ทรท.ชักแถวโต้แม้วเว้นวรรค

สุเมธดัน"อภิชาต"ปธ.กตต.


แกนนำไทยรักไทย ดาหน้าปฏิเสธข่าว"ทักษิณ" ส่งสัญญาณ"เว้นวรรค"หลังเลือกตั้ง อ้างไม่เคยได้ยิน ไม่รู้"สมชาย"เอามาจากไหน แต่ถ้าเว้นวรรคจริง คนที่มาแทนก็ไม่ได้มีแค่"สมคิด-สุรเกียรติ์-ชิดชัย" ยังมีคนอื่นอีก ส่วนจะเป็นใครให้จับตาปาร์ตี้ลิสต์ลำดับต้นๆ "สมคิด"โดดประชุมพรรค หลัง"สุดารัตน์"ดอดเข้าพบที่ทำเนียบฯ อ้างมารายงานเรื่องเอฟทีเอ ขณะที่การจัดวางผู้สมัครส.ส.ทั้ง 2 ระบบยังไม่ลงตัว

โดยเฉพาะสนามกทม. "ป๋าเปรม"ปิดปากไม่พูดเรื่องการเมือง-โยกย้ายทหาร "หมอมิ้ง"ยัน"ทักษิณ"ลงชื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ได้ทันสิ้นเดือนนี้แน่ "สุเมธ"ออกตัวไม่ขอรับเป็นประธาน กกต. หนุน"อภิชาต"ขึ้นแทน เตรียมเสนอที่ประชุมนัดแรก 14 ก.ย.นี้ "ครูหยุย"คัดค้านยื่นถวายฎีกาประเด็น"บล็อกโหวต" ชี้จะยิ่งทำให้วุ่นวายไม่จบสิ้น

-"มิ้ง"ไม่ยืนยัน"แม้ว"เว้นวรรค


เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ให้สัมภาษณ์กรณีนายสมชาย สุนทรวัฒน์ รมช.มหาดไทย และประธานส.ส.พรรคไทยรักไทย ระบุพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกฯ จะเว้นวรรคทางการเมืองว่า เป็นความเห็นส่วนตัวของนายสมชายที่ไม่มีอะไรยืนยัน เพราะถ้าเป็นทางการแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณจะพูดเอง ประกาศเอง ความชัดเจนที่มีอยู่วันนี้คือพ.ต.ท.ทักษิณยังเป็นหัวหน้าพรรค และมีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อ

ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นการส่งสัญญาณให้สมาชิกพรรคได้ทราบทิศทางทางการเมืองของพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ น.พ.พรหมินทร์ กล่าวว่า สมาชิกพรรคเข้าใจ และได้ยินจากนายกฯ อยู่ตลอด สำหรับแคนดิเดตนายกฯ ที่จะมาแทนพ.ต.ท.ทักษิณคือ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย และพล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ นั้น มีความเป็นไปได้มากกว่านั้น ถึงเวลาคงจะอยู่ในกระบวนการ ตอนนี้รอการเลือกตั้งให้ชัดเจนก่อน วันนี้ กกต.เพิ่งจะสรรหาได้ สิ่งที่ชัดเจนจะอยู่หลังจากนั้น

เมื่อถามว่าการประกาศจุดยืนของพ.ต.ท.ทักษิณ ควรเกิดก่อนหรือหลังการเลือกตั้ง น.พ.พรหมินทร์กล่าวว่า เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เพราะนายกฯ ยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก และยึดรัฐธรรมนูญ ประชาธิปไตย พ.ต.ท.ทักษิณมีสถานะเป็นนายกฯที่มาจากรัฐธรรมนูญและกระบวนการตามประชาธิปไตย ดังนั้นกระบวนการที่พยายามแหย่หรือทำลาย แม้กระทั่งการเตรียมการประทุษร้าย ถือเป็นอาชญากรรมต่อระบอบประชาธิปไตย


-ไม่ตอบจะชูใครเป็นนายกฯ


ผู้สื่อข่าวถามว่าส.ส.หลายคนในพรรคต้องการให้นายกฯแสดงความชัดเจน เนื่องจากมีผลต่อการเลือกตั้ง น.พ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ในพรรคแสดงความเห็นกันมากมาย ตามระบอบประชาธิปไตย แต่ที่สุดต้องไปยุติที่กระบวนการภายในพรรค ผู้แทนฯของพรรคซึ่งสัมผัสประชาชนมารู้ว่ามีความต้องการอะไร แล้วจึงมาระดมความเห็น เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ เมื่อถามว่าก่อนการเลือกตั้งจะรู้หรือไม่ว่าพรรคจะชูใครเป็นนายกฯ เลขาธิการนายกฯ กล่าวว่า ที่แน่ๆ พรรคจะส่งผู้สมัครลงทุกเขต และมีพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นหัวหน้าพรรคและอยู่ในบัญชีรายชื่อ ส่วนประเด็นอื่นๆ หารือกันได้เมื่อใกล้เลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณเดินทางต่อเนื่องจากฟินแลนด์ไปประชุมที่ประเทศคิวบาและสหรัฐ เพราะต้องการหนีปัญหาร้อนๆ ทางการเมืองในประเทศหรือไม่ น.พ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ตนว่าวันนี้อากาศสบายๆ และนายกฯไม่สบาย การเดินทางไกลอาจจะมีอาการเจ็ทแล็ก เวลาไปประชุมต่างประเทศตนมักจะเตรียมเวลาให้นายกฯ มีเวลาพักบ้าง เพราะบางครั้งท่านต้องลงเครื่องบินแล้วประชุมเลย ถ้าเป็นอย่างนั้นตนคิดว่าเจรจาความเมืองแล้วเสียหายต่อบ้านเมือง ให้ท่านมีโอกาสพักและสมองปลอดโปร่ง เท่าที่ทราบนายกฯเดินทางช่วงนี้สุขภาพยังไม่แข็งแรงเต็มที่ ดังนั้นถ้าบินไปบินกลับ อยู่ในเครื่องบินมากเกินไปจะทำให้ปรับเวลาไม่ทัน ไม่มีความพร้อมในการประชุมจะเป็นผลไม่ดีต่อประเทศ นายกฯคงต้องการจัดเวลาให้เหมาะสม


-"สุดารัตน์"อ้างไม่รู้ข้อมูลลึกๆ


คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.เกษตรฯ และรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเว้นวรรคทางการเมืองของพ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ยังไม่ทราบ พรรคยังไม่หารือกัน ต้องรอให้นายกฯตัดสินใจ และฟังจากนายกฯเอง ส่วนที่นายสมชาย ระบุนายกฯส่งสัญญาณอยากให้น้องๆในพรรคเข้ามาทำงานบ้าง คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า คงมาจากที่ประชุมพรรค นายกฯพูดในที่ประชุมพรรคเล็กน้อย แต่เราต้องรอการตัดสินใจจากนายกฯ เอง ตนคงให้ความเห็นไม่ได้ เพราะได้ฟังแต่ในที่ประชุมพรรคเท่านั้น

เมื่อถามว่าการพูดในที่ประชุมพรรคของนายกฯ มีนัยที่ต้องการเว้นวรรคทางการเมืองใช่หรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า นายกฯ พูดคล้ายๆกับที่พูดหลายๆวง สื่อมวลชนก็เคยได้ยินว่านายกฯบ่นในหลายเวทีว่าไม่ได้ยึดติดอะไร แต่วันนี้ตนไม่ได้มีข้อมูลมากมายหรือลึกเหมือนที่นายสมชายออกมาพูด จึงให้ความเห็นไม่ได้ ไม่ทราบว่าสิ่งที่นายสมชายพูดนั้น นายกฯไปพูดเวทีไหน ต้องถามคนที่อยู่ในเหตุการณ์

"ท่านคงพูดในพรรคเมื่อวันประชุม แต่การพูดของท่านก็พูดปกติ แน่นอนว่าขณะนี้ท่านก็สนับสนุนคนที่อยู่ในพรรคให้มาทำงาน ให้มีโอกาสรับผิดชอบส่วนต่างๆ แต่ความชัดเจนขนาดที่ท่านสมชายออกมาพูด ดิฉันไม่มีข้อมูลตรงนั้น" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว


-ย่องกินมื้อกลางวันกับ"สมคิด"


ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯพูดถึงเรื่องเว้นวรรคหรือพูดให้คนอื่นมาทำงานแทนหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ไม่ได้พูดเรื่องเว้นวรรค ท่านพูดในทำนองว่าทุกคนมีความสำคัญที่จะต้องช่วยกันสร้างพรรคให้เป็นสถาบัน และเมื่อท่านไม่อยู่แล้วก็ต้องมีคนรุ่นใหม่เข้ามาแทน ก็พูดในหลักการว่าทุกคนต้องช่วยกันเป็นหลัก ดูแลเรื่องต่างๆในพรรค เพราะต้องพัฒนาพรรคให้เป็นสถาบัน ช่วยกันสร้างนโยบายให้เข้มแข็ง และช่วยกันผลักดันนโยบายพรรคให้สำเร็จ ในอนาคตถ้าจะต้องมีการทำงานต่างๆ ท่านก็พร้อมสนับสนุนให้แต่ละคนเข้าไปทำงานในส่วนที่เหมาะสม สิ่งที่ได้ฟังก็มีเท่านั้น เมื่อถามว่าถ้าพ.ต.ท.ทักษิณเว้นวรรคทางการเมืองจริง จะส่งผลกระทบกับพรรคหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ค่อยว่ากันทีละขั้นทีละตอน

จากนั้นเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล คุณหญิงสุดารัตน์ เข้าพบและร่วมรับประทานอาหารกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์ เปิดเผยว่า มารายงานเรื่องเอฟทีเอในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ให้นายสมคิดทราบ ผู้สื่อข่าวถามว่า มาคุยกันเพื่อสนับสนุนให้นายสมคิด เป็นนายกฯ หรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ไม่ใช่ เมื่อถามว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รมช.คมนาคม และนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รมต.สำนักนายกฯ ขึ้นตึกไปด้วย ได้ร่วมพูดคุยกันหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ไม่ทราบ คนละส่วนกัน และไม่ได้กินข้าวด้วยกัน

อย่างไรก็ตาม ด้านนายสมคิด ได้ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงการรับประทานอาหารร่วมกับคุณหญิงสุดารัตน์ ครั้งนี้


-นายกฯเตรียมเปิดใจออกทีวี


ต่อมาเวลา 12.40 น. นายภูมิธรรม เปิดเผยว่า ตนมารับประทานอาหารกับนายสุรนันทน์อย่างเดียว ไม่มีการพูดคุยอะไรกัน เมื่อถามว่าได้ประเมินสิ่งที่นายสมชาย ระบุนายกฯจะเว้นวรรคทางการเมืองหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ประเมินและไม่ได้คุยอะไรกันเลย เมื่อถามว่าเป็นการส่งสัญญาณถึงลูกพรรคเกี่ยวกับจุดยืนของนายกฯหรือไม่ รองเลขาธิการพรรค กล่าวว่า ไม่มีสัญญาณ เพราะยังไม่ได้ฟังจากนายกฯ ไม่เคยได้ยินที่นายกฯพูดอย่างที่นายสมชายพูด และนายสมชายพูดอะไร ตนไม่ทราบ และคงไม่ต้องถามนายสมชาย เพราะไม่มีอะไร ไม่ได้เป็นวาระอะไร ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นการพูดของนายสมชายคนเดียวหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ทราบเพราะไม่ได้คุยกับนายสมชาย แต่เดี๋ยวคงต้องคุยกันว่าท่านฟังมาจากไหน

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.ที่มีพล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกฯ เป็นประธาน ไม่มีการกำชับอะไรกับที่ประชุม และพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้โทรศัพท์ทางไกลมาถึงครม. แต่การประชุมในสัปดาห์หน้าอาจมีการประชุมทางไกลผ่านดาวเทียม หากนายกฯอยู่ในสถานที่ที่สะดวก ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่นายกฯจะให้สัมภาษณ์ในรายการทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 เวลา 07.4009.00 น. วันที่ 13 ก.ย. ในหัวข้อเปิดใจครั้งสุดท้าย มีนัยทางการเมืองอะไรหรือไม่ น.พ.สุรพงษ์กล่าวว่า ไม่ทราบ ทราบแต่เพียงว่าทางรายการได้ติดต่อสัมภาษณ์นายกฯเท่านั้น


-ชี้"พรรคสุขนิยม"แค่เรื่องโจ๊ก


น.พ.สุรพงษ์ กล่าวถึงกรณีนายสมชาย ระบุพ.ต.ท.ทักษิณจะเว้นวรรคว่า นายกฯยังไม่ได้พูดชัดเจน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เลขาธิการพรรคเคยบอกว่า ผู้บริหารพรรคยังยืนยันหัวหน้าพรรคต้องเป็นผู้สมัครบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 และเป็นนายกฯ หากพรรคชนะการเลือกตั้ง ส่วนที่มีการเสนอตัวบุคคลในพรรคขึ้นเป็นนายกฯแทนพ.ต.ท.ทักษิณนั้น อาจเป็นเพียงการคาดการณ์ของผู้ใหญ่ในพรรคแค่นั้น เพราะวันนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะรับตำแหน่งนายกฯ หรือไม่ถ้าหากชนะการเลือกตั้ง ยังเป็นเพียงแค่การพูดคุยกันในหมู่ผู้บริหารพรรคเท่านั้น ยังไม่ประชุมเป็นทางการ

ผู้สื่อข่าวถามว่าบุคคลที่เป็นข่าวว่าจะเป็นนายกฯแทนพ.ต.ท.ทักษิณ ผู้บริหารพรรครับทราบแล้วใช่หรือไม่ น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ผู้ใหญ่ในพรรคมีจำนวนมาก ทั้งรายชื่อที่นายสมชายเปิดเผย ไม่ว่านายสมคิด นายสุรเกียรติ์ และพล.ต.อ.ชิดชัย ก็เป็นผู้ใหญ่ที่มีความรู้ความสามารถ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมีเพียง 3 ท่านนี้ ยังมีผู้ใหญ่ในพรรคที่มีความรู้ความสามารถอีก

เมื่อถามถึงกรณีสำนักข่าวต่างประเทศระบุพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงการตั้งพรรคสุขนิยม ร่วมกับนายจุนอิชิโร โคอิซึมิ นายกฯญี่ปุ่น ที่จะหมดวาระในเดือนก.ย.นี้ เป็นการส่งสัญญาณเว้นวรรคทางการเมืองหรือไม่ น.พ.สุรพงษ์กล่าวว่า เรื่องพรรคสุขนิยม นายกฯพูดในวงสนทนาเล็กๆมานานแล้ว ตนเคยฟังมาเดือนกว่าแล้วว่าถ้าท่านเจอนายโคอิซึมิ จะชวนมาอยู่พรรคสุขนิยมด้วย เป็นการพูดในลักษณะที่ทำให้เกิดความรู้สึกสนิทสนมระหว่างผู้นำมากกว่า นายกฯคงไม่ได้คิดอะไรจริงจังในเรื่องนี้


-ทรท.จี้จุฬาฯหยุดเคลื่อนไหว


ที่พรรคไทยรักไทย นายพีรพันธุ์ พาลุสุข คณะทำงานฝ่ายกฎหมายและการเมือง แถลงถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มอาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยต่างๆที่ออกมาต่อต้านระบอบทักษิณว่า พรรคสอบถามผู้บริหารระดับสูงมหาวิทยาลัยต่างๆ พบว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่ได้ทำในนามสถาบัน แต่กลุ่มผู้ดำเนินการพยายามอ้างชื่อสถาบัน เช่น กรณีนิด้า ที่นายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน นำกลุ่มอาจารย์ และนักศึกษากว่า 500 คน ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อต้านพ.ต.ท.ทักษิณ อธิการบดียืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับสถาบัน และจากการตรวจสอบกลุ่มบุคคลที่เคลื่อนไหวที่มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม นิด้า หรือจุฬาฯ พบว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน เราอยากให้หยุดพฤติกรรมการเอาชื่อเสียงมหาวิทยาลัยมาเคลื่อนไหวเพื่อประโยชน์ทางการเมือง เพราะจะทำให้สังคมสับสน ชื่อเสียงสถาบันเสียหาย ขณะนี้กฤษฎีกาเลือกตั้งมีผลบังคับใช้ ถ้าดำเนินการใดๆทางการเมือง อาจสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายเลือกตั้ง

นายสุรชัย เบ้าจรรยา คณะทำงานฝ่ายกฎหมายและการเมือง พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า นายทวีศักดิ์ ฉวยโอกาสช่วงที่นักศึกษาว่างพอดี รวมตัวเคลื่อนไหวต้านระบอบทักษิณ ถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ถ้าเห็นว่าใครทำผิดก็ไปแจ้งความตามกฎหมาย อย่าดึงสถาบันการศึกษามาเสื่อมเสียไปด้วย วันที่ 14 ก.ย.นี้ทราบว่าที่จุฬาฯ จะมีการระดมเครือข่ายหน้าเดิมๆ มาเคลื่อนไหวอีก จึงอยากให้หยุดการกระทำในลักษณะนี้เสีย รัฐธรรมนูญ มาตรา 70 ระบุไว้ชัดเจนว่า บุคคลผู้เป็นข้าราชการต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง


-นายกฯใหม่-ปาร์ตี้ลิสต์ต้นๆ


น.ต.ศิธา ทิวารี โฆษกพรรคกล่าวถึงกรณีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มวังน้ำยม ไม่พอใจถูกลดบทบาท โดยให้รัฐมนตรีดูแลพื้นที่เลือกตั้งคนละ 20 เขตว่า ไม่ถือเป็นการลดบทบาท แต่เป็นการจัดรูปแบบพรรคให้มีความพร้อมเลือกตั้ง การที่รัฐมนตรีคนอื่นมาช่วยหาเสียงแต่ละพื้นที่ ก็เพื่อให้การบริหารงานดีขึ้น คิดว่าไม่มีปัญหา ทุกคนในพรรคพร้อมทำงานร่วมกัน หลายคนช่วยกันยิ่งดี

น.ต.ศิธากล่าวถึงการเว้นวรรคของพ.ต.ท.ทักษิณว่า ขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณยังเป็นหัวหน้าพรรค และลงสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 สมาชิกคาดหวังว่าพ.ต.ท.ทักษิณเหมาะสมมากที่สุดที่จะเป็นนายกฯ แต่หากพ.ต.ท.ทักษิณรอให้กติกาเสร็จก่อน หรือรอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญเรียบร้อย ก็เป็นสิทธิที่จะตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม หากพ.ต.ท.ทักษิณประกาศเว้นวรรคจริง ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังเลือกตั้ง มั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อคะแนนนิยมของพรรค เพราะพ.ต.ท.ทักษิณยังเป็นหัวหน้าพรรค นโยบายพรรคก็ยังเดินหน้าต่อไป รวมถึงรูปแบบการทำงานของพรรคก็เป็นระบบ

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากพ.ต.ท.ทักษิณเว้นวรรค นายกฯคนต่อไปจะต้องเลือกในที่ประชุมใหญ่พรรคหรือไม่ น.ต.ศิธากล่าวว่า ตามระบบต้องพูดคุยกันในพรรค แต่วันนี้ยังไกลเกินไป ยังไม่ได้รับการยืนยันจากพ.ต.ท.ทักษิณว่าจะเว้นวรรคหรือไม่ ทั้งนี้คนที่จะเป็นนายกฯคนต่อไปต้องอยู่ในส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับต้นๆ ของพรรค


-หลังเลือกตั้ง"แม้ว"ชัดเจนแน่


นายเอกพร รักความสุข โฆษกศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง พรรคไทยรักไทย เปิดเผยว่า แกนนำพรรคเรียกประชุมว่าที่ผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง เบื้องต้นคณะผู้บริหารจะพิจารณาตัวผู้สมัครทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ว่าใครเหมาะสม และควรอยู่ลำดับที่เท่าไหร่ ก่อนจะประชุมคัดเลือกอีกครั้ง โดยจะเปิดตัวผู้สมัครได้ในวันสุดท้ายก่อนวันที่กกต.เปิดรับสมัคร นอกจากนี้ที่ประชุมยังวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์การเมือง โดยจะพิจารณาแนวโน้มการเลื่อนวันเลือกตั้งออกไป คณะทำงานด้านต่างๆ ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง จะนำเสนอนโยบายให้ว่าที่ผู้สมัครส.ส. เพื่อทำความเข้าใจและนำไปใช้หาเสียงด้วย

นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองหัวหน้าพรรค กล่าวภายหลังการประชุมผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ถึงความชัดเจนในการชูพ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯว่า การพิจารณาผู้สมัครส.ส.เขตลงตัวค่อนข้างมากแล้ว แต่ส.ส.บัญชีรายชื่ออยู่ระหว่างจัดทำ ส่วนผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกฯ จริงๆแล้วเป็นเรื่องของส.ส.ในสภาจะพิจารณา และตามความเข้าใจสมาชิกพรรค พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 อยู่ เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณเคยบอกว่าเหนื่อยกับการเมืองและอยากให้รุ่นน้องขึ้นมา นายพงศ์เทพกล่าวว่านายกฯท่านยังสดชื่นแข็งแรง ตั้งใจทำงานตลอดเวลา ยังไม่เคยได้ยินว่านายกฯพูดว่าเหนื่อย ได้ยินแต่ว่าทำงานเต็มที่ เชื่อว่าหลังการเลือกตั้งทุกอย่างคงชัดเจนขึ้น


-ฟุ้งทีมเศรษฐกิจเป็นต่อปชป.


นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ หนึ่งในคณะทำงานผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้พูดถึงนโยบายที่พรรคไทยรักไทยจะใช้หาเสียงเลือกตั้ง และนโยบายของรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง โดยอดีตส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์และแกนนำพรรคหลายคนประเมินสถานการณ์การเมืองขณะนี้ว่าไม่ค่อยดี ไม่นิ่ง ทำให้สภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังดี มีปัญหา แต่ทุกคนเชื่อว่าการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น พรรคจะได้รับคะแนนไว้วางใจกลับมาจำนวนมากเหมือนการเลือกตั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา ยิ่งเรื่องเศรษฐกิจด้วยแล้ว เพียงแค่ดูรายชื่อทีมเศรษฐกิจของพรรคคู่แข่งขันอย่างประชาธิปัตย์ก็พบว่าห่างชั้นมาก เทียบกันไม่ได้เลย เรามีทีมเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งกว่าเยอะในการชูหาเสียงเลือกตั้ง เช่น พ.ต.ท.ทักษิณ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายทนง พิทยะ และนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล

นางลดาวัลลิ์กล่าวด้วยว่า ในที่ประชุมนายสุขวิช รังสิตพล อดีตรมว.ศึกษาธิการ นำเสนอนโยบายการศึกษาของพรรคว่า พรรคจะยังเน้นเรื่องการให้ความเท่าเทียมทางการศึกษากับประชาชน ที่สำคัญพรรคจะชูนโยบายการศึกษาใหม่ คือการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศจัดตั้งศูนย์เด็กเล็กประจำหมู่บ้านทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ เพื่อดูแลเด็กในวัย 1-3 ปีหรือวัยก่อนอนุบาล เพื่อช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสทั้งหลาย รวมทั้งจะมีการเพิ่มเงินสนับสนุนการศึกษาในทุกระดับมากขึ้น รวมทั้งการสานต่อโครงการเรียนฟรี 12 ปี


-"สมคิด"โดดประชุมพรรคอีก


ว่าที่ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวว่าวันนี้สมาชิกพรรคและประชาชนเชื่อมั่นในตัวพ.ต.ท.ทักษิณ หากว่าพ.ต.ท.ทักษิณประกาศเว้นวรรคจะเกิดผลกระทบ และเสียหายกับพรรคมากพอสมควร แต่เราต้องเคารพการตัดสินใจของพ.ต.ท.ทักษิณด้วย เมื่อถามว่าพรรคจะให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ลงสมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อหรือไม่ ว่าที่ร.ต.ไพโรจน์กล่าวว่านายสมคิดต้องลงสมัครระบบบัญชีรายชื่อแน่นอน เพราะตั้งใจทำงานให้ประชาชนสูงมาก เป็นคนเสียสละ พรรคมอบหมายงานใดให้ก็รับไปดำเนินการและไม่ยึดติดอะไร ล่าสุดนายสมคิดรับผิดชอบด้านเศรษฐกิจและการวางนโยบายพรรคในการหาเสียง เมื่อถามว่านายสมคิดยืนยันในการประชุมพรรควันนี้แล้วหรือไม่ว่าจะลงสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อแน่นอน ว่าที่ร.ต.ไพโรจน์กล่าวว่าวันนี้นายสมคิดไม่ได้เข้าร่วมประชุม

เมื่อถามถึงกรณีสมาชิกพรรคบางคนคัดค้านการที่นายแก้วสรร อติโพธิ เสนอตัวทำงานในหน้าที่เลขาธิการกกต. โดยอ้างว่าไม่เป็นกลางทางการเมือง ว่าที่ร.ต.ไพโรจน์กล่าวว่าเป็นการแสดงความเห็นตามปกติ วันนี้มีกกต. 5 คนแล้ว ขอให้ทำงานอย่างโปร่งใส จะดึงใครมาช่วยงานก็ได้ พรรคห่วงจริงๆ คือเรื่องการเลือกตั้งในพื้นที่กทม. เพราะการเลือกตั้งส.ก.และส.ข.ครั้งล่าสุดมีบทเรียนมาแล้ว ขอให้กกต.ทุกระดับอย่าทำซ้ำรอย


-เผยไฮไลต์"แม้ว"ออกช่อง5


วันเดียวกัน นายจักรพันธุ์ ยมจินดา อดีตส.ส.กทม. พรรคไทยรักไทย ผู้ดำเนินรายการสถานีสนามเป้า ททบ.5 กล่าวถึงการเผยแพร่เทปรายการสัมภาษณ์พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะออกอากาศระหว่างวันที่ 13-15 ก.ย. ว่ารายการแบ่งเป็น 3 วัน วันละ 20 นาที ไฮไลต์สำคัญให้จับตาวันที่ 2 และ 3 สำหรับประเด็นที่พ.ต.ท.ทักษิณพูดถึงเรื่องอนาคตทางการเมือง ไม่มีการพูดที่ชัดเจนว่าจะเว้นวรรคหลังเลือกตั้ง แต่คำพูดจับสัญญาณบางอย่างได้ และไฮไลต์สำคัญอีกอย่างคือประเด็นมิตรเก่าที่กลายเป็นศัตรู

แหล่งข่าวเปิดเผยเนื้อหาและรายละเอียดคำให้สัมภาษณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณที่มีความยาวกว่า 1 ชั่วโมงว่า พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวตอนหนึ่งว่าที่ผ่านมาพยายามทุ่มเททำงาน จนสามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศได้ แต่วันนี้ทำอะไรก็ผิดไปหมด แต่อนาคตและตำแหน่งทางการเมืองไม่มีการยึดติด พร้อมกับระบุว่า "นายกฯคนต่อไปอาจไม่ใช่ผมก็ได้" นอกจากนี้ในการตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องอนาคตทางการเมือง พ.ต.ท.ทักษิณจะใช้คำพูดว่า"ถ้า" ทั้งยังมีช่วงที่พูดถึงเรื่องมิตรที่กลายเป็นศัตรู ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณใช้เวลาพูดเรื่องนี้ค่อนข้างนาน ก่อนจะสรุปในตอนท้ายว่า "สักวันหนึ่งพวกเขาจะเข้าใจผม"

นอกจากนี้พ.ต.ท.ทักษิณยังพูดถึงผลงาน 5 ปีของพรรคไทยรักไทย และย้ำว่าการแก้ปัญหาเศรษฐกิจยังเน้นรากหญ้า เพื่อทำให้ฐานพีระมิดข้างล่างแข็งแรง ไม่ใช่มุ่งเน้นที่ข้างบนพีระมิดอย่างเดียว พ.ต.ท.ทักษิณยังกล่าวถึงกรณีลอบสังหารและการชุมนุมของกลุ่มต่อต้าน เวลาที่ออกงานตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะในกทม.ว่า ไม่คิดว่าผู้นำประเทศต้องโดนแบบนี้ ทุกวันนี้ไปไหนก็ไม่ได้ ต้องคอยระมัดระวัง จนบางครั้งรู้สึกอึดอัด ไม่เป็นตัวของตัวเอง แต่เมื่อเป็นคำแนะนำของฝ่ายรักษาความปลอดภัยก็ต้องปฏิบัติตาม


-เผยผู้สมัครกทม.ยังไม่ลงตัว


รายงานข่าวจากพรรคไทยรักไทย เผยว่า ในการประชุมภาคกทม. ซึ่งมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นประธาน สั่งให้ผู้สมัครส.ส.กทม.ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อชี้แจงข่าวลือต่างๆ ที่โจมตีพรรคอย่างหนักในช่วงนี้ให้ประชาชนเข้าใจ และยังสั่งให้ระวังตัวในการหาเสียง เพราะมี กกต.ชุดใหม่แล้ว และต้องจับตาดูว่าใครจะขึ้นมาเป็นประธานกกต. ขณะเดียวกันยังสั่งให้ช่วยกันเสนอเรื่องการทำหน้าที่ของกกต.กทม. และเจ้าหน้าที่เขตต่างๆ ด้วย หลังจากการเลือกตั้งส.ก.-ส.ข.ที่ผ่านมา พรรคเป็นฝ่ายแพ้ยับเยิน ส่วนกระแสความขัดแย้งในการเปลี่ยนตัวผู้สมัครส.ส.กทม.บางคน จนอดีตส.ส.ต้องวิ่งเต้นกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เลขาธิการพรรค ให้ไปเจรจากับคุณหญิงสุดารัตน์ เพื่อขอลงสมัครในพื้นที่เดิมนั้น ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป

รายงานข่าวจากผู้สมัครส.ส.ภาคอีสาน พรรคไทยรักไทย แจ้งว่า การหารือของอดีตส.ส.กลุ่มวังน้ำยม และส.ส.อีสานเมื่อคืนวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา เบื้องต้นพอจะทราบแนวทางของพรรคแล้วว่า เขตใดที่อดีตส.ส.ของพรรคชนะแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ พรรคจะสนับสนุนปัจจัยในการรณรงค์หาเสียงน้อยลงกว่าเดิม แต่พรรคยังจ่ายเงินเดือน เดือนละ 5 หมื่นบาทให้อดีตส.ส.ตามปกติ เพราะทราบมาว่าพ.ต.ท.ทักษิณเคยพูดกับแกนนำกลุ่มต่างๆ ว่า การเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย.นั้น พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนดูแลผู้สมัครด้วยตัวเองทั้งหมด ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้หัวหน้ากลุ่มต่างๆ ควรดูแลอดีตส.ส.ในกลุ่มด้วยตัวเอง เขตใดที่พรรคต้องแข่งขันกับพรรคอื่นซึ่งมีกว่า 20 เขตนั้น รัฐมนตรีและหัวหน้ากลุ่มที่ดูแลเขตนั้น จะต้องลงพื้นที่หาเสียงให้หนักขึ้น


-"เทือก"หนุนเลื่อนวันเลือกตั้ง


เมื่อเวลา 11.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค ให้สัมภาษณ์ถึงข่าว กกต.ชุดใหม่เตรียมเลื่อนวันเลือกตั้งว่า เห็นด้วย เพราะ กกต.ชุดใหม่ต้องใช้เวลาสะสางปัญหาต่างๆ ที่ กกต.ชุดเก่าทำไว้ วันนี้เร็วเกินไปที่จะกำหนดว่าการเลือกตั้งควรมีขึ้นวันใด แต่ไม่ว่าจะมีขึ้นเมื่อใดก็รอได้ ขอให้มีความสุจริตเที่ยงธรรม ในส่วนของพรรคแม้อาจจะกระทบต่อแผนการเลือกตั้งของพรรคที่มีเงินน้อย แต่เราเตรียมพร้อมอยู่ตลอด อบรมสัมมนาสมาชิกและสาขาพรรคอย่างต่อเนื่อง เน้นย้ำไม่ให้กระทำผิดการเลือกตั้ง แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม ส่วนการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง พรรคจะส่งครบ 400 เขต ขณะที่การส่งผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคยังคงรับสมัครผู้ที่สนใจลงสมัครอยู่ ส่วนนโยบายของพรรค นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคกำลังทยอยประกาศ นโยบายพรรคไม่เน้นความหวือหวา แต่เน้นการทำจริง ประชาชนสัมผัสได้

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคกล่าวถึงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางต่อไปประชุมที่คิวบา โดยไม่เดินทางกลับประเทศไทยก่อนว่า ไม่มีใครคิดว่าเป็นการลี้ภัยตามที่นายกฯพูด การที่หยิบยกคำพูดเช่นนี้ขึ้นมา ต้องมีวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดแน่นอน เช่นเดียวกับเรื่องการปฏิวัติ และการลอบสังหาร จนมาถึงการลี้ภัย ซึ่งจะเห็นว่าคำพูดไม่เกิดผลดีโดยเฉพาะออกมาจากปากนายกฯ อาจจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประเทศ และอาจมีเจตนาให้เห็นความผิดปกติได้ ขณะนี้การเมืองได้เดินไปสู่บรรยากาศที่ดี กำลังจะมี กกต.มาจัดการเลือกตั้ง ดังนั้น นายกฯไม่ควรเอ่ยคำใดๆ ที่ก่อให้เกิดความไม่มั่นใจและส่งผลกระทบต่อประเทศ ควรหลีกเลี่ยงใช้คำพูดไม่ว่าเจตนาหรือพูดเล่นพูดจริง


-จี้โละกกต.เขต-จังหวัดทั่วปท.


โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันที่ 13 ก.ย. พรรคจะไป จ.สมุทรสาคร เพื่อเปิดวาระประชาชนด้านสาธารณสุข ที่ร.พ.บ้านแพ้ว รวมทั้งจะเปิดตัวผู้สมัครในจ.สมุทรสาครด้วย วันที่ 15 ก.ย. พรรคจะเดินทางไปจ.ราชบุรี เปิดวาระประชาชนด้านการศึกษา และช่วงบ่ายจะไปจ.กาญจนบุรี เพื่อพบปะพูดคุยกับเกษตรกรที่มีปัญหา รวมทั้งเปิดตัวผู้สมัครในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม วันที่ 14 ก.ย. พรรคจะเปิดวาระประชาชนใต้สันติ เชื่อว่าหลังจากนำเสนอวาระประชาชนอย่างละเอียดแล้ว ประชาชนจะมั่นใจว่าเมื่อพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาบริหารประเทศ จะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลง

นายสุทัศน์ เงินหมื่น กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเรียกร้องให้คณะอนุกรรมการของ กกต.ทั้ง 10 ชุดได้รับการแต่งตั้งโดย กกต.ชุดเก่าลาออก นอกจากนี้ กกต.ใหม่ควรสรรหา กกต.เขตและจังหวัดใหม่ทั้งหมด เพราะการเลือกตั้ง 2 เม.ย. ศาลพิพากษาว่าผิดกฎหมายทั้งประเทศ ดังนั้น กกต.ระดับจังหวัดทั้งประเทศควรรับผิดชอบด้วยการถอนตัวออกไปด้วย นอกจากนี้อยากเรียกร้องให้ผู้พิพากษา อัยการ ตัวแทนสภาทนายความ และองค์กรเอกชน สมัครเข้ามาให้ กกต.ใหญ่เลือก เพราะปัจจุบันความเชื่อมั่นของประชาชนต่อผู้พิพากษาและอัยการสูงมาก ดังนั้น ขอให้ กกต.ชุดใหม่ทำหนังสือถึงประธานศาลฎีกาขอความร่วมมือไปยังตุลาการ อนุญาตให้ผู้พิพากษาจังหวัดละ 1 คน มาเป็น กกต.จังหวัด และขอให้ดำเนินการโดยเร่งด่วน อย่าไปคำนึงถึงระยะเวลาว่าจะเป็นวันนั้นวันนี้ ถ้าจะจัดการเลือกตั้งในเดือนพ.ย.หรือธ.ค. อาจถูกมองว่าได้รับการชี้นำจากนายกฯ ได้ เพราะนายกฯพูดเสมอว่าจะมีการเลือกตั้งในช่วงนั้น


-"สุเมธ"หนุน"อภิชาต"ปธ.กกต.


วันเดียวกัน นายสุเมธ อุปนิสากร ว่าที่ กกต. กล่าวถึงการเลือกประธาน กกต.ว่า ได้พูดคุยส่วนตัวกับนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ว่าที่ กกต. เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ซึ่งเจอกันโดยบังเอิญ จึงพูดคุยกันเรื่องนี้ ตนขอร้องให้นายอภิชาตรับตำแหน่งประธาน กกต. เพราะเป็นบุคคลเหมาะสมที่สุด โดยหลักการของระบบตุลาการจะเคารพความอาวุโส ซึ่งนายอภิชาตได้ตอบรับ ทำให้ตนสบายใจ เพราะเชื่อว่าว่าที่กกต.ที่เหลือคงไม่มีปัญหา และไม่จำเป็นต้องหารือนอกรอบกันอีก คงจะร่วมประชุมกันอย่างเป็นทางการที่รัฐสภาในวันที่ 14 ก.ย. และแจ้งให้ที่ประชุมรับทราบแทน

"ถ้าจะให้เป็นประธาน ผมคงไม่เป็น ไม่ไหวแน่ ถ้าใครจะมาเป็นก็เหมือนกัน เพราะเมื่อเข้าไปแล้วต้องช่วยกันทำงาน โดยเฉพาะยังมีงานเร่งด่วนที่ต้องเข้าไปเคลียร์อีกมาก" นายสุเมธกล่าวและว่า ส่วนตำแหน่งเลขาธิการ กกต. ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนมาก คงต้องให้กกต.ทั้งหมดได้ประชุม และวางกรอบคัดเลือกร่วมกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลฎีกาว่า ในวันนี้นางสดศรี สัตยธรรม และนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ได้เดินทางมาทำงานที่ศาลฎีกา โดยทั้ง 2 คนอยู่ระหว่างขั้นตอนการลาออกจากตำแหน่งตุลาการ เพื่อเข้าทำหน้าที่ กกต. โดยคาดว่าการลาออกจะมีผลก่อนวันที่ 24 ก.ย.


-"ครูหยุย"ค้านส.ว.ถวายฎีกา


นายประพันธ์ นัยโกวิท ว่าที่ กกต. ให้สัมภาษณ์กรณีนายสุเมธ อุปนิสากร ระบุจะให้นายอภิชาต สุขัคคานนท์ เป็นประธานกกต.ว่า ยังไม่ทราบ ว่าที่กกต.ยังไม่ได้หารือกัน คงต้องประชุมกันก่อน สำหรับแผนการทำงานของกกต.ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่จากสำนักงานกกต. ได้ส่งเอกสารสรุปข้อมูล และปัญหาข้อเสนอแนะต่างๆ ในการเลือกตั้งมาให้แล้ว แต่ยังไม่ได้อ่าน เพราะแผนการทำงานคงต้องหารือกับกกต.แต่ละคนก่อนว่าใครจะทำอะไร ซึ่งคงจะคุยกันภายในในวันที่ 14 ก.ย.ที่จะนัดประชุม เพื่อเลือกประธาน กกต.

ผู้สื่อข่าวถามถึงตำแหน่งเลขาธิการ กกต. นายประพันธ์กล่าวว่า ต้องหารือกับ กกต.คนอื่นๆ ด้วย ก็คิดอยู่ว่าจะคัดเลือกคนในมาเป็นเลขาธิการ กกต.ดีหรือไม่ เพราะมีรองเลขาธิการถึง 6 คน หรือเปิดโอกาสรับสมัครบุคคลจากภายนอกด้วย ต้องดูระเบียบอีกครั้ง ยังไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรกันแน่ ส่วนตัวยังไม่ได้มองใครไว้ และยังไม่มีใครติดต่อเสนอตัวเข้ามา

นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ รักษาการส.ว.กทม. กล่าวถึงข่าวส.ว.กลุ่มหนึ่งเตรียมยื่นถวายฎีกาทักท้วงผลการเลือกตั้ง กกต.ว่า ไม่เห็นด้วย อยากขอร้องให้ยุติ เพราะจะทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นอีก หากทราบว่าส.ว.คนใดดำเนินการ ตนจะห้ามปราม แม้การเลือก กกต.ของส.ว.ที่ผ่านมาจะมีขบวนการไม่ชอบมาพากล แต่กรณีนี้ควรทำเป็นบันทึก เพื่อแจ้งแก่ส.ว.ชุดต่อไปให้นำไปเป็นบทเรียนมากกว่า เพราะมั่นใจว่า 5 ว่าที่กกต.ไม่รู้เรื่องในขบวนการที่เกิดขึ้น อีกทั้งทุกคนเป็นคนดี มีประวัติการทำงานซื่อสัตย์สุจริต เชื่อมั่นว่าทุกคนจะเข้ามาทำหน้าที่ได้ดี


-พฤติกรรมชี้ชัด"บล็อกโหวต"


น.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ รักษาการ ส.ว.อุบลราชธานี กล่าวถึงการลงมติเลือก กกต.ของวุฒิสภา ว่า ประเด็นไม่ได้อยู่ที่คนถูกเลือก แต่อยู่ที่คนเลือก มีการบิดเรื่องเพื่อไปกระทบว่าที่ กกต. 5 คน ทั้งที่ความจริงไม่ใช่ วันที่ลงมติกันนั้น ช่วงขานคะแนน ได้คอยจดคะแนนไว้ด้วย เพราะต้องการทราบว่าบล็อกโหวตกันอย่างไร เมื่อพบตัวเลข 3, 5, 6, 8, 9 ความรู้สึกที่เกิดขึ้นไม่แตกต่างจากสื่อที่พบว่ามีรักษาการ ส.ว.จำนวน 68 คนที่สั่งได้ ทำให้เห็นว่าการเลือกองค์กรอิสระไม่ได้อิสระ ทั้งที่ส.ว.ได้เคยปฏิญาณตนไว้ตามมาตรา 150 ของรัฐธรรมนูญว่า จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต แต่ผลที่ออกมาจากการเลือกองค์กรอิสระกลับทำไม่ได้

น.พ.นิรันดร์กล่าวว่า เรื่องนี้จึงเป็นประเด็นหลักที่ต้องให้สังคมรู้ ไม่ใช่ผิดที่ กกต.ว่าจะเป็น กกต.เกรดบี แต่การเลือกต้องเป็นอิสระจริงๆ จึงต้องการให้เห็นว่าเมื่อทำผิดแล้วยังเริงร่าว่าทำสำเร็จแล้ว ซึ่งจะทำให้ ส.ว.ชุดใหม่เห็นว่า เมื่อทำผิดแล้วเอาผิดไม่ได้แล้วจะมี ส.ว.ทำไม เลือกองค์กรอิสระกี่ชุดก็สั่งได้อย่างนี้ หากมองตามกฎหมาย ไม่มีใบเสร็จ เอาผิดไม่ได้ แต่พฤติกรรมออกมาแล้ว จึงต้องการพูดเรื่องจริยธรรม แต่วันนี้จริยธรรมนักการเมืองไม่มีแล้ว มีแต่เหลี่ยมกับหนา ส่วนการจะถวายฎีกาหรือไม่ ต้องมาคุยกันว่าเหมาะสมและควรหรือไม่ แต่ไม่ใช่เรื่องขี้แพ้ชวนตี


-"สมชัย"สนใจเก้าอี้เลขาฯกกต.


นายสมชัย ศรีสุทธิยากร เครือข่ายประชาชนตรวจสอบการเลือกตั้ง กล่าวว่า ตำแหน่งเลขาธิการ กกต.ต้องทำงานเป็นทีมเดียวกับกกต. ต้องมีความเห็นไปในทางเดียวกับ กกต. โดยยึดเป้าหมายสูงสุดคือจัดเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม และต้องมีความสามารถในการบริหาร เพราะระเบียบส่วนใหญ่ยังเป็นระเบียบราชการ และต้องเป็นมือประสานกับหน่วยงานราชการ ภาคเอกชนและภาคประชาชน ต้องใจกว้างในการมองหน่วยงานอื่นเชิงบวก และต้องทุ่มเทเวลาให้กับงานอย่างเต็มที่

"นายแก้วสรร อติโพธิ มีความตั้งใจสูง กล้าประกาศว่ามีความตั้งใจจะช่วยเหลือเพื่อให้การเมืองดีขึ้น ในแง่ประสบการณ์เคยเป็นรองอธิการบดีฝ่ายกิจการพิเศษ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดูแลการสร้างศูนย์เอเชี่ยนเกมส์ สามารถประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ จนงานสำเร็จ ปัจจัยทั้งสองอย่างเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า นายแก้วสรรทำงานในตำแหน่งเลขาธิการ กกต.ได้แน่" นายสมชัย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก กกต.เปิดกว้างเพื่อคัดสรรเลขาธิการ กกต.จะมาสมัครหรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า ตนมีศักยภาพทำได้ เพราะเคยเป็นรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เคยผ่านงานบริหารและการศึกษา นอกจากนี้ยังปฏิบัติงานเลือกตั้งมาตลอด แต่คงไม่เสนอตัวไปสมัคร เห็นว่าคนอื่นเหมาะสมกว่า อาทิ นายแก้วสรรยกเว้นจำเป็นจริงๆ แล้วมีการประสานภายในมาก็จะพิจารณาอีกครั้ง


-เลือกตั้งหลังปีใหม่-ช้าเกิน


ที่สตูดิโอบริษัทเจเอสแอล นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตส.ว.กทม. กล่าวยืนยันว่า พร้อมรับตำแหน่งเลขาธิการกกต. หาก กกต.ชุดใหม่สนใจแนวทางที่เคยเสนอไว้เมื่อครั้งที่เสนอตัวเป็น กกต. และทาบทามมา แต่จะไม่ไปสมัครหาก กกต.ชุดใหม่เปิดรับสมัครผู้สนใจเป็นการทั่วไป และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการทาบทาม "ผมไม่สนใจไปสมัคร เพราะอยากทำงานตามแนวทางที่คิดว่าเหมาะสม ไม่ได้อยากทำงานเพราะให้ความสำคัญกับตำแหน่ง"

นายแก้วสรรกล่าวถึงการกำหนดวันเลือกตั้งที่เหมาะสมว่า ควรจะเป็นวันที่ 26 พ.ย. โดยออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งประมาณวันที่ 27 ต.ค. เมื่อพระราชกฤษฎีกามีผลจะสามารถเลือกตั้งได้ภายใน 1 เดือน และเมื่อลองนับเวลาที่จะจัดตั้งรัฐบาลไปอีก 1 เดือน ก็จะได้รัฐบาลประมาณวันที่ 25 ธ.ค. ไม่ทอดเวลาไปถึงปีใหม่และไม่เร็วเกินไป จน กกต.ชุดใหม่ทำงานลำบาก ส่วนที่มีผู้เสนอเลื่อนวันเลือกตั้งไปเป็นวันที่ 10 ธ.ค.นั้น คงไม่เหมาะสม เพราะหากเป็นวันดังกล่าว เมื่อต้องมีการเลือกตั้งซ่อมจะตกอยู่ในช่วงเวลาของเทศกาลปีใหม่ ประชาชนคงไม่อยากไปเลือกตั้ง ทางเลือกที่ 2 คือเลือกตั้งหลังปีใหม่ แต่ไม่เห็นเหตุผลที่จะเลื่อนไปไกลขนาดนั้น เพราะบ้านเมืองต้องการงบประมาณและมีรัฐบาลโดยเร็วที่สุด


-ห่วง5กกต.ใหม่เจองานด่วน


ผู้สื่อข่าวถามว่าสิ่งที่ กกต.ชุดใหม่ควรดำเนินการโดยเร็วที่สุดมีอะไรบ้าง นายแก้วสรรกล่าวว่า งานแรกที่ต้องพบคือการกำหนดเขตเลือกตั้ง ซึ่งเวลาที่มีอยู่คงไม่มีเวลาไปปรับเปลี่ยนอะไร จากนั้นต้องรีบจัดการรับสมัคร โดยปัญหาใหญ่คือ กกต.จะควบคุมการหาเสียง และจัดการเลือกตั้งอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหา ซึ่งกกต.ต้องรีบวางแผนโดยด่วนว่าจะใช้โครงสร้างของ กกต.เดิม หรือปรับโครงสร้าง โดยในระยะยาว กกต.ต้องพิจารณาว่าโครงสร้างของ กกต.ที่มีอยู่จะรองรับการจัดการเลือกตั้ง รวมถึงการจัดส่วนงานได้อย่างรัดกุมหรือไม่ งานการบริหารและการแบ่งส่วนงาน เป็นสิ่งที่กกต.ต้องเร่งดำเนินการเร็วที่สุด

นายแก้วสรรกล่าวว่า ตนเป็นห่วง กกต.ทั้ง 5 คน เพราะเวลานี้มีเรื่องต้องตัดสินใจด่วนหลายเรื่อง เช่น จะควบคุมการติดโปสเตอร์หาเสียงในจุดเดียวหรือไม่ ถ้าจะเอาอย่างนั้นต้องเจรจากำหนดจุด ที่ด่วนกว่านั้นที่ต้องตัดสินใจคือ ทุกส่วนงานของรัฐบาลเตรียมโฆษณาประชาสัมพันธ์ผลงานรัฐบาล ตรงนี้ดูแล้วเป็นการหาเสียงแฝง "ผมเป็นห่วงพี่ทั้ง 5 คนที่กระโดดลงน้ำไปแล้ว ก็เอาใจช่วยเต็มที่ ตอนนี้ทุกอย่างมันดูด่วนหมด ที่พูดไม่ได้ต้องการจะสอน เพียงแต่เสนอสิ่งที่เคยคิดมาแล้ว ให้ กกต.ต้องตัดสินใจ"

เมื่อถามว่า กกต.ชุดใหม่ทาบทามศาลฎีกาให้ส่งตัวแทนเข้าไปช่วยตรวจสอบคดีเลือกตั้งที่คั่งค้างอยู่ นายแก้วสรรกล่าวว่า ถ้าเป็นเรื่องที่เราทำได้ก็ควรเข้าไปช่วย จะเป็นอัยการ ตำรวจ หรือศาล ถ้าขอให้ไปช่วยก็ควรช่วย


-ย้ำ"โผทหาร"ไม่ต้องผ่านกกต.


เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงโผโยกย้ายนายทหารว่า นายกฯ อยู่ต่างประเทศ จึงยังไม่มีโอกาสดูรายละเอียด ยืนยันว่ายังไม่ได้ลงนาม และไม่ได้มอบหมายใครลงนามแทน แต่คงไม่ล่าช้าเกินไป เมื่อกลับมาแล้วคงมาพิจารณาและลงนามเอง

น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญเบื้องต้นกำหนดไว้ว่า ครม.รักษาการจะพิจารณาแต่งตั้งในตำแหน่งใดบ้างที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากกกต. หากตีความโดยเบื้องต้นอาจไม่จำเป็นที่จะต้องไปสู่การพิจารณาของกกต. แต่หากมีประเด็นข้อสงสัยคงต้องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาให้ชัดเจน ถ้ามั่นใจว่าประเด็นนี้ชัดเจนก็สรุปได้ แต่หากกฤษฎีกาคิดว่ายังเป็นประเด็นที่ต้องทำความชัดเจนเพิ่มเติม จะต้องส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ รักษาการสามารถลงนามแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ได้หรือไม่ น.พ.สุรพงษ์กล่าวว่า หากมีประเด็นต้องการให้ชัดเจน ต้องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาให้คำวินิจฉัย แต่ขณะนี้นายกฯ อยู่ต่างประเทศ และยังไม่ได้ลงนาม แต่การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารเมื่อช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ที่พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกฯ ลงนามแทนนายกฯ ซึ่งอยู่ในช่วงลาพักนั้น ก็ไม่ได้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของกกต. หากมีปัญหาเชื่อว่านายกฯ คงจะถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน กรณีนี้เทียบเคียงได้กับการแต่งตั้งผู้พิพากษา หรือประธานศาลฎีกาที่เพิ่งแต่งตั้งเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งต้องใช้หลักเกณฑ์เดียวกันหมด


-"ป๋าเปรม"ไม่พูดเรื่องย้ายทหาร


ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า ปิ่นเกล้า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานเปิดงานสัปดาห์รักษ์หัวใจแห่งประเทศไทยเฉลิมพระเกียรติ ครั้งที่ 20 ของมูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ภายหลังเสร็จพิธี พล.อ.เปรมปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นถึงสถานการณ์การเมือง โดยกล่าวว่า "บอกหลายทีแล้วว่าจะไม่พูด" ผู้สื่อข่าวถามถึงปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร จนทำให้กองทัพเกิดความแตกแยก พล.อ.เปรมกล่าวว่า "ไม่มี ไม่มี" ก่อนจะเดินเลี่ยงขึ้นรถเดินทางกลับ

พล.อ.อภิชาติ เพ็ญกิตติ รองปลัดฯ กลาโหม ประธานคณะกรรมการสอบสวนขอเท็จจริง กรณี 4 นายพลหน้าห้องพล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน รองปลัดฯ กลาโหม ทำหนังสือร้องเรียนพล.อ.เปรม มีการเมืองล้วงลูกการโยกย้ายทหารว่า อยู่ระหว่างการดำเนินการ และจะสรุปผลการสอบสวนให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับนายทหารทั้ง 4 นาย ต้องเชิญมาสอบปากคำถึงเจตนารมณ์ว่าต้องการอะไร การร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรมเพื่อตัวเองในกรณีที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม จะต้องร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น แต่กรณีของนายทหารทั้ง 4 นาย ร้องเรียนโดยส่วนรวมที่ระบุว่ามีการเมืองเข้ามาแทรกแซง ส่วนที่พล.ร.อ.บรรณวิทย์ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ในลักษณะเดียวกันนั้น พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รมว.กลาโหม คงไม่ติดใจ และจนถึงขณะนี้ พล.อ.ธรรมรักษ์ และ พล.อ.สิริชัย ธัญญสิริ ปลัดฯ กลาโหม ก็ไม่ได้สั่งการอะไรเพิ่มเติม


-"พ.อ."แจกใบปลิวว่อน"ทบ."


ด้านพล.อ.สิริชัย ธัญญสิริ ปลัดฯ กลาโหม กล่าวถึงกรณีพล.ร.อ.บรรณวิทย์ ออกมาวิจารณ์การปรับย้ายนายทหาร มีการเมืองเข้ามาแทรกแซงว่า พล.อ.ธรรมรักษ์ยังไม่ได้สั่งการอะไร แต่การวิพากษ์วิจารณ์การปรับย้ายทหารเป็นสิ่งที่ไม่ควร เพราะทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน เป็นความลับ คนที่บอกว่ารู้ รู้ได้อย่างไร ใครยืนยันได้ว่าจะเป็นอย่างที่คาดการณ์กัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ มีนายทหารระดับพันเอก นำใบปลิวที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์กระทรวงกลาโหม กองบัญชาการทหารสูงสุด กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศประทับอยู่ ลงท้ายว่าจาก"กำลังพลที่รักและห่วงกองทัพไทย" มาวางไว้ในกองทัพบก หัวข้อ "อย่าเผาบ้านตน ลบประเพณีของกองทัพ เพื่อตัวเองถูกบันทึกเป็นประวัติศาสตร์" เนื้อหายืนยันว่าการโยกย้ายข้าราชการทหาร ไม่ต้องผ่านความเห็นชอบของกกต. ส่วนที่มีนายทหารระดับสูงออกมาเคลื่อนไหว ถือเป็นการซ้ำเติมสถาบันกองทัพ "ขอเถิด ขอให้วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของกองทัพไทยได้อยู่คู่ชาติบ้านเมือง เป็นแบบอย่างแห่งความสามัคคีของพี่น้องร่วมชาติ สืบต่อไปเถิด" ใบปลิวระบุ

นอกจากนี้มีนายทหารบางคน นำสำเนาประมวลกฎหมายอาญาทหาร มาตรา 41 มาแจกด้วย ข้อความว่า ผู้ใดเป็นทหาร และมันบังอาจแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อผู้บังคับบัญชา หรือต่อทหารที่เป็นผู้ใหญ่เหนือมัน หรือมันหมิ่นประมาทใส่ความ หรือโฆษณาความหมิ่นประมาทอย่างใดๆ ก็ดี ท่านว่ามันมีความผิดต้องระหว่างโทษจำคุกไม่เกินกว่า 3 ปี


-อัด"บิ๊กแอ๊ด"ใช้กม.ขู่ปิดปาก


ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคกล่าวถึงกรณีพล.อ.ธรรมรักษ์ อ้างกฎหมายอาญาทหารขึ้นมาเล่นงานผู้ใต้บังคับบัญชาที่วิพากษ์วิจารณ์การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารว่า การที่นายทหารระดับนายพลออกมาเคลื่อนไหว แสดงความรู้สึกว่าการโยกย้ายไม่เหมาะสม ไม่เกิดขึ้นบ่อยในแวดวงทหารไทย ปกติทหารจะน้อมรับคำสั่งผู้บังคับบัญชาอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ออกมาแสดงความไม่ยอมรับคำสั่งที่ไม่ชอบธรรม ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ผู้บังคับบัญชาตั้งแต่รมว.กลาโหม และนายกฯ ควรรับฟัง การที่รมว.กลาโหมเป็นผู้ใหญ่และเป็นผู้บริหารสูงสุด หยิบยกกฎหมายอาญาทหารขึ้นมา ไม่ว่าจะหยิบขึ้นมาปรามหรือขู่ ย่อมไม่เกิดผลดีต่อความเป็นปึกแผ่นของทหาร ดังนั้น ต้องคุยด้วยเหตุผล สร้างความยอมรับ ซึ่งจะเกิดผลดีต่อสถาบันทหาร

"เมื่อคนระดับนายพล กล้าออกมาพูดถึงความไม่ถูกต้องชอบธรรม แสดงว่าท่านเหล่านั้นอึดอัดใจ คับข้องใจ และแน่นอนที่สุดเมื่อกล้าที่จะออกมาแล้ว คำขู่ใดๆ ก็ไม่สามารถหยุดยั้งได้" นายองอาจ กล่าวและว่า สถาบันทหารเป็นสถาบันสำคัญของประเทศ ควรมีความเป็นปึกแผ่น สามัคคี สมานฉันท์ เมื่อต้นตอของปัญหาเกิดจากความไม่ชอบธรรม ผู้นำระดับสูงจะต้องนำมาพิจารณาอย่างจริงจัง ควรจะใช้การอยู่ร่วมกันด้วยความชอบธรรม มากกว่าการอยู่ร่วมกันด้วยความชอบด้วยกฎหมายบางมาตราเท่านั้น ซึ่งคิดว่ากฎหมายบางมาตราอาจจะไม่สามารถเอาชนะความไม่ถูกต้องชอบธรรมได้อย่างเด็ดขาด


-สื่อพม่าเปิดตัว"หมอดู"แม้ว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นิตยสารการเมือง "อิระวดี" ของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารพม่า ฉบับเดือนกันยายน ได้เปิดตัวนางอีที หรือ อีทิ หญิงพิการชาวพม่า ซึ่งอ้างว่าเป็นหมอดูที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย และนักการเมืองไทยบางคน ลงทุนบินข้ามประเทศมาให้ช่วยดูดวง ตรวจชะตา เสริมบารมี

คอลัมน์ข่าวกรองในนิตยสารอิระวดี ซึ่งเป็นสื่อเรียกร้องประชาธิปไตยและต่อต้านรัฐบาลทหารพม่า รายงานว่า นางอีทีและครอบครัว อาศัยอยู่ชานกรุงย่างกุ้ง มีสภาพร่างกายเป็นคนพิการ พูดจาไม่ค่อยได้ ต้องให้น้องสาวช่วยอธิบายความต่ออีกที เวลาจะสื่อสารกับคนอื่น หรือคนที่มาขอให้นางอีทีช่วยดูดวง

"มีข่าวลือเกิดขึ้นในกรุงเทพฯ อ้างว่าพ.ต.ท.ทักษิณ และข้าราชการไทยอีกหลายคน มักเดินทางมาขอคำปรึกษาจากนางอีที ซึ่งเป็นหมอดูพม่าชื่อดังอยู่เสมอๆ รวมทั้งขอให้นางอีทีช่วยทำพิธีปัดรังควานศัตรูทางการเมือง" อิระวดี ระบุ


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์