ปธ.วุฒิออกโรง หนุนปรองดอง แนะหยุดตอบโต้

ประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา หนุนโรดแมปปรองดองของพรรคเพื่อไทย ติงทุกฝ่ายหยุดใช้ปากตอบโต้ ป้องรัฐบาลมุ่งตั้งงบประมาณหาเสียง แต่หวั่นทุจริตบานสะพรั่ง 

ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเสนอแนวทางปรองดองกับทุกกลุ่มว่า ถือเป็นเรื่องที่ดี ถ้าทำอย่างนั้นได้จริงก็เกิดความปรองดองแน่ ส่วนท่าทีของฝ่ายรัฐบาลที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะตอบรับหรือปฏิเสธ นั้น ตนเห็นว่าอย่าไปตั้งแง่ใส่กัน เพราะคงไม่ใช่ทุกคนที่อยากจะปรองดอง เราไม่สามารถทำให้เกิดการปรองดองกันได้หมด แต่ก็เห็นด้วยกับแนวทางที่พรรคเพื่อไทยเสนอ เพราะขนาดองค์กรระหว่างประเทศต่างๆยังสนับสนุนให้เกิดการปรองดองในบ้านเรา 

ส่วนที่ทั้งสองฝ่ายยังออกมาตอบโต้กันอยู่ แล้วจะเกิดการปรองดองได้อย่างไร นายประสพสุขกล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องเลิกพูดจากระแนะกระแหน่กัน ดูตัวอย่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เด็กๆยังมีเสียงสะท้อนออกมาว่าบรรยากาศในสภาฯที่ขัดแย้งกันเป็นสิ่งไม่ดี อย่างไรก็ตามขณะนี้เห็นว่าความขัดแย้งของกลุ่มต่างๆเริ่มดีขึ้นแล้ว ถ้าทุกฝ่ายอดทนอดกลั้นก็จะฝ่าวิกฤตไปได้ 

ด้านมองเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร ประธานวุฒิสภากล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญคงอีกนาน เชื่อว่าไม่ทันในสมัยนิติบัญญัตินี้แน่นอน ถึงจะเร่งอย่างไรก็ไม่ทัน เพราะต้องไปหารือกับทุกฝ่าย ให้ตกผลึกทางความคิดก่อน 

ประธานวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2554 ว่า มีส.ว.แจ้งขออภิปรายไว้ 80 คน อภิปรายคนละ 15 นาที ให้เวลา 2 วัน คาดว่าจะโหวตลงมติได้ในช่วงเย็นวันที่ 7 ก.ย. โดยสมาชิกส่วนใหญ่จะอภิปรายกันมากในมาตรา3 ซึ่งเป็นภาพรวมของงบประมาณ สำหรับรายงานผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ก็ดูมีเหตุผล 

ด้านการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการจัดงบเพื่อทุ่มหาเสียงมากกว่ามุ่งเน้นการบริหารงาน เพราะใกล้จะมีการเลือกตั้ง นายประสพสุข กล่าวว่า ไม่คิดเช่นนั้น เพราะแต่ละกระทรวงก็ต้องมีการตั้งโครงการขึ้นมาเพื่อพัฒนางานในกระทรวง ยังดูไม่ออกว่าเป็นการหาเสียงอย่างไร 

ขณะที่ งบประมาณปี 2554 มีการตั้งงบประจำมากกว่างบลงทุนจากปีอื่นๆ นายประสพสุขกล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ เพราะงบประจำส่วนใหญ่เป็นงบเงินเดือนของข้าราชการ จึงต้องมากกว่างบลงทุนอยู่แล้ว เมื่อถามย้ำว่าการตั้งโครงการลงทุนเป็นการกู้เงินต่างประเทศมาทั้งหมด ทำให้หนี้สาธารณะสูงขึ้น นายประสพสุขกล่าวว่า การลงทุนถ้าดูแล้วได้ประโยชน์ก็ต้องทำ แต่ตนยังเป็นห่วงเรื่องการทุจริต ที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันมาก ดังนั้นถ้ากู้มากินมาใช้ก็ไม่ควรทำ 

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์