กรมกร๊วกหาช่องฟัน พีทีวี

กรมกร๊วกหาช่องฟัน "พีทีวี"


เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 18 มี.ค. ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว ชั้น 6 ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งสถานีโทรทัศน์พีทีวี ผู้บริหารของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมพีทีวี ได้แก่ นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานกรรมการ นายจตุพร พรหมพันธ์ รองประธานกรรมการ และนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ ผู้อำนวยการสถานีฯ ร่วมแถลงข่าว โดยนายวีระกล่าวว่า ทางสถานีได้พยายามออกอากาศอย่างถึงที่สุดแล้ว

แต่ก็สามารถออกอากาศได้เพียงค่อนวัน พวกตนพยายามใช้สิทธิเสรีภาพในการสื่อสารภายใต้ กรอบรัฐธรรมนูญ และยืนยันตั้งแต่ต้นแล้วว่าหากเห็นว่าการกระทำดังกล่าวผิดกฎหมายก็พร้อมจะเป็นจำเลย แต่ก็มีการใช้วิธีอื่นที่นอกกฎหมายกับพวกตน เมื่อใช้ช่องทางสำรองออกอากาศผ่านช่อง MV1 STAR CHANNEL T.V. ก็ยังถูกสกัดกั้นอีก

ดังนั้น พวกตนจะรอให้ทางบริษัท เวิลด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เจรจาขอออกอากาศกับบริษัทแคทเทเลคอมฯ จนถึงวันจันทร์ที่ 19 มี.ค.นี้เท่านั้น จะพยายามออกอากาศต่อ ไม่ว่ารัฐบาลชุดนี้ก็ต้องเป็นรัฐบาลชุดหน้าให้ได้ และจะขอตั้งเวทีปรับทุกข์กับประชาชน ณ ท้อง สนามหลวง และขอเรียกร้องให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช. ออกมาแถลงให้ชัดว่าจะจัดการกับพีทีวี อย่างไร เพื่อให้เกิดความชัดเจน พวกตนพร้อมรับทุกมาตรการ


ขู่สู้กันจนพังไปข้างหนึ่ง


ด้านนายจตุพรกล่าวต่อว่า หลังเที่ยง วันจันทร์ที่ 19 มี.ค.นี้ หากยังมีลักษณะการขัดขวางนอกกติกาเล่นงานพีทีวีอีก ขณะที่อีกด้านหนึ่งเปิดโอกาสให้ถ่ายทอดเวทีของพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยได้ ถือเป็นการกระทำที่สวนทางกับคำพูด "พล.อ.สนธิจึงไม่คู่ควรที่จะเป็นประธานถวายสัตย์ในงาน คุณธรรมนำไทย และนับแต่เที่ยงพรุ่งนี้ไม่ท่านหรือเราต้องไปกันข้างหนึ่ง"


กรมกร๊วกหาช่องเล่นงานพีทีวี

ด้านนายปราโมช รัฐวินิจ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีที่สถานีโทรทัศน์พีทีวีหาช่องออกอากาศผ่านช่อง MV1 STAR CHANNEL T.V. พร้อมกับแพร่ภาพผ่านเว็บไซต์ WWW.PTVTHAI.COM ว่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่พีทีวีเริ่มแพร่ภาพตนได้สั่งการเจ้าหน้าที่ไปรวบรวมตรวจสอบการแพร่ภาพทั้งระบบโดยมีการบันทึกเอาไว้ทั้งหมด

ทั้งการส่งสัญญาณจากต่างประเทศและระบบส่งข้อมูลต่างๆ เราต้องตรวจสอบให้รอบคอบถึงที่มาที่ไป จะไปกล่าวหาใครลอยๆ ไม่ได้ เพราะพีทีวีเมื่อขออนุญาตตั้งสถานีโทรทัศน์ไม่ได้ และจริงๆ คือไม่มีการยื่นขออนุญาตใดๆเลย ก็เลี่ยงไปอ้างว่าร่วมผลิตรายการ เหมือนไปซื้อเวลามาผลิตรายการ ซึ่งเรารวบรวมไว้หมดทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์

เมื่อประมวลข้อมูลทั้งหมดแล้วในวันจันทร์ที่ 19 มี.ค. คงจะได้คำตอบว่าเป็นไปโดยชอบตามกฎหมายหรือไม่ ส่วนเรื่องเนื้อหารายการ ถ้าเป็นการปลุกระดม หรือสร้างความแตกแยกในสังคม ก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายด้านความมั่นคงฉบับอื่น ซึ่งทางหน่วยงานด้านความมั่นคงคงจะดูแลติดตามอยู่แล้ว


"ปชป." ติงอย่ากลัว "พีทีวี" เกินเหตุ


ทางด้านนายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มสถานีโทรทัศน์พีทีวีว่า รัฐบาลไม่ควรพะวงมากเกินไป เพราะสังคมรับรู้พฤติกรรมของกลุ่มดังกล่าวอยู่แล้วว่าเป็นเพียงกลุ่มตัวแทนการเมือง ที่หวังจะใช้เทคโนโลยีสื่อสารรูปแบบใหม่ๆ ไปเป็นกระบอกเสียงในการเผยแพร่ความคิดเห็นของตัวเอง ไม่ได้มีสถานะเป็นสถาบันสื่อมวลชนอย่างที่ เข้าใจกันแต่อย่างใด

และเท่าที่ติดตามเนื้อหาที่เผยแพร่ ผ่านช่องทางต่างๆ ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร ดังนั้น หากคนกลุ่มนี้ไม่ได้ทำผิดกฎหมายก็ไม่ควรไปปิดกั้น การปล่อยให้คนที่มีความเห็นแตกต่างได้มีกระบอกเสียงออกมาบ้างจะช่วยลดกระแสความกดดันในสังคมได้เป็นอย่างดี


จี้งานพีอาร์อย่ามัวแต่ตั้งรับ

รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ทุกวันนี้รัฐบาลมีความชอบธรรมในการให้ข้อมูลข่าวสารกับประชาชน ผ่านสื่อต่างๆได้มากอยู่แล้ว ควรใส่ใจกับภารกิจของตนเองอย่างต่อเนื่องจะดีกว่า เพราะแม้จะตั้งคณะกรรมการประชาสัมพันธ์เชิงรุกขึ้นมาร่วม 1 เดือนครึ่งแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นงานประชาสัมพันธ์เชิงรุกที่เป็นรูปธรรม สื่อของรัฐก็ยังทำงานไปวันๆ ขณะที่เวลาของรัฐบาลก็เหลือน้อยลงไปเรื่อยๆ ความศรัทธา ความเชื่อมั่นในรัฐบาลก็ลดน้อยถอยลง ถ้ายังปล่อยให้มีสภาพอย่างนี้ก็คงจะต้องเปลี่ยนชื่อเป็นคณะกรรมการประชาสัมพันธ์เชิงรับ หรือเชิงอุดในที่สุด



ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ

จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์