บ้านเมืองแตกแยกมาก นายกฯยอมรับต่อหน้าชาวมุสลิม

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการทำบุญทำพิธีครบรอบ 63 ปี การก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ถนนเศรษฐศิริ วันนี้ (6 ..)

ว่าเป็นไปอย่างคึกคัก มี ส
..และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ทยอยเดินทางเข้าร่วมงานอย่างต่อเนื่อง ช่วงเช้าเป็นพิธีกรรมทางศาสนาอิสลาม จากนั้นแกนนำและ ส..พรรคประชาธิปัตย์ร่วมกันสักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม ประดิษฐานอยู่บริเวณด้านหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เวลา 11.00 . นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นประธานในพิธีทางพุทธศาสนา  มีการนิมนต์พระสงฆ์จำนวน 69 รูป จากวัดชนะสงครามมาประกอบพิธี และ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวปราศรัยเนื่องในวันครบรอบ 63 ปี พรรคประชาธิปัตย์
 

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า การจัดงานครั้งนี้ได้มีแกนนำและ ส..พรรคประชาธิปัตย์นำอาหารและเครื่องดื่มจากร้านอาหารต่างๆ มาเลี้ยง ส..และประชาชนทั่วไปที่มาร่วมงาน

อาทิ นายอภิสิทธิ์ ได้นำเฉาก๊วยมาเลี้ยง ขณะที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นำก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำมาเลี้ยง ไม่ปรากฏว่ามีกลุ่มคนเสื้อแดงเดินมาชุมนุมต่อต้านพรรคประชาธิปัตย์แต่อย่างใด

นายอภิสิทธิ์กล่าวตอนหนึ่งระหว่างพบกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นชาว มุสลิมว่า เริ่มแรกของพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อว่าเป็นพรรคที่มีคุณภาพ ยึดมั่นอุดมการณ์ จนมาถึง 63 ปี

มีคนทักว่าส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายค้าน ได้เป็นรัฐบาลต่อเมื่อมีวิกฤติบ้านเมือง ก็เป็นอย่างนี้มา
63 ปี จนตนเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรค และได้ปราศรัยครั้งแรกว่าไม่อยากให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างนี้ อยากให้พรรคได้เป็นรัฐบาลในยามปกติบ้าง ในที่สุดบ้านเมืองเกิดปัญหาเมื่อปีที่แล้ว มีการผลักดันในสภาผู้แทนราษฎรให้ตนได้เป็นนายกรัฐมนตรี ท่ามกลางความขัดแย้งที่ลุกลามบานปลาย และมีเสียงเรียกร้องจากประชาชนให้เข้ามาแก้ปัญหา รัฐบาลทำงานมา 3 เดือน 1 สัปดาห์ แต่รู้สึกนานเป็นปี เข้ามาเป็นรัฐบาลรู้เลยว่าบ้านเมืองแตกแยก รู้สึกขัดแย้งรุนแรงอยู่หลายพื้นที่ หลายวงการ ไม่เว้นแม้แต่วงการข้าราชการ ทำให้รู้สึกไม่ง่ายเลย เพราะความคาดหวังประชาชนมีสูง ต้องการเห็นความสงบ เรียบร้อยอย่างรวดเร็ว และเศรษฐกิจได้รับการฟื้นฟู


นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า ตลอดระยะเวลา 3 เดือน 1 สัปดาห์ ได้ทุ่มเทเต็มที่ อย่างน้อยไม่ให้ใครมาพูดได้ว่า ไม่รับผิดชอบ ไม่ทุ่มเท ไม่ขยัน

แต่จะเดินหน้าแก้ไขปัญหาให้คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการบรรเทาผลกระทบให้พี่น้องเกษตรกร การช่วยเหลือค่าครองชีพ
2,000 บาท ขณะที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้น เราต้องดูแลคนด้อยโอกาส คนว่างงาน และเศรษฐกิจในชนบท เรื่องปัญหาการเมืองเชื่อว่าหลายคนกังวลอยู่ เพราะมีการชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล มีวิดีโอลิงค์โจมตี เรียกร้องประชาธิปไตย แต่ขอถามกลับว่า 3 เดือน 1 สัปดาห์ที่อยู่ในอำนาจได้พิสูจน์ให้เห็นหรือยังว่า รัฐบาลนี้เป็นประชาธิปไตยจริง กล้าพูดได้ว่าเทียบตั้งแต่ปี 2544-2552 ผ่านมา 5 รัฐบาลแล้ว แต่รัฐบาลชุดนี้ฟังเสียงของประชาชน ไม่ก้าวก่าย คุกคาม แทรกแซง องค์กรต่างๆ อยู่มา 3 เดือนแต่มีความเป็นประชาธิปไตยมากกว่าคนที่อ้างตัวว่าเป็นประชาธิปไตยมา 6 ปี

 

นาย อภิสิทธิ์กล่าวต่ออีกว่า รัฐบาลให้สิทธิเสรีภาพในการชุมนุม แต่หากทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการ

ถ้าปราศรัยกระทบความมั่นคง ก็ให้เจ้าหน้าที่รวบรวมอยู่ ส่วนตำรวจ อัยการ ศาล ก็ต้องดำเนินการอย่างเป็นกลาง คนที่เดือดร้อนก็ใช้กระบวนการกฎหมาย รัฐบาลไม่อยากใช้กำลังเข้าปะทะ ถามว่าทำได้หรือไม่ ก็ทำได้ แต่ถ้ามีการใช้กำลังปะทะคงมีปัญหา รัฐบาลจะใช้วิธีนุ่มนวลที่สุด ขอย้ำว่าที่บ้านเมืองวิกฤตทุกวันนี้ เป็นเพราะรัฐบาลในอดีตทำตามอำเภอใจ ตัดสินเองว่าคนนั้นคนนี้ไม่มีสิทธิ์พูด ห้ามออกทีวี คนที่ไม่พอใจก็ยัดข้อหาและจับ วันนี้ ต้องพิสูจน์ว่าบริหารประเทศโดยไม่ละเมิดกฎหมาย ถ้าทำสำเร็จจะช่วยส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งตั้งแต่ปี
2489 เริ่มต้นของพรรคประชาธิปัตย์ คือต้องทำประชาธิปไตยที่ไม่ใช่แค่รูปแบบ แต่เป็นระบอบประชาธิปไตยที่ปฏิบัติตามหลักการและจิตวิญญาณของประชาธิปไตย อย่างแท้จริง

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นรัฐบาลไม่ได้อยู่เฉย จะทำทุกอย่างภายใต้กฎหมายให้เรียบร้อย

โดยจะฟื้นภาพลักษณ์ของประเทศให้กลับคืนมายั่งยืน ถ้าใครคิดว่ามีอำนาจทำตามใจชอบ ตัวเองถูกฝ่ายเดียว บ้านเมืองก็ยังขัดแย้งอยู่ ขณะนี้มีการพูดกันว่ารัฐบาลชุดนี้ต้องฟังเสียงทหาร ข้าราชการ หรือกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ เพราะเป็นหนี้บุญคุณ ขอบอกว่าที่ผ่านมาทุกคนปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น  มาด้วยระบบรัฐสภาและยึดแนวทางประชาธิปไตยอย่างแท้จริง กรณีที่มีการเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐบาลก็ไม่ปฏิเสธ แต่การแก้ไขต้องมาแก้ดีๆ ไม่ใช่ทะเลาะกัน ต้องฟังความเห็นของทุกฝ่าย อย่าให้ใครกล่าวหาว่าแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อตัวเอง ท้ายที่สุดอำนาจสุดท้ายอยู่ที่รัฐสภาจะพิจารณา ที่ผ่านมาก็พยายามเชิญชวนฝ่ายค้าน แต่ฝ่ายค้านก็ตั้งแง่ ดังนั้นก็พูดคุยกันต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์