ทนายแม้ว จวกคตส. 1 ปี ไร้น้ำยา ขุดเรื่องเก่ามาขาย

ทีมทนาย'ทักษิณ' จี้คตส.ลาออก จวก 1 ปีไร้น้ำยา ขุดเรื่องสมัยเก่าฝ่ายค้านปชป. อภิปรายไม่ไว้วางใจมากล่าวหา


ทีมทนายความพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นำโดยนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายนิคม เชาว์กิตติโสภณ อดีต ส.ว.ลำปาง และนายวิบูลย์ แช่มชื่น อดีต ส.ว.กาฬสินธุ์ แถลงกรณีการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ในโอกาสครบรอบ 1 ปี เมื่อวันที่ 30 กันยายน ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์
 

นายวิชิต กล่าวว่า ในโอกาสครบรอบ 1 ปี การทำงานของ คตส. ไม่มีผลงานอะไร และไม่มีประโยชน์ต่อบ้านเมือง
 
นอกจากดำเนินการไปตามวัตถุประสงค์ของคณะรัฐประหารที่มุ่งล้มล้าง พ.ต.ท.ทักษิณ โดยตั้งข้อกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณและคณะกว่า 10 เรื่อง แต่ละเรื่องเป็นเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์สมัยเป็นฝ่ายค้านตั้งกระทู้ถาม หรืออภิปรายไม่ไว้วางใจ อาทิ ซีทีเอ็กซ์ หวยบนดิน หุ้นแอมเพิลริช จึงถือเป็นการนำข้อกล่าวหาเดิมมากล่าวหา และยังเป็นการกล่าวหาโดยที่ยังไม่มีเหตุชี้การกระทำความผิด เพราะศาลยังไม่พิพากษา แต่ คตส.กลับนำมาอ้างในการอายัดทรัพย์ ซึ่งเป็นเงินที่มาจากการค้าขายสุจริต มีการเปิดเผยในทุกบัญชี และอยู่ในประเทศไทย คตส.ไม่ได้ไปค้นมา จึงถือว่า คตส.ไม่มีผลงานใดๆ


นายวิชิต กล่าวต่อว่า ส่วนการออกระเบียบสินบน 25 เปอร์เซนต์ ให้ผู้ชี้เบาะแสในการยึดอายัดทรัพย์

โดยระเบียบไม่ได้มีกรรมการจากกระทรวงการคลัง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มาร่วมพิจารณาการให้สินบน แต่ให้ประธาน คตส.พิจารณาโดยตรง และระเบียบนี้ยังผูกพันงบประมาณแผ่นดิน แต่ไม่ผ่านสภาถือเป็นการผิดระเบียบการพิจารณางบประมาณแผ่นดิน เป็นการกระทำที่มัวหมอง แถมยังมีการกำหนดในกฎหมายให้มีการนิรโทษกรรม คตส. เปรียบเหมือนเอาปืนไปจ่อหัวแล้วมัดมือชก แถมออกกฎมาอนุญาตให้กัดหู หรือชกใต้เข็มขัด ถือว่าไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม
 

'สำหรับเรื่องจริยธรรม นายสัก กอแสงเรือง, นายแก้วสรร อติโพธิ คตส.เคยเป็นอดีต ส.ว.ที่ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยกรณีซุกหุ้น 2 แต่ศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้อง ส่วนนายนาม ยิ้มแย้ม เป็นประธานสอบสวนคดียุบพรรค แต่ทั้ง 3 คนกลับเข้ามาเป็น คตส.จึงดูเป็นปฏิปักษ์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งแต่แรก เมื่อรัฐมนตรีในรัฐบาล 3 คน ลาออกจากกรณีถือหุ้นเกินแล้ว กรรมการ คตส. ควรคำนึงถึงจริยธรรมตามแบบอย่างดังกล่าวด้วย' นายวิชิต กล่าว


นายวิชิต กล่าวด้วยว่า ส่วน คตส.อีก 3 คน ที่เป็นผู้พิพากษา การเข้ามารับตำแหน่งอาจขัดประมวลจริยธรรมข้าราชการตุลาการ


ทั้งเรื่องความเป็นอิสระของผู้พิพากษา ข้อ 27 การเข้าไปร่วมในกิจการอื่นเท่าที่จำเป็น นอกจากนี้ประมวลข้อ 33 กำหนดว่าผู้พิพากษาต้องสนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ กรณีปัจจุบันคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) สิ้นสภาพตามรัฐธรรมนูญปี 2550 แล้ว และเข้าสู่ประชาธิปไตย ดังนั้น ไม่มีเหตุอะไรที่ต้องคง คตส.อยู่ต่อไป


'ขอเรียกร้องให้ คตส.ประกาศลาออกทั้งคณะในวันที่ 1 ตุลาคม อย่าต่ออายุไปอีกเลย คำสั่งประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 ก็บอกว่า เมื่อครบ 1 ปี หมดอายุ และให้ส่งเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ปปง. และ สตง. ดังนั้น ขอให้ส่งเรื่องไป อยู่ต่อไปก็ไม่สง่างาม ส่วนที่ คตส.บางคนระบุว่าเป็นการต่ออายุการทำงาน ไม่ใช่ต่ออายุตัว คตส. ถ้าเป็นแบบนี้ก็อย่ารับเงินเดือน' นายวิชิต กล่าว


ด้านนายนิคม กล่าวว่า กรณีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่ออายุให้ คตส. น่าจะขัดหลักการรัฐธรรมนูญฉบับ ปี 2540, 2549 และ 2550

เพราะประกาศ คปค.ฉบับ 30 มีผลทางบริหารไม่ใช่นิติบัญญัติ คตส.ไม่มีอำนาจสั่งให้ทรัพย์ที่อายัดตกเป็นของแผ่นดิน ศักดิ์ของประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ยังถือว่าเป็นคำสั่งหรือประกาศของฝ่ายบริหาร ไม่ใช่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ดังนั้น สนช.จึงไม่มีอำนาจไปก้าวก่ายการออกคำสั่งของฝ่ายบริหาร และเมื่อกำหนดว่า คตส.มีอายุ 1 ปี ย่อมไม่สามารถตรวจสอบ อายัดทรัพย์สินอื่นๆ ได้ต่อไป ตนเชื่อว่ากรณีนี้ จะมีคนไปยื่นฟ้องการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายแน่นอน


นายนิคม กล่าวต่อว่า พวกตนได้พบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่อังกฤษเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดย พ.ต.ท.ทักษิณฝากขอบคุณประชาชนที่ยังคิดถึงอยู่ และยังบอกว่ามุ่งหวังกลับประเทศ และถ้าวันนั้นมาถึง เรื่องอะไรที่ผ่านมาก็ให้สิ้นไป ไม่ติดใจเอาความ จะให้อภัยกับทุกคนที่ดำเนินการ เพราะอยากให้บ้านเมืองสงบ สมานฉันท์กันทุกฝ่าย ส่วนกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ฟ้องร้องบุคคลและองค์กรต่างๆ ไว้นั้น จะยุติหรือไม่ นายนิคม กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้พูดละเอียดขนาดนั้น บอกเพียงว่าถ้ากลับมาแล้วจะไม่เอาความ คือพูดแบบชาวเหนือว่าแล้วๆ กันไป ไม่เอาอะไรกับใคร ตนฟังน้ำเสียงก็เห็นว่าเป็นความในใจจริงๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ห่วงเรื่องการสู้คดี เพราะมั่นใจว่าไม่ผิด แต่แค่กำชับทนายให้ดำเนินการตามกฎหมาย
 
ด้านนายสัก กอแสงเรือง กรรมการ และโฆษก คตส. กล่าวถึงกรณีที่ทีมทนายความฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาเรียกร้องให้ คตส.ลาออกว่า

คตส.คงลาออกความต้องการของใครไม่ได้ เนื่องจากตามกฎหมายกำหนดให้ คตส. ทำงานจนถึงเดือนมิถุนายน 2551 ส่วนที่ระบุว่า 1 ปีที่ผ่านมา คตส.ไม่มีผลงานเป็นรูปธรรม อยากบอกว่าถ้าเขาคิดอย่างนั้น ก็ควรจะกลับมาประเทศเพื่อจะได้ต่อสู้คดีกันโดยผ่านกระบวนการทางกฎหมาย เพราะที่ผ่านมาเวลานึกจะฟ้องอะไรใคร ก็ไปฟ้อง แต่เมื่อถึงเวลาที่จะต่อสู้คดีจริงๆ กลับไม่ยอมเดินทางมา แล้วจะมาบอกว่าเราไม่มีผลงาน คงไม่ได้

นายสัก กล่าวต่อว่า ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า ถ้ากลับมาแล้วจะไม่ฟ้องร้องผู้ที่เกี่ยวข้อง และให้แล้วๆ กันไปนั้น อยากให้ทุกคนกลับไปพิจารณาดูว่าที่ผ่านมาคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอย่างไร พูดอย่างหนึ่ง แต่การปฏิบัติอีกอย่างหนึ่งหรือไม่ ถ้ากลับไปทบทวนดูก็จะรู้ว่าเป็นอย่างไร


'ที่บอกว่าให้แล้วๆ กันไปนั้น ผมไม่ทราบว่าคุณทักษิณต้องการจะสื่อถึงอะไร แต่การทำหน้าที่ของ คตส.ยังยืนยันว่าหากเราพบการกระทำความผิดที่ชัดเจน ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยไม่มีข้อยกเว้น และคงไม่มีใครมาต่อรองกับเราได้ เพราะถ้าเราไปทำอย่างนั้นก็จะถือว่าเราละเว้นการปฏิบัติหน้าที่' นายสักกล่าว และว่า ส่วนการประชุมกรรมการ คตส.ชุดใหญ่ ในวันที่ 1 ตุลาคม คงจะมีการติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบคดีตามปกติ


 
 

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์