สพรั่ง เตือนการเมืองอย่าดึงฟ้าต่ำ

พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร เป็นประธานในพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ในงาน รวมใจภักดิ์ รักในหลวง


เช้าวันที่ 1 ก.ย. ที่อาคารอิมแพ็ค ชาเลเจอร์ เมืองทองธานี พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วย ผบ.ทบ.และผู้ช่วยเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ได้เป็นประธานในพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ในงาน “รวมใจภักดิ์ รักในหลวง” จากนั้น พล.อ.สพรั่งกล่าวถึงการจัดงานรวมใจภักดิ์ รักในหลวงว่า ถือเป็นโครงการที่เกี่ยวข้องกับชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ เป็นสิ่งที่มีประโยชน์สูงสุด ในช่วงที่บ้านเมืองกำลังสับสนและขาดที่พึ่งทางใจ อุดมการณ์ของคนในชาติกำลังจะเกิดขึ้นในระยะหลังๆที่ผ่านมา เพราะประชาชนไปพึ่งในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ความมั่นคงของชาติเป็นหน้าที่ของคนทุกคน ไม่ใช่เฉพาะแต่ คมช. หาก คมช.เข้ามารับภาระในช่วงสั้นๆ เราได้คำนึงถึงสิ่งที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชาติเป็นสำคัญ ถือว่าการจัดงานนี้เป็นการสร้างจิตสำนึก

เมื่อถามว่าการสร้างจิตสำนึกของคนในชาติจะมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะใกล้ถึงวันเลือกตั้ง พล.อ.สพรั่งตอบว่า

อย่าเอากิจกรรมทางการเมืองมาเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาติ อยากให้ช่วยกันแยกแยะ บางกิจกรรมของ คมช.อาจวิจารณ์ได้ แต่ถ้าพูดถึงความรักอุดมการณ์รักชาติ อย่าเอาไปเกี่ยวข้องกับการเมือง เพราะการเมืองเป็นเรื่องสกปรก และจะทำให้คนในชาติเกิดความสับสน


จวกยับพวกลิ่วล้อที่คอยต่อต้าน คมช.


เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรให้การเมืองขาวสะอาด พล.อ.สพรั่งตอบว่า เราคงไม่มีอิทธิพลมากมายที่ทำให้ บ้านเมืองขาวสะอาด แต่คิดว่าจิตสำนึกของคนทุกคน ที่มีความพร้อมที่จะช่วยกันประคับประคองชาติบ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง ข้าราชการ ประชาชน ที่พอจะดูแลสังคมน่าจะมีส่วนช่วย ทาง คมช.เพียงแต่กระตุ้นให้ เกิดความมั่นใจว่า กองทัพยังถือภารกิจที่จะทำให้บ้านเมืองสงบเป็นภารกิจหลักโดยไม่เปลี่ยนแปลง แต่ความสำเร็จสูงสุดขึ้นอยู่กับประชาชนทุกคน เมื่อถามว่านักการเมืองขณะนี้น่าจะเป็นที่พึ่งของประชาชนได้หรือไม่ พล.อ.สพรั่ง ตอบว่า นักการเมืองเป็นกลุ่มแรกที่อาสาเข้ามาดูแล และที่จะเข้าไปทำกิจกรรมในสภาฯ รวมถึงในฐานะที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาลและฝ่ายค้าน ข้าราชการก็จะสนองตอบนโยบายอยู่แล้ว เมื่อถามว่า 1 ปีที่ผ่านมาของ คมช. พอใจกับการทำงานหรือไม่ พล.อ.สพรั่งตอบว่า วันนี้มาเปิดงาน ถ้าตอบไปก็จะไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มต่อต้าน ที่ชอบคัดค้านคมช. แต่คนพวกนี้ไม่เคยคัดค้านความชั่ว


ไม่อยากต่อปากต่อคำกับพวกไร้สาระ


เมื่อถามว่า ในวันที่ 19 ก.ย.นี้ จะครบรอบ 1 ปีของการปฏิรูปอาจจะสูญเปล่าหรือไม่ เพราะไม่สามารถนำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มาดำเนินคดีได้ พล.อ. สพรั่งตอบว่า จะสูญเปล่าได้อย่างไร ไม่อยากมานั่งเล่นวาทะกัน คนที่ไม่รู้แต่ชอบชี้ ชอบชักใบให้เรือเสีย กวนน้ำให้ ขุ่น อย่าเอามาเป็นสาระและให้ความสำคัญ


“ไม่มีอะไรที่สูญเปล่า ก็ไม่อยากบอกว่าผลงานของ คมช.มีความสำเร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่อย่างน้อย คมช.ก็ทำให้บ้านเมืองที่กำลังจะเกิดความวุ่นวายให้กลับมาสู่ความเรียบร้อย และได้เป็นบทเรียนของประชาชนในชาติว่า ตราบใดที่การเมืองและนักการเมืองที่ไม่ได้ทำเพื่อชาติบ้านเมือง แต่อ้างประชาชนและทำชั่ว ก็อย่ามาโทษทหาร เมื่อถึงเวลาวิกฤติก็มาเรียกร้องให้ทหารออกมาช่วย แต่พอทำอะไรไม่ถูกใจของบางคนบางกลุ่มก็ออกมาต่อต้าน ประชาชนควรใช้ดุลพินิจว่าคนที่ออกมาพูดอาจเป็นคนที่ไม่ดี และคนที่ทำอะไรเงียบๆ อาจจะเป็นคนรักชาติบ้านเมืองและมีเกียรติมากกว่าคนที่ออกมาพูด” พล.อ.สพรั่งกล่าว


คมช.เตรียมแถลงผลงานรอบ 1 ปี

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก คมช. กล่าวว่า ในวันที่ 3 ก.ย. จะมีการประชุม คมช. โดยในที่ประชุมจะมีการรวบรวมผลงานและข้อมูลของ คมช. ในรอบ 1 ปี ที่ผ่านมา เพื่อเตรียมนำมาแถลงผลงานในวันที่ 19 ก.ย. แต่ทั้งนี้การทำงานของ คมช.ครบรอบ 1 ปี และการสิ้นสุดเป็นภารกิจที่ใกล้เคียงกัน อาจจะมีการแถลงผลงานขึ้นอีกครั้ง แต่อาจเลื่อนเป็นหลังวันที่ 19 ก.ย.ก็ได้ เมื่อถามว่า เวลาเหลือน้อยของ คมช.แต่ยังไม่สามารถดำเนินการ กับ พ.ต.ท.ทักษิณได้ พ.อ.สรรเสริญตอบว่า นักการทหารจะไปทำอะไรได้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขบวนการยุติ-ธรรม ถ้า คมช.เราเข้าไปแทรกแซงเร่งรัดให้มีความรวดเร็วก็จะไม่ดี เราต้องการให้ขบวนการยุติธรรมตรวจสอบ เขาก็มีกำหนดระยะเวลาของเขาอยู่แล้ว


พร้อมส่งมอบงานให้รัฐบาลชุดใหม่


เมื่อถามว่า ถ้า คมช.สิ้นสุดการทำงานองค์กรต่างๆก็ต้องสิ้นสุดลงไปด้วย หาก พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาแล้วใครจะดูแลเรื่องนี้ พ.อ.สรรเสริญตอบว่า เมื่อมีการเลือกตั้งต้องมีรัฐบาลชุดใหม่ คมช.ก็จะหมดภาระหน้าที่ และจะเป็นภาระหน้าที่ของรัฐบาลชุดใหม่ต่อไป เมื่อถามย้ำว่า ถ้า คมช.ทำงานไม่เสร็จจะยกภาระให้รัฐบาลชุดใหม่สานต่อใช่หรือไม่ พ.อ.สรรเสริญตอบว่า ถูกต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลชุดใหม่ เพราะขบวนการทั้งหลายมีความเกี่ยว-ข้องและสัมพันธ์กันทั้งการบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ เมื่อถามว่า หากปล่อยให้เป็นเช่นนั้นเหตุการณ์จะย้อนกลับไปเหมือนวันก่อน 19 ก.ย.49 ใช่หรือไม่ พ.อ. สรรเสริญตอบว่า บ้านเมืองไม่ใช่ของ คมช.คนเดียว เราเพียงแต่มีหน้าที่ในการหยุด เมื่อหยุดได้เรียบร้อยแล้วทุกอย่างก็จะต้องกลับเข้าไปสู่ขบวนการ หากว่าเราจะไปจัดการรายละเอียดทั้งหมด จะต้องมีคนที่ถูกใจและไม่ ถูกใจ เราต้องวางบทบาทให้อยู่ในกรอบของกฎหมายและกติกาของสังคม


จะให้พลิกหน้ามือเป็นหลังมือคงยาก


เมื่อถามว่า ถ้ากลุ่มอำนาจเก่ากลับมาเป็นรัฐบาลจะทำอย่างไร พ.อ.สรรเสริญตอบว่า การเลือกตั้งประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจ ตกลงใจว่าจะเลือกใคร วันนั้นยังมาไม่ถึงว่าใครจะได้รับเลือกตั้ง อาจจะเป็นพรรคการเมืองอื่นๆก็ได้ ผลการเลือกตั้งออกมาอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น เมื่อถามว่า จะมั่นใจได้อย่างไรว่าถ้าพรรคการเมืองอื่นเข้ามาเป็นรัฐบาลแล้วจะสานงานของ คมช.ต่อไปได้ พ.อ. สรรเสริญตอบว่า ทุกคนมีหน้าที่ของความเป็นคนไทย คมช.จะไปจัดระบบคงไม่ได้ เมืองไทยเคยผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายปี ผ่านปัญหาต่างๆ มามากมายก็สามารถดำเนินไปได้ วันนี้จะให้ คมช.มาพลิกหน้ามือเป็นหลังมือคงยาก ถือเป็นหน้าที่ของทุกคนต้องช่วยกัน ทุกคนรู้ว่าสิ่งไหนดีไม่ดี และควรจะเลือกคนอย่างไรเข้ามาเป็นรัฐ-บาล และคนอย่างไรไม่ควรเลือกมากกว่า


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์