ประมวลความเคลื่อนไหวข่าวทักษิณกลับไทย

เมื่อวันที่ 26 ก.พ. ในเว็บไซต์สำนักข่าวพระสงฆ์ไทย

http://www.yuwasong.com  มีการเผยแพร่ข้อความเชิญชวนให้ชาวพุทธไปให้การต้อนรับการกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 28 ก.พ. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งยังเชิญชวนให้พระสงฆ์ที่เป็นเครือข่ายของยุวสงฆ์ทั่วประเทศสวดเจริญชัยมงคลคาถาต้อนรับอยู่ที่วัดของตนเองด้วย

ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศให้สัมภาษณ์ถึงข่าวที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับประเทศไทยว่า

ล่าสุด ยังไม่ทราบความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะหลังจากที่ตนกลับจากจีนแล้วก็ไม่ได้คุยเรื่องนี้กันอีก แต่เท่าที่คุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ปักกิ่งวันที่ 24 ก.พ. นั้น พ.ต.ท.ทักษิณยืนยันว่าจะออกแถลงการณ์กลับประเทศไทย   ในวันที่ 26 ก.พ. ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะเดินทางกลับตามที่อดีตนายกรัฐมนตรีแถลง หลังจากออกแถลงการณ์แล้วคงจะเดินทางกลับประเทศไทยภายใน 1-5 วันนี้ ซึ่ง น.ส. ศันศนีย์ นาคพงศ์ อดีตรองโฆษกรัฐบาลคงจะทราบรายละเอียดมากกว่าตน

นายนพดลเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับด้วยเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวและลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนการเดินทางไปฮ่องกงของนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตร พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ตนไม่ทราบเรื่อง


วันเดียวกัน นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า  พันธมิตรฯ จะประเมินสถานการณ์กันวันต่อวัน โดยวันไหนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยเมื่อใด พันธมิตรฯจะประชุมเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ทันที แต่จะไม่มีการไปต่อต้านหรือขับไล่ที่สนามบิน อย่างไรก็ตามหากมีพฤติการณ์ที่เข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม พันธมิตรฯก็จะมีมาตรการทันที ซึ่งอาจจะรวมถึงไปถึงการชุมนุม ทั้งนี้เรายังยืนยันจะเคลื่อนไหวด้วยหลักสันติ-อหิงสา และจะไม่ให้เกิดความรุนแรงอย่างแน่นอน

ด้าน พล.อ.อนุพงษ์  เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมการในการรักษาความปลอดภัยพ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่จะเดินทางกลับประเทศไทยว่า

เป็นความรับผิดชอบของตำรวจโดยตรง ทหารไม่มีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการในเรื่องนี้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีการร้องขอกำลังทหารมา รวมทั้งยังไม่มีการหารือการรักษาความปลอดภัย สถานการณ์ตอนนี้ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงถึงขั้นต้องเตรียมอะไรเป็นพิเศษ ทุกอย่างน่าจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และการกลับมาของพ.ต.ท.ทักษิณครั้งนี้ไม่น่าจะส่งผลให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง


เมื่อถามว่า การที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะออกมาเคลื่อนไหวเพื่อคัดค้านการกลับมาของพ.ต.ท.ทักษิณ จะทำให้เกิดการเผชิญหน้ากันหรือไม่

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เรื่องการเผชิญหน้ากันไม่น่าจะเกิดขึ้นในขณะนี้  เพราะต่างคนต่างแสดงจุดยืน
จึงไม่น่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ทั้งนี้ตนไม่ทราบประเด็นว่าการออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ เพื่อแสดงจุดยืนอะไร
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า  การกลับมาครั้งนี้เป็นการกลับมาเพื่อต่อสู้คดี หากมาในลักษณะนั้นทุกคนต้องยอมรับเพราะเขามาต่อสู้เพื่อสิทธิ เนื่องจากมีฝ่ายหนึ่งกล่าวหา ดังนั้นจึงต้องมาต่อสู้คดี
                


เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่ว่าจะมีมือที่ 3 สร้างสถานการณ์ความวุ่นวาย พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ทุกคนต้องระวังในเรื่องมือที่ 3 เพราะอาจจะไม่ดีสำหรับพวกเรา

ดังนั้นต้องระวัง เมื่อถามว่า ด้านการข่าวได้มีการติดตามสถานการณ์ของฝ่ายที่สร้างความวุ่นวายหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า การข่าวเราติดตามเป็นปกติไม่ได้เป็นกรณีพิเศษ เพราะไม่ว่ากรณีเช่นใดก็มีเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อยู่แล้ว

ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ถนนแจ้งวัฒนะ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ช่วยราชการในตำแหน่งรักษาการอธิบดี ดีเอสไอ

ได้เรียกประชุมรองอธิบดีดีเอสไอและผู้บัญชาการสำนักคดีต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทย เนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของดีเอสไอในคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หากพ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับมา ตามขั้นตอนพ.ต.ท.ทักษิณจะต้องเดินทางมาที่ดีเอสไอเพื่อมอบตัวในคดีปกปิดโครงสร้างหุ้นเอสซี แอสเสทฯ โดยตนเป็นห่วงว่าขณะนี้ดีเอสไออยู่ระหว่างการย้ายสำนักงาน ซึ่งต้องย้ายให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 10 มี.ค. ตนจึงได้เรียกประชุมเพื่อหารือร่วมกับนายพรชัย อัศววัฒนาพร รองอธิบดีดีเอสไอ ซึ่งเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าวว่าจะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ มามอบตัวที่อาคารใหม่หรืออาคารเก่า

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า

ในฐานะมท.1พร้อมดูแลความเรียบร้อยหากกลุ่มรักพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกับกลุ่มคนที่ไม่รักจะชุมนุมเคลื่อนไหว ถือเป็นสิทธิ์ แต่ขอให้อยู่คนละมุม ตนพร้อมจะอำนวยความสะดวกในทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมจะส่งรถสุขาไปให้ ขอร้องสื่อว่าอย่าตื่นตระหนกกับข่าวที่พันธมิตรออกมาเคลื่อนไหว ยืนยันว่ารัฐบาลที่มีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี และตนเป็นมท.1 ทุกอย่างจะเรียบร้อย


ส่วนการเดินทางกลับของอดีตนายกรัฐมนตรี ตนจะไปรับถึงสนามบินสุวรรณภูมิ

และได้ประสานกับทางตำรวจเรียบร้อยแล้ว ฝากถึงคนที่รักอดีตนายกรัฐมนตรีด้วยว่าต้องยอมรับว่ามีการออกหมายจับอดีตนายกรัฐมนตรีอยู่ ดังนั้นเมื่อมาถึงเมืองไทยก็ต้องไปศาล ซึ่งศาลจะให้ประกันตัวหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล

ส่วนนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี  และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า

เมื่อพ.ต.ท.ทักษิณตัดสินใจว่าจะกลับก็เป็นเรื่องของท่าน ในพรรคพลังประชาชนก็เคยมีการสอบถามตน ตนก็บอกไปว่าต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ถ้าท่านจะกลับก็เป็นเรื่องของท่านเพราะท่านจะมาสู้คดี ซึ่งก็อยากให้กลับมาสู้คดีไม่มีปัญหาอะไร 

“คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เดินทางกลับมาก็เรียบร้อยดี ท่านนายกฯ กลับมาก็คงเรียบร้อยเหมือนกัน  สำหรับความรู้สึกส่วนตัวที่พ.ต.ท.จะเดินทางกลับประเทศก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีด้วย เมื่อเราอยากให้ท่านมาขึ้นศาล เมื่อท่านกลับมาได้และเราจะไม่ยินดีหรือ เมื่อขึ้นศาลได้ มีการประกันตัวสู้คดีความจนเรียบร้อย ทุกอย่างจะได้จบ หมดห่วง และในฐานะคนรู้จักกันเมื่อท่านหมดปัญหาเราก็ต้องยินดีด้วย”

ต่อข้อถามว่าคิดว่าเมื่อพ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาคิดว่าจะส่งผลกระเทือนต่อรัฐบาลหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า  จะไปกระเทือนได้อย่างไร

เพราะถึงอย่างไรท่านก็เป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้ เพราะขณะนี้ตนเป็นนายกรัฐมนตรีและ พ.ต.ท.ทักษิณก็เล่นการเมืองไม่ได้เพราะเอยู่ใน 111 ของอดีตพรรคไทยรักไทย  อีกทั้งท่านก็บอกเองว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง เพียงแต่จะมาให้ปากคำและจัดการทุกอย่างให้หายจากข้อครหาเสียที ซึ่งขณะนี้ถึงเวลาแล้วที่ท่านจะมาแสดงความสุจริต ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับตน อีกทั้งตนก็ไม่ได้มีการพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงการเดินทางกลับมาแต่อย่างใด การเดินทางกลับเป็นความคิดและการตัดสินใจของท่านเอง ซึ่งรัฐบาลก็ไม่มีปัญหาและไม่ได้เตรียมการป้องกันอะไร และตนไม่ได้คิดว่าจะมีอะไรเป็นเรื่องยุ่งยาก

ผู้สื่อข่าวถามว่ากลุ่มพันธมิตรออกมาเรียกร้องให้ประชาชนออกมาชุมนุมต่อสู้ในทุกรูปแบบ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  เป็นเรื่องของประชาชนว่าจะฟังหรือไม่ ก่อนหน้านี้ก็เคยเรียกร้องให้กลับมาแต่พอกลับมาจริงก็จะต่อต้าน แบบนี้มันชอบกล อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้รู้สึกกังวลว่ากลุ่มพันธมิตรจะถือโอกาสปลุกระดมให้ประชาชนออกมาเคลื่อนไหว และตนก็อยากบอกกับประชาชนทั้งประเทศว่าไม่จำเป็นต้องกังวลหรือมาทุกข์ร้อนกับเรื่องนี้ ขอให้ปล่อยไปแบบสบายๆ  “ เพราะถ้ามีคนไปรับกันมากมายก็อาจจะเกิดเหตุ เพราะจะมีคนหมั่นไส้ ถ้าไปรับกันน้อยหน่อยก็จะมีเหตุน้อยลง ถ้าไม่ไปรับกันเลยก็จะดีมาก และนายกฯทักษิณคงจะสบายใจดี ส่วนที่อาจมีรัฐมนตรีบางคนไปรับด้วยนั้นก็คงเป็นการไปในฐานะส่วนตัว ไม่ใช่ฐานะรัฐมนตรี”


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์