นาทีต่อนาที สมชาย โดนไล่ด่า!!กลางกรุง มธ.-พารากอน ตั้งแต่เช้าจรดเที่ยง

เหตุการณ์ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.นครศรีธรรมราช รวมตัวกันขับไล่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 27 กันยายน ผ่านไปไม่ถึง 24 ชั่วโมง

ปรากฎว่าในวันรุ่งขึ้น (28 กันยายน) นายสมชายยังคงเจอการต่อต้านจากกลุ่มคนที่ต่อต้านระบอบทักษิณ ระหว่างออกไปทำกิจกรรมตามกำหนดการ ตั้งแต่เช้ายันเที่ยง

เวลา 10.30 น. วันที่ 28 กันยายน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เดินทางไปยังหอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ท่าพระจันทร์ เพื่อร่วมบันทึกเทปร้องเพลงหมู่ เนื่องในโอกาสครบรอบวันสถาปนา มธ. 75 ปี จะออกอากาศทางโมเดิร์นไนน์ทีวีในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ นายสมชาย ศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์ ปี 2509 สวมเสื้อยืดสีแดง ขลิบเหลือง สกรีนข้อความที่หลังว่า "ครบรอบ 75 ปี ฉันรักธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์สอนให้ฉันรักประชาชน"

ก่อนการบันทึกเทปจะเริ่มขึ้น ผู้จัดงานได้เชิญนายสมชายขึ้นกล่าวความในใจต่อหน้าศิษย์เก่าที่มาร่วมงาน ในฐานะฐานะศิษย์เก่าคนที่ 4 ที่ได้เป็นนายกฯ

นายสมชายเล่าถึงเรื่องในอดีตว่า ไม่ได้วางแผนว่าจะต้องเรียนที่ มธ. หรือเรียนเนติบัณฑิต แต่เป็นเพราะที่บ้านไม่ค่อยมีเงิน และพี่ชายเรียนจบ มธ. เลยเข้าเรียนที่ มธ. เพื่อไม่ต้องซื้อหนังสือเรียนใหม่ ขณะกำลังพูดอยู่บนเวทีนั้น ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อศิษย์เก่า มธ. 2 คนที่นั่งฟังอยู่ ได้ชูมือตบของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขึ้นมาตลอดเวลาที่นายสมชายพูด สร้างความไม่พอใจให้ศิษย์เก่าคนอื่นที่นั่งอยู่ข้างๆ หลายคนหันไปดูศิษย์เก่าทั้ง 2 คน

ทราบภายหลังว่า ทั้งสองเป็นศิษย์เก่าคณะเศรษฐศาสตร์ ปี 2514 เมื่อถูกคนรอบข้างจ้องมอง ทั้งคู่จึงลุกออกจากที่นั่งแล้วเดินออกจากหอประชุมไป

ยังไม่ทันพ้นประตูหอประชุมเล็ก ทั้ง 2 คนได้ใช้มือตบปรบเสียงดัง พร้อมตะโกนว่า "เอาศักดิ์ศรีธรรมศาสตร์คืนมา"

เสียงตะโกนดังกล่าว ทำให้นายสมชายมีสีหน้าเจื่อนลงนิดหนึ่ง ก่อนกล่าวว่า "ไม่เป็นไร ผมคงพูดมากเกินไปแล้ว ถ้าเช่นนั้นขอจบเรื่องส่วนตัวแค่นี้"

นายสมชายยังคงร่วมบันทึกเทปการร้องเพลงหมู่ 3 เพลง ได้แก่ เพลงมอญดูดาว ยูงทอง และมาร์ชธรรมศาสตร์ ขณะที่บรรดาศิษย์เก่าคนอื่นๆ ได้แสดงความไม่พอใจบุคคลทั้ง 2 และเห็นว่าไม่สมควรทำเช่นนี้ เพราะวันนี้ไม่มีพันธมิตรฯ หรือแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) แต่เป็นงานของศิษย์เก่า มธ.

วิบากกรรมของผู้นำประเทศไทยยังไม่จบลงแค่นั้น เวลา 11.40 น. ขณะที่นายสมชายเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้าชื่อดัง "สยามพารากอน" ย่านสยามสแควร์

เพื่อช่วยนายประภัสร์ จงสงวน ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เบอร์ 10 พรรคพลังประชาชน หาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย มีนายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกฯ น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ และทีมงาน ประมาณ 20 คนรอต้อนรับ


ทันทีที่นายสมชายลงจากรถ ได้มีผู้หญิง 2 คนตะโกนด่าว่า "ไอ้สมชายคนขายชาติ" พร้อมกับใช้มือตบปรบไล่นายสมชาย ทีมงานหาเสียงของนายประภัสร์พยายามเข้าไปกัน จนเกิดการกระทบกระทั่งและด่าทอกันครู่หนึ่ง

หลังจากร่วมกิจกรรมหาเสียงอยู่ครู่หนึ่ง นายสมชาย และคณะ เดินเข้ามาในห้างฯสยามพารากอน เพื่อรับประทานอาหารกลางวันที่ร้าน "กิ่งกัลปพฤกษ์" ระหว่างนั้นเอง กลุ่มผู้หญิง 5 คนได้วิ่งเข้ามาตะโกนด่า และใช้มือตบปรบไล่นายสมชายอีก

นายสมชายเริ่มมีสีหน้าไม่สู้ดีอย่างเห็นได้ชัด ขอแวะเข้าห้องน้ำก่อนมารับประทานอาหารร่วมกับทีมหาเสียงของนายประภัสร์ "เจอแบบนี้ ผมต้องอดทน เข้มแข็ง เพื่อที่จะไม่หวั่นไหว เพราะเข้าใจภาวะแบบนี้ เนื่องจากเข้ามาทำงานในช่วงสถานการณ์แบบนี้ แต่เป็นห่วงว่าเมื่อเกิดเหตุแบบนี้แล้ว จะทำให้นายประภัสร์เสียคะแนนหรือไม่" นายสมชายกล่าว กับผู้สื่อข่าว ด้านนายประภัสร์ซึ่งอยู่ข้างหลัง รีบกล่าวเสริมว่า ความจริงกลุ่มคนเหล่านี้ควรจะแยกแยะกันบ้าง

ความวุ่นวายไม่มีทีท่าว่าจะจบลงแค่นั้น ระหว่างที่คณะของนายสมชายกำลังรับประทานอาหารอยู่ภายในร้าน ชุดรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของนายกฯได้เข้าไปเคลียร์พื้นที่

และกันผู้หญิงกลุ่มต่อต้านไม่ให้เข้ามาประชิดตัวนายกฯ และคณะได้ ทำให้เกิดการโต้เถียงกันเสียงดังกลางห้างฯ แต่ในที่สุด กลุ่มต่อต้านก็ยอมถอยออกไป เวลาผ่านไปไม่ถึง 15 นาที ผู้หญิงกลุ่มเดิมได้ย้อนกลับมาที่หน้าร้านอาหารอีกครั้งก่อนตะโกนด่านายสมชายว่า "ขายชาติๆๆ" แต่นายสมชายยังคงนั่งรับประทานอาหารต่อไปโดยไม่สนใจเสียงตะโกนจากภายนอก กระทั่งกลุ่มต่อต้านได้รวมตัวกันมากขึ้นเรื่อยจำนวนกว่า 30 คน พร้อมกระจายตัวอยู่รอบๆ ร้าน แล้วตะโกนพร้อมๆกันว่า "ขายชาติๆ" และ "ออกไปๆ" สลับกับการโห่ไล่ และใช้มือตบปรบไล่คณะของนายกฯ จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วห้าง


ระหว่างนั้นเอง มีผู้หญิงสวมเสื้อสีดำคนหนึ่งไม่รู้มาจากไหน แต่คาดว่าจะเป็นฝ่ายที่สนับสนุนรัฐบาล เดินเข้ามาเอาน้ำในแก้วสาดใส่หน้าผู้หญิงเสื้อเหลืองที่กำลังอ้าปากตะโกนขับไล่นายสมชาย

ฝ่ายโดนสาดไม่พอใจ และตะโกนด่าว่าหญิงเสื้อดำ จนเสียงดังไปทั่วห้างฯ ทั้งสองพยายามจะเดินเข้ามาตบตีกัน เพื่อนๆ ของทั้งสองฝ่ายต้องล็อคตัวทั้งคู่ออกไป ระหว่างทั้งสองคนตะโกนด่ากันอยู่นั้น คณะของนายกฯหันมามองเหตุการณ์เป็นระยะๆ บางคนส่ายหัว ส่วนนายวิชาญได้แต่ยิ้ม แต่ในที่สุดก็ไม่อาจทนเสียงตะโกนด่าลั่นห้างได้ ทีมงานผู้ว่าฯ และ รปภ. นายกฯจึงตัดสินใจพานายสมชายออกจากร้านอาหารในเวลา 12.10 น. ทั้งที่ยังรับประทานอาหารไม่อิ่ม โดยมีกลุ่มต่อต้านวิ่งตามมาตะโกนด่าไล่หลัง และยืนล้อมบันไดเลื่อนประมาณ 100 คน กระทั่งนายสมชายขึ้นไปชั้น 2 เพื่อออกไปขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอสจากสถานีสยาม-สะพานตากสินตามตารางหาเสียงเดิม


ทั้งนี้ นายสมชายกล่าวกับทีมงานด้วยสีหน้าแห้งๆ ในขณะรอรถไฟฟ้าว่า "ผมไม่เป็นไร กำลังใจยังดีอยู่"

นายสมชายให้สัมภาษณ์ที่สถานีรถไฟฟ้าตากสิน ถึงกรณีที่ถูกประชาชนตะโกนไล่ ว่า เราเป็นคนไทยด้วยกัน อยากให้ใช้เหตุใช้ผลพูดจากัน อะไรควรทำหรือไม่ควรทำ อะไรคือวัฒนธรรมที่ดีของไทย ก็น่าจะรู้กัน  ไม่อยากให้มีความขัดแย้ง ถ้าทุกคนยึดหลักว่าประเทศชาติและประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ก็จะช่วยกันแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ ทั้งนี้ไม่รู้สึกโกรธ เพราะถือเป็นความรู้สึกของบางคน คนเราอาจคิดไม่เหมือนกัน แต่เราไม่ควรคิดและทำอะไรเพื่อตัวเอง ขณะนี้ประเทศไทยก็มีปัญหาเยอะแล้ว อยากให้ช่วยกัน อย่าเอาตัวเองเป็นตัวตั้ง ต้องเอาประชาชนเป็นตัวตั้ง

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์