เติ้งหวั่นนายกฯยุบสภาหนีปัญหา สั่งลูกพรรคชทพ.เตรียมเลือกตั้ง

"เติ้ง"หวั่น"มาร์ค"ยุบสภาหนีปัญหา สั่งลูกพรรค ชทพ.เตรียมพร้อมเลือกตั้งใหม่ วิปยกร่างแก้รัฐธรรมนูญเสร็จเรียบร้อย ส่งเรื่องให้ ครม.ทำประชามติแก้ รธน. 6 ประเด็น ประธานวิป รบ.ได้ทีทำหนังสือตื๊อฝ่ายค้านร่วม เผย กก.กฎหมายเสนอ 3 ตัวอย่างคำถามให้พิจารณา แต่ที่ประชุมหวั่นถูกขยายความ โยน ครม.ตัดสินใจเอง


ที่ประชุมคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมรัฐบาล คณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภาหรือวิปวุฒิสภา

และคณะกรรมการกฎหมายเพื่อยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เมื่อบ่าย วันที่ 26 พฤศจิกายน มีมติดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อส่งเรื่องให้คณะรัฐมนตรี (ครม.)ตัดสินใจจัดทำประชามติ ในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 6 ประเด็น ตามการศึกษาของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและแก้ไขรัฐธรรมนูญ


ทั้งนี้ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล แถลงผลการประชุมร่วมกับวิปวุฒิฯ  ประกอบด้วย

นายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร นางนฤมล สิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ นายวันชัย แสงสุขเอี่ยม ส.ว.สรรหา พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์ ส.ว.สุราษฎร์ธานี ว่า วันนี้ถือว่ากระบวนการยกร่างทั้งหมด เสร็จสิ้นแล้วทั้งในส่วนของประเด็นและถ้อยคำ จากนี้ไปที่ประชุมร่วมของวิปฯจะส่งข้อสังเกตให้คณะกรรมการกฎหมายฯ เพื่อให้ทำเป็นบันทึกประกอบการรายงานให้เสร็จใน 7 วัน จากนั้นคณะกรรมการกฎหมายฯ จะส่งรายงานให้เลขาธิการสภา เพื่อให้ประธานสภาฯ พิจารณา และส่งให้ ครม. เพื่อดำเนินการจัดทำประชามติต่อไป


นายชินวรณ์กล่าวว่า จะให้เลขานุการวิปรัฐบาล ทำหนังสือประสานวิปฝ่ายค้าน และจะเจรจาส่วนตัวกับวิปฝ่ายค้านเพื่อให้กลับมาร่วมมือกันลงชื่อในญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญหลังจากจัดทำมติเสร็จแล้ว

เพราะถือว่า เป็นจุดเริ่มเพื่อการปฏิรูปการเมืองและความสมานฉันท์ ขอให้สื่อถามวิปฝ่ายค้านในเรื่องนี้ด้วย เพราะทุกฝ่ายกำลังรออยู่ 
ประธานวิปรัฐบาลกล่าวว่า ที่ประชุมวันนี้ไม่ได้พิจารณาคำถามในการทำประชามติ เนื่องจากประธานสภาฯไม่ได้มีคำสั่งให้พิจารณาเรื่องนี้ และเรื่องประชามติเป็นอำนาจของ ครม.และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องไปดำเนินการ ซึ่งตอนนี้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามตินั้นได้ส่งกลับมาที่สภาเรียบร้อยแล้ว และกำลังดำเนินการเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ


รายงานข่าวแจ้งว่า คณะกรรมการกฎหมายฯเสนอคำถามการจัดทำประชามติให้ที่ประชุมครั้งนี้พิจารณาด้วย โดยตัวอย่างคำถาม

อาทิ "ท่านเห็นด้วยหรือไม่ กับที่มาของ ส.ส.แบบแบ่งเขต เขตเดียวเบอร์เดียว 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อเขตประเทศ 100 คน" "ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการให้ ส.ส.เป็นข้าราชการการเมืองได้ ได้แก่ ที่ปรึกษา เลขานุการ และผู้ช่วยรัฐมนตรี" "ท่านเห็นด้วยหรือไม่ ที่ให้ ส.ส. สามารถมีหนังสือถึงราชการให้ช่วยเหลือประชาชน" แต่ที่ประชุมเห็นว่า ไม่อยู่ในอำนาจ และหากสื่อมวลชนนำเสนอเรื่องนี้ต่อสาธารณะ จะถูกนำไปขยายความ และเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างมากมาย จึงเห็นว่า ให้เป็นอำนาจของ ครม. ในการพิจารณา


รายงานข่าวจากพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) แจ้งว่า เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย

ร่วมหารือกับแกนนำพรรค อาทิ นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค ชทพ. นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล นายประภัตร โพธสุธน เพื่อประเมินสถานการณ์ทางการเมือง โดยเฉพาะช่วงที่เปิดการประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไปกลางเดือนมกราคม 2553 ซึ่งฝ่ายค้านสามารถยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีได้ โดยที่ประชุมเห็นว่า หากมีอะไรเกิดขึ้น เชื่อว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเลือกวิธียุบสภาเพื่อเปลี่ยนแปลงทางการเมือง


"นายบรรหารเห็นว่า นายชุมพลและพรรค ควรเตรียมความพร้อมในการลงสู่สนามเลือกตั้ง ทำให้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการร่างนโยบายและแผนการทำงานของพรรคขึ้น และให้เริ่มเตรียมความพร้อมโดยสั่งเช็คขุมกำลัง ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยในเดือนมกราคม 2553 จะเริ่มเดินสายลงพื้นที่ 4 ภาค คือ 1.ภาคใต้ จ.นราธิวาส 2.ภาคอีสาน จ.อุบลราชธานี 3.ภาคกลาง จ.นครสวรรค์ และ 4.ภาคเหนือ จ.พิจิตร นอกจากนี้ มีสมาชิกพรรคเสนอให้พรรคปรับเปลี่ยนสัญลักษณ์พรรค เพราะของเดิมไม่โดดเด่นทำให้พรรคดูเหมือนจะเงียบเหงาซบเซาไป จึงมอบให้คณะทำงานไปพิจารณาว่าจะปรับเปลี่ยนเป็นแบบใด และนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สามัญพรรคเพื่อเปลี่ยนโลโก้พรรคต่อไป" แหล่งข่าวกล่าว


ทางด้านนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม. นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันแถลงที่รัฐสภาว่า วิปรัฐบาลได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา และ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานรัฐสภา

โดยขอให้ พ.อ.อภิวันท์แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากมีพฤติกรรมและการกระทำไม่เหมาะสม เช่น วันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ไปขึ้นเวทีเสื้อแดงที่ จ.สมุทรปราการ  โจมตีให้ร้ายบุคคลสำคัญ อาทิ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีที่ดินเขายายเที่ยง
นอกจากนี้ ยังพูดคำผวนโดยนำใบหน้านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไปเปรียบเทียบกับอวัยวะเพศผู้หญิง รวมถึงโจมตีการบริหารงานของรัฐบาล ถือว่าไม่เคารพกลไกการตรวจสอบในระบบรัฐสภา และยังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนำคนเสื้อแดงก่อความวุ่นวายหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2550  และขาดการประชุม ร่วมสองสภา เพื่อไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศเขมร เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา 


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์