีพื้นที่ล่อแหลม 68 จุดในกรุงเทพฯ ว่า

ขณะนี้ได้ใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นหลัก โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารไปตั้งจุดตรวจร่วมในหลายพื้นที่ สำหรับพื้นที่ 68 จุดที่บช.น. ระบุไว้ คงมีการพิจารณาแล้วเห็นว่ามีความล่อแหลม อาทิ คลังน้ำมัน พื้นทีที่ประชาชนไปใช้บริการอย่างหนาแน่น


ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้สิ่งที่ศอฉ. กังวลคือการก่อวินาศกรรม หรือลอบทำร้ายบุคคลสำคัญ พ.อ. สรรเสริญกล่าวว่า ศอฉ. ต้องมองภาพรวมของประชาชนเป็นหลัก และคำนึงถึงความปลอดภัยในพื้นที่ต่างๆ ส่วนความปลอดภัยของผู้นำนั้น มีหน่วยงานที่คอยดูแลอยู่แล้ว เมื่อถามว่า หน่วยงานด้านการข่าวพบความเคลื่อนไหวใต้ดินเพื่อคาร์บอม์บนายกฯ หรือไม่ พ.อ. สรรเสริญกล่าว่า ไม่มีการระบุรายละเอียดขนาดนั้นในที่ประชุมศอฉ.


ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาเคยถูกโทรศัพท์มาข่มขู่ว่าจะทำร้ายบ้างหรือไม่ พ.อ. สรรเสริญกล่าวยอมรับว่า ก็มีบ้าง มีโทรมาขู่ฆ่า

แต่ก็รู้สึกเฉยๆ เพราะเกิดมาไม่เคยกลัวใคร เช่น มีการส่งข้อความสั้น (เอสเอ็มเอส) มาด่าตนว่า "ไอ้สัตว์" ก็เลยโทรศัพท์กลับไปบอกว่า "ขอบพระคุณที่กรุณาให้โอกาสให้ผมเลือกได้ว่าจะเป็นอะไร ถ้าด่าผมว่าอย่างอื่น ผมคงลำบาก" ทั้งนี้ตนไม่สนใจกับคำขู่ เวลามีโทรศัพท์พวกนี้มาก็จะเปิดลำโพง และทำงานไปตามปกติ ไม่ได้ตัดสายทิ้ง เพราะต้องการให้คนเหล่านี้ได้ระบาย จะได้ลดความเครียด


"ทุกวันนี้ผมก็ยังเดินห้างได้ตามปกติ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลา เลยไม่ได้ไป แต่ไม่ใช่เพราะกลัว ข้าราชการทุกคนทำตามหน้าที่ ถ้าวิตกกังวล และกลัวในสิ่งที่เราทำตามหน้าที่ ชาตินี้คงไม่ต้องทำอะไร แต่ที่พูดนี่ไม่ใช่ท้าทายอะไร หรือประมาท แต่เกิดมาไม่เคยกลัวใคร และเชื่อว่าข้าราชการทุกคนก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน" พ.อ. สรรเสริญกล่าว 


ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยร้องเรียนว่าถูกศอฉ. นำหมายเรียกให้ไปรายงานตัวไปติดไว้ที่หน้าบ้าน ทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น พ.อ. สรรเสริญกล่าวว่า

ตนไม่มั่นใจในรายละเอียด แต่ช่วงเวลาที่เกิดเหตุค่อนข้างสับสน เราคงไม่สามารถแยกแยะในขั้นต้นว่าใครถูกหรือผิด หากบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความรุนแรงก็ไปแสดงตน และอธิบายความตามข้อเท็จจริง ผู้สื่อข่าวถามว่า ถือว่าศอฉ. ทำงานผิดพลาดหรือไม่ พ.อ. สรรเสริญ กล่าวว่า คงมองอย่างนั้นไม่ได้ เพราะทุกฝ่ายต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจและชี้แจงข้อเท็จจริง ขอยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่การเหวี่ยงแห เพราะเป็นการเลือกปิดหมายเรียกในบางบ้าน ไม่ใช่ทุกบ้าน แสดงว่าเจ้าหน้าที่ต้องมีข้อมูลเบื้องต้น


พ.อ. สรรเสริญ กล่าวถึงกรณีศอฉ. ระบุมีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายล้มสถาบัน 27 ราย ว่า  เรื่องนี้ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ ที่ประชุมศอฉ. ไม่ได้หารือถึงเรื่องรายละเอียดทั้ง 27 คน แต่เป็นกลุ่มที่มีความสอดคล้องกับเครือข่ายล้มสถาบันที่ศอฉ. เคยนำแผนผังออกมาแสดงก่อนหน้านี้


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์