เวทีปรองดองเดือด! เสธ.หนั่นถามบิ๊กบัง เปรมรู้เห็นปฏิวัติหรือไม่

เวทีปรองดองเดือด! เสธ.หนั่นถามบิ๊กบัง เปรมรู้เห็นปฏิวัติหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 มีนาคม บรรยากาศเสวนารายงานวิจัยการสร้างความปรองดองแห่งชาติของสถาบันพระปกเกล้า

โดยมีหัวหน้าพรรคการเมืองผู้แทนพรรคการเมือง คณะทูตานุทูตจาก 25 ประเทศ สื่อมวลชนร่วมรับฟังการเสวนาเป็นไปอย่างดุเดือด เมื่อ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ลุกขึ้นตั้งคำถาม 3 ข้อถึง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ว่า 1.ใครคือผู้อยู่เบื้องหลังการปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 ไม่เช่นนั้นสังคมจะคลางแคลงใจว่าอำมาตย์ ผู้มีบารมีเหนือรัฐธรรมนูญเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง 2.พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นผู้นำท่านเข้าเฝ้าฯใช่หรือไม่ และ พล.อ.เปรมรู้เห็นกับการปฏิวัติหรือไม่ และ 3.พล.อ.เปรมได้ขอร้อง พล.อ.สนธิให้ออกมาพูดความจริงกับเหตุการณ์ปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 โดยผ่าน พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ 2 ครั้งใช่หรือไม่ และได้พูดความจริงตามร้องขอหรือไม่


จากนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้โอกาส พล.อ.สนธิตอบ 3 คำถามของ พล.ต.สนั่นก่อน
 
แต่ พล.อ.สนธิไม่ประสงค์จะตอบคำถาม นายอภิสิทธิ์กล่าวตอนหนึ่งว่า ผู้ทรงคุณวุฒิ 47 คนที่คณะวิจัยไปสัมภาษณ์ หลายคนถูก คตส.ดำเนินคดี ไม่แปลกใจคนเสนอให้ล้ม คตส. จะเป็นคนคนเดียวกันกับคนที่คตส.ส่งให้ดำเนินคดี ตนทราบเพราะว่าตนได้กรอกแบบสอบถาม และทราบว่ามี 1 คนเสนอ แต่ก็ใส่เป็นทางเลือก แต่มี 10 คนบอกว่ากระบวนการ คตส.เดินต่อไปตามปกติ แต่คณะผู้วิจัยไม่รับเป็นข้อเสนอเป็นทางเลือก แต่ 1 คนที่เสนอให้ล้มคดีคตส. สันนิษฐานว่ามีส่วนได้เสียบอกว่าขอให้มีทางเลือก แต่คณะผู้วิจัยก็ใส่มาเป็นทางเลือกด้วย ดังนั้นขอให้ทบทวนข้อเสนอด้วย เพราะถ้าไม่ทบทวน แล้วกมธ.ไปสรุปว่าเสียงข้างมากขอเลือกทางเลือก 3 กรณี คตส.ให้เพิกถอนผลทางกฎหมายดำเนินการโดย คตส.ทั้งหมด และไม่นำคดีอยู่ระหว่างตัดสินไปแล้วและระหว่างพิจารณานำมาพิจารณา หรือเลือกทางเลือกที่ 2 กรณีนิรโทษกรรม โดยอ้างเสียงข้างมากแล้วส่งให้สภาลงมติหรือส่งให้รัฐบาลนำไปใช้ อย่างนี้ปรองดองหรือไม่ ถ้าตอบว่าไม่ปรองดอง ตนก็จะบอกว่าใครคิดทำอย่างนี้คือคนขัดขวางกระบวนการปรองดองอย่างแท้จริง


พล.อ.สนธิกล่าวในช่วงท้ายว่า คำถามที่ถามตนในช่วงแรก ตนรู้สึกละอายตัวเอง สถาบันสอนให้มีความรัก เข้าใจ จงรักภักดีต่อชาติบ้านเมืองอย่างยิ่งที่สุดในชีวิต

คำถามนี้ไม่ควรมาถามตน เช่นเดียวกับที่คณะผู้วิจัยของสถาบันพระปกเกล้า คำถามบางประการตายแล้วก็ตอบไม่ได้ ดังนั้น เรื่องบางเรื่องเมื่อถึงเวลาจะปรากฏขึ้นมาเอง


พล.อ.สนธิกล่าวภายหลังการเสวนา ถึงความเป็นไปได้ในการทำความเข้าใจกับประชาชนกรณีเหตุการณ์ 19 กันยายน 2549 ตามที่ พล.ต.สนั่นเรียกร้อง ว่า ไม่อยากรื้อฝอยหาตะเข็บในสิ่งที่ขัดแย้ง ถ้าต้องการสร้างความปรองดองต้องยึดหลักการให้อภัย ลืมอดีตบ้าง ไม่เช่นนั้นสังคมไทยจะย้อนยุคสู่ความขัดแย้งมากขึ้น ต้องมองข้ามไปบ้าง เพื่อความปรองดอง อะไรไม่ควรพูดก็อย่าพูด เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าขณะนี้ไม่พร้อมจะพูดถึงเรื่องต่างๆ ในอดีตแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า คิดว่าคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) น่าจะเข้าไปตรวจสอบอยู่


ด้านนายอุดม เฟื่องฟุ้ง อดีต คตส. กล่าวว่า ในฐานะอดีตนักศึกษาสถาบันพระปกเกล้ารุ่นที่ 2

สงสัยว่าสถาบันพระปกเกล้าจะไปทำงานแบบนี้ได้ไหม เพราะสถาบันพระปกเกล้าตั้งขึ้นมาเพื่อสนองต่อพระราชดำรัสของรัชกาลที่ 7 ที่สร้างประชาธิปไตยให้ถึงประชาชน ด้วยการทำงานวิจัย สร้างหลักวิชา ทั้งด้านการปกครอง การเมืองและเศรษฐกิจ ตนไม่แน่ใจว่าคนที่เข้ามาอยู่ในสถาบันพระปกเกล้าภายหลัง เข้าใจถึงตรรกะดังกล่าวหรือไม่ ตนยังไม่ได้เจอกับนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า แต่อยากฝากไปถามว่าการที่คนบางกลุ่มไปทำงานรับใช้นักการเมือง แล้วมาอ้างชื่อสถาบันพระปกเกล้าที่อาศัยพระนามของรัชกาลที่ 7 ไปใช้ เป็นเรื่องที่ใช้ได้และถูกต้องตามตรรกะการก่อตั้งของสถาบันพระปกเกล้าหรือไม่


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภา ทำหน้าที่ประธานประชุม โดยที่ประชุมรับทราบเรื่องประธานสภาอนุญาตให้ กมธ. ปรองดองชุด พล.อ.สนธิ ขยายเวลาการพิจารณาออกไปอีก 30 วัน ตามข้อบังคับการประชุม ข้อ 98 วรรค 2


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์