เต้น อัด สุเทพ-ปชป.กล่าวหา พท.โกงเลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ แกนนำ นปช. ได้โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า พี่น้องมวลมหาประชาชนครับ การที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และพรรคประชาธิปัตย์ ปฏิเสธการเลือกตั้งโดยอ้างว่าเลือกไปก็แพ้อีก เพราะเพื่อไทยมันโกง มันใช้เงินซื้อเสียงประชาชน ฟังเร็ว ๆ บางคนเผลอเชื่อ แต่ลองพิจารณาจากความจริงต่อไปนี้ครับ

จะโกงเลือกตั้งระดับ ชาติได้อย่างน้อยต้องมี 2องค์ประกอบสำคัญ คือ อำนาจรัฐและกติกาที่เอื้อประโยชน์ให้ ตั้งแต่ปี 2544 ที่พรรคไทยรักไทยลงสนามครั้งแรกมีการเลือกตั้งทั้งหมด 4 ครั้ง มีปี 2548 เพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่เป็นรัฐบาลรักษาการณ์ ส่วนอีก 3 ครั้งคือ 1.ปี 44 รัฐบาลนายชวน หลีกภัย ซึ่งผลคือพรรคไทยรักไทยชนะ 2.ปี 50 รัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ใช้รัฐธรรมนูญ 50 ซึ่งฝ่ายปฏิวัติร่างเองตามแผนบันได 4 ขั้นของ คมช.ที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประกาศว่ารัฐบาลหลังเลือกตั้งต้องเป็นขั้วตรงข้ามกับไทยรักไทย ถือว่าทั้งอำนาจรัฐ ทั้งกติกาเป็นของฝ่ายตรงข้าม ผล พลังประชาชน ชนะ

3.ปี 54 รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีการแก้รัฐธรรมนูญเรื่องแบ่งเขตเลือกตั้งและบัญชีรายชื่อใหม่(เพราะแบบเดิม แพ้มาแล้ว) วิญญูชนทั่วไปเข้าใจได้เลยว่ากติกานี้เพื่อรุมเพื่อไทยให้แพ้เลือกตั้ง เป็นอีกครั้งที่อำนาจรัฐและกติกาเป็นของฝ่ายตรงข้าม ผล เพื่อไทยชนะร้อยกว่าที่นั่ง

ถ้าพูดเรื่องใช้เงิน นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์เองในรายการเจาะข่าวตื้นว่า เลือกตั้งครั้งล่าสุดประชาธิปัตย์น่าจะใช้เงินมากกว่าด้วยซ้ำ จึงไปอ้างว่าแพ้เพราะเงินไม่ได้ คลิปมีในยูทูปเปิดนาทีที่ 32 เหตุผลจริงๆ ไม่ใช่เรื่องโกงอะไรหรอก เป็นเรื่องของคนที่แพ้ติดต่อกันมา 21 ปีแล้วหาคำตอบไม่เจอว่าจะชนะใจประชาชนอย่างไร จึงฉวยเอาโอกาสนี้ล้มรัฐบาล

ส่วน ที่ประกาศปฏิวัติประชาชนไปจนถึงมาตรา 7 ก็เพื่อใช้อำนาจนอกระบบจัดการเพื่อไทยให้แหลกเสียก่อน เวทีการเมืองจะได้เหลือแต่ประชาธิปัตย์กับพรรคเล็กพรรคน้อย ตัวเองจะได้กลับมาเล่นบทเชื่อมั่นระบบรัฐสภาอีกครั้งหลังจากทำลายคู่แข่ง แล้ว ไม่แปลกใจหรือที่พรรคการเมืองนี้ประกาศนำประเทศไปสู่ประชาธิปไตย โดยใช้วิธีเผด็จการทุกรูปแบบ.