ผบ.ตร.แถลงจับ 13 วิทยุชุมชนคนเสื้อแดง ทำผิด กม. ปัดรับใบสั่ง รบ.


ที่กองบินตำรวจ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันแถลงข่าวกรณีชุดเฉพาะกิจของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) จับกุมวิทยุชุมชน 13 คลื่นในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล

พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า ตนแถลงข่าวในนามศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย( ศอ.รส.) การไปดำเนินการจับกุมวิทยุชุมชนนั้น เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า มีวิทยุชุมชนกระจายเสียงสร้างความขัดแย้งในสังคม และนำคำปราศรัยของกลุ่มเสื้อแดงที่เข้าข่ายหมิ่นสถาบันมาเผยแพร่ซ้ำ จึงได้ประสานกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน( กอ.รมน.) ตรวจสอบพบ 14 สถานี มีพฤติกรรมดังกล่าวจริง รวมถึงบางสถานีมีการตั้งวิทยุชุมชนโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงได้ประสานให้ทาง บช.ก. โดย พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบช.ก.เป็นหัวหน้าชุดนำกำลังเข้าจับกุมพร้อมกันทั้ง 14 สถานี มีหนึ่งสถานีที่ปิดไปแล้วทำให้จับกุมได้ 13 สถานี


พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวต่อว่า มีสถานีวิทยุชุมชน 3 สถานี ที่มีการต่อต้านจากกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดง จนไม่สามารถยึดเครื่องกระจายเสียงซึ่งเป็นของกลางได้ ประกอบด้วย 1.สถานีวิทยุชุมชนคนไทยหัวใจเดียวกัน คลื่นความที่ 89.85 เมกะเฮิร์ตซ์ ตั้งอยู่ที่ตลาดวงศกร ซอยสายไหม 19 2.สถานีวิทยุชุมชนคนไทยหัวใจเดียวกันคลื่นความถี่ 102.75 เมกะเฮิร์ตซ์ ตั้งอยู่อาคารวังหินเพลส 3.สถานีวิทยุชุนชนมวลชนคนลำลูกกา คลื่นความถี่ 96.35 เมกะเฮิร์ตซ์

"ขอยืนยันว่า การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นไปตามพยานหลักฐานไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือทำตามคำสั่งของรัฐบาล"พล.ต.อ.วิเชียร กล่าว และว่า 3 สถานีวิทยุชุมชนที่ตำรวจไม่สามารถยึดของกลางได้นั้น จะดำเนินการเพื่อดำเนินการจับกุมอีกครั้ง หากมีประชาชนที่ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย


ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุใดเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้มงวดจับกุมในช่วงนี้ซึ่งใกล้ยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนเรื่องนี้มานานแล้ว ตรวจสอบพบว่ามีความผิดจริงตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา ซึ่งสาเหตุการกระทำผิดอาจเป็นไปได้หลายอย่าง รวมถึงเป็นการกระทำเพื่อหวังผลทางการเมืองปลุกระดมประชาชนไปในทางที่ผิดเพื่อผลประโยชน์ในการเลือกตั้ง และหากการสทบสวนขยายผลพบว่ามีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องก็จะมีผลต่อใบเหลืองและใบแดงในอนาคต


เมื่อถามว่า มีสถานีวิทยุชุมชนอื่นๆ ที่เข้าข่ายผิดกฎหมายอีกหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ก็ต้องมีการตรวจสอบต่อไป โดยเฉพาะสถานีวิทยุชุมชนในภาคเหนือ อีสานและภาคใต้ ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า มีผู้ดำเนินรายการ 2 ราย จาก 14 คลื่นที่เคยมีหลายจับในข้อหาหมิ่นเบื้องสูง โดยเป็นหมายจับของ ศอฉ. และมาทำซ้ำอีกจนถูกจับกุมครั้งนี้ นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังจับตาเว็บไซด์ อีก 326 เว็บไซต์ ที่อาจมีการโพสต์ข้อความ บทความที่เข้าข่ายหมิ่นสถาบัน


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์