ปชป.เดินหน้าสร้างมวลชนลุยเหนืออีสาน


"สุเทพ”ปัด ปชป. ไม่มีกระบวนการใต้ดินหักตัวเอง ลั่น ชนะพรรคอื่นได้ ต้องไม่สู้คนเดียว ระบุ เร่งเดินหน้าลงพื้นที่สร้างมวลชน ยกเครื่องใหม่ เร่งเจาะพื้นที่เหนือ-อีสาน

 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวว่า มีความพยายามส่งเด็กในกลุ่มของ ไปล็อบบี้ไม่ให้เลือกนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคคนใหม่ว่า ไม่เป็นความจริง ยืนยันว่า เขาวางตัวอย่างเคร่งครัด

"จะเลือกใครยังไม่บอกน้อง ๆ ส่วนสมาชิกจะชอบใครเลือกใคร ให้เป็นดุลพินิจของสมาชิกโดยเสรี แต่สิ่งที่ขอทุกคนว่า การเลือกหัวหน้าพรรคต้องเป็นเอกฉันท์ ไม่มีการลุกขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานที่ผ่านมาทั้งสิ้น เพราะไม่อยากให้เสียบรรยากาศ ผมพูดอย่างเปิดเผยและกับส.ส.ทุกคนทุกภาคในการประชุมทีละ 20-30"

         
เขาบอกว่า กรณีการนัดทานข้าว และมีการสรุปอธิบายสถานการณ์บ้านเมืองให้ทราบ เรื่องใหญ่ที่พูดคือ เรื่องสถานการณ์บ้านเมืองในภาพรวมว่า จะต้องเผชิญสถานการณ์อะไรบ้าง พรรคประชาธิปัตย์จะต้องทำงานร่วมกับภาคส่วนอื่น ๆ อย่างไร การที่มีความพยายามออกมาปล่อยข่าวว่า ไปล็อบบี้ใครอย่างไรนั้น ยืนยันอีกครั้งว่า ไม่มี

         
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่าตัวนายสุเทพ ไม่สามารถทำงานร่วมกับนายเฉลิมชัยได้ หากนายเฉลิมชัยได้รับเลือกเป็นเลขาธิการพรรค นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มี ที่ผ่านมา เขากล่าวกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคว่า จะช่วยงานหัวหน้าพรรค ไม่ใช่เรื่องตัวบุคคล แต่เป็นเรื่องของพรรคและระบบ และได้แจ้งก่อนตั้งแต่เลือกตั้งเสร็จว่า จะไม่รับตำแหน่งเลขาธิการพรรคหรือกรรมการบริหารพรรค เพราะต้องการออกไปทำงานการเมือง ซึ่งมีทั้งคนในและคนนอกพรรคที่เป็นงานการเมืองเหมือนกัน

         
“ผมอยากจะบอกกับประชาชนคนไทยทั้งหลายว่า ในขณะนี้ไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างพรรคการเมืองกับพรรคการเมือง แล้วมันเป็นเรื่องของลัทธิบางลัทธิที่ต้องการจะครอบงำประเทศไทย คนไทยควรจะได้รู้ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ บังเอิญผมรู้ ผมก็จะได้เดินสายไปบอก ผมก็จะไม่มีเวลามาทำงานในพรรค” นายสุเทพ กล่าว

         
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุที่บางคนไม่ยอมรับนายเฉลิมชัย เพราะเห็นว่า นายเฉลิมชัยไม่ใช่ลูกหม้อที่เกิดจากพรรคมาดั้งเดิม กลัวว่า จะมีการย้ายพรรคไปนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เป็นไร วันนี้เมื่อใครมาอยู่ในพรรคแล้วก็เหมือนกัน วันนี้เป็นสมาชิกพรรค เป็นคนหนึ่งของพรรค และที่กล่าวว่านายเฉลิมชัยถูกมองว่าเป็นลูกทุ่ง มากกว่านายจุติ ไกรฤกษ์ นั้น ก็ไม่เกี่ยวกันว่า จะเป็นลูกทุ่งหรือลูกกรุง อยู่ที่ว่าทำงานได้ ไม่ได้เท่านั้นเองอยู่ที่สมาชิกที่สำคัญคืออยู่ที่หัวหน้าพรรคจะเป็นผู้เสนอชื่อ

         
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ที่ผ่านมาคิดว่าอดีตเลขาธิการพรรคทำงานที่มาตรฐานสูงไว้ คนใหม่จะทำได้หรือไม่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่แน่ (ระหว่างที่นายสุเทพให้สัมภาษณ์ ได้มีสมาชิกพรรคคนหนึ่งเอากระดาษที่เขียนว่า “กล้าที่จะกลับมา ก็ต้องกล้าเปลี่ยน") มาชูให้ดู ซึ่งนายสุเทพก็พูดกับสื่อยิ้ม ๆ ว่า เขาก็เป็นอย่างนี้

         
เมื่อถามว่า นอกจากในเรื่องการเลือกเลขาธิการพรรคแล้ว ยังมีความพยายามที่จะล็อบบี้ในเรื่องการเลือกรองหัวหน้าพรรค ด้วยการนัดหารือที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เพื่อหักผู้ใหญ่ในพรรคบางคนนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องถามว่า ใครนัดไปทานข้าว แต่ไม่ใช่เขา ที่ผ่านมา จะนัดเป็นกลุ่มๆ ทุกคนทราบดีภาคเหนือ อีสาน กลางใต้ แต่หากเป็นคนอื่นใครจะไปนัดกับใครที่ไหนบ้าง ไม่ทราบ

         
ส่วนใครจะหัก ในสิ่งเขาเสนออะไรบ้างนั้น ยืนยันได้ว่า เขาไม่เสนออะไรเลย และไม่เสนอใครแม้แต่คนเดียว และในการประชุมที่ผ่านมา เขาก็เป็นผู้จัดการประชุมใหญ่

         
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มคนใหม่ที่มีตำแหน่งในพรรค ต้องการที่จะหักอดีตเลขาธิการพรรค เพราะต้องการเข้ามาเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ภายในพรรคหรือไม่  นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่คิดว่า จะเป็นแบบนั้นเพราะเวลาเลือกตั้ง ก็มักจะเป็นเรื่องปกติที่ดี ๆ กันอยู่ แต่เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งอาจจะคิดไม่เหมือนกันได้เป็นธรรมดา ไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องผิดปกติ ทุกอย่างจบในวันเลือกกรรมการบริหารพรรค

         
ส่วนจะต้องฝากอะไรกับเลขาธิการพรรคคนใหม่หรือไม่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ต้องฝาก เพราะต่อไปมีอะไรในพรรคก็สามารถพูดคุยกันได้ และคงไม่ต้องมาคอยดูแล เพราะคนที่เป็นเลขาฯคนใหม่เป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่หากต้องการคำปรึกษา เขาก็ยินดีและพร้อมเสนอความเห็น

         
ส่วนที่มีผู้ใหญ่ในอดีตของพรรค ออกมากล่าวถึงความก้าวพลาดของพรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ที่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะการใช้คนของหัวหน้าพรรคไม่ถูกคน และเลือกคนมาใช้งานไม่ถูกต้อง นายสุเทพ กล่าวว่า ท่านเป็นผู้ใหญ่ ไม่ขอวิจารณ์ อย่าไปโทษท่านหัวหน้าพรรค เป็นเรื่องของทั้งพรรค และการที่อดีตหัวหน้าพรรคในอดีต เรื่องการทำงานนั้น ก็จะทำให้เขาเจ็บตัวได้(กล่าวทั้งหัวเราะ)

         
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาธิปัตย์จะต้องปรับกลยุทธ์ อย่างไรถึงจะชนะพรรคอื่นได้  อดีตเลขาธิการพรรค กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะต้องไม่สู้คนเดียว ต้องแสวงหามิตรและแนวร่วม และจะต้องทำงานหนัก ลงพื้นที่จัดตั้งมวลชนแสวงหาสมาชิก

         
"ยืนยันได้ว่า ไม่ได้เป็นอย่างที่กล่าวว่า เมื่อมีการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ จึงจะเริ่มลงพื้นที่หาสมาชิก ซึ่งความจริงมีการทำมาตลอด แต่บางคนทำได้ดีแข็งแรง แต่บางคนประมาท และเรื่องใหญ่ที่เราต้องเร่งทำคือเรื่องมวลชน ในพื้นที่ภาคอีสานนั้น ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวคนที่เป็นรองหัวหน้าพรรค แต่อยู่ที่ทิศทางของพรรค"


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์